จำนวนผู้เข้าชม
ศาลสั่งจำคุกรักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม
4 เดือน 15 วัน
รอลงอาญา 2 ปี หลังพูดจากล่าวหาฆราวาสอมเงินวัดและดูถูกให้เสียหาย
จึงถูกแจ้งความดำเนินคดีหมิ่นประมาท จำนนด้วยหลักฐาน สารภาพในชั้นศาล เลยได้ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
จากกรณีที่นางตีคณา
บุรพเกียรติ์ และครอบครัว ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ถนัดชัย เครือวัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองลำปาง ให้ดำเนินคดีกับ
พระครูไกรสรวิลาส อายุ 23 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม ต.สบตุ๋ย อ.เมือง จ.ลำปาง ข้อกล่าวหา หมิ่นประมาท กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมดและนำส่งพนักงานอัยการ
เพื่อยื่นฟ้องศาลให้ดำเนินคดีตามกฎหมาย
ความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว
เมื่อวันที่ 17 ก.ย. 2561 ศาลจังหวัดลำปาง ได้อ่านพิพากษาคดีหมายเลขดำที่
2107/2561
คดีหมายเลขแดงที่ 2169/2561 ระหว่าง
พนักงานอัยการจังหวัดลำปาง เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง พระครูไกรสรวิลาส หรือ นายวรวุฒิ
สาระบุตร ข้อหาหมิ่นประมาณ โดยพิพากษาว่า
“จำเลย(พระครูไกรสรวิลาศ)
มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326,328
การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไป
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานหมิ่นประมาท จำคุก 3 เดือน และปรับ 6,000 บาท ฐานหมิ่นประมาทโดยการโฆษณา
จำคุก 6 เดือน และปรับ 12,000 บาท
จำเลยให้การรับสารภาพ เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษให้กึ่งหนึ่ง
ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 เดือน 15 วัน และปรับ 9,000
บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยได้รับโทษจำคุกมาก่อน
โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้กำหนด 2 ปี”
นางตีคณา กล่าวว่า รู้สึกพอใจกับผลการตัดสินของศาล
เพราะผู้ที่กระทำผิดควรได้รับการลงโทษ
โดยเฉพาะเป็นพระสงฆ์ยิ่งไม่สมควรกระทำเช่นนี้อย่างยิ่ง
และหวังว่าพระครูไกรสรวิลาสจะสำนึกผิดและกลับตัวกลับใจ เพราะที่ผ่านมาได้ให้โอกาสแล้ว
แต่ไม่ยอมเข้ามาเจรจาและไม่ยอมมาขอโทษ หรือแก้ข่าวให้ตนเองแต่อย่างใด
จนกระทั่งจำนนต่อหลักฐาน ที่มีทั้งคลิปเสียง และภาพถ่ายที่ส่งผ่านทางแอพพลิเคชั่นไลน์
จึงยอมรับสารภาพในชั้นศาล
ทั้งนี้
หลังจากพระครูไกรสรวิลาศรับสารภาพ และผลการตัดสินคดีทางอาญา ศาลได้พิพากษาไปแล้ว
ขั้นตอนต่อไปในคดีทางเพ่ง นางตีคณาจะได้ยื่นฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายต่อไป
เรื่องเดิมสืบเนื่องจาก
เมื่อวันที่ 27 ก.ค.60 นางตีคณา
บุรพเกียรติ์ และครอบครัว ได้เข้าแจ้งความต่อ พ.ต.ท.ถนัดชัย เครือวัง รอง ผกก.สอบสวน สภ.เมืองลำปาง ให้ดำเนินคดีกับ
พระครูไกรสรวิลาส อายุ 23 ปี รักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม ต.สบตุ๋ย อ.เมือง
จ.ลำปาง ข้อกล่าวหา หมิ่นประมาท หลังจากพระครูไกรสรวิลาส
ได้ส่งข้อความทางแอพพลิเคชั่นไลน์ให้ผู้อื่น ใส่ความนางตรีคณาว่าเป็น 18 มงกุฎ
หากินกับวัด
นอกจากนั้นยังได้พูดในศาลาวัดที่มีประชาชนอยู่จำนวนมาก
ว่านางตรีคณาเป็นแม่เล้า เปลี่ยนชื่อของตัวเองให้เหมือนชื่อดารา
จัดซองผ้าป่าและหากินกับวัด
หลังจากที่ครอบครัวของนางตีคณา
ได้เข้าไปเป็นเจ้าภาพในการทำพระพุทธรูปหลวงพ่อโตทันใจ หน้าตักกว้าง 6 เมตร
สูง 9 เมตร และได้รับเป็นเจ้าภาพในการทำฉัตรหลวง 9 ชั้น ขึ้นประดิษฐานไว้บนยอดโมลีขององค์พระเจ้าโตทันใจ ที่ทางวัดดำรงธรรม
อ.เมือง จ.ลำปาง และได้ดำเนินการไปเรียบร้อยด้วยดีจนแล้วเสร็จ
และได้มีการจัดงานบุญใหญ่ประกอบพิธีถวายให้กับทางวัดดำรงธรรม
เพื่อเป็นสมบัติของพระพุทธศาสนาไปเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2560
แต่หลังจากนั้นเพียง
1 วัน พระครูไกรสรวิลาศ หรือ พระครูติ่ง รักษาการเจ้าอาวาสวัดดำรงธรรม
ได้ใส่ร้ายนางตีคณา ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการทำพระพุทธรูปหลวงพ่อโตทันใจ และทำฉัตรหลวง
9 ชั้น ว่า เป็นพวก 18 มงกุฎ
แอบขโมยเงินวัดและขโมยซองเงินที่คณะศรัทธามาร่วมทำบุญไป
และยังกล่าวว่าที่ผ่านมานางตีคณาและครอบครัวได้หลอกเอาเงินวัดอื่นมาอีกหลายแห่ง
รวมทั้งยังใช้วาจาที่หยาบคาย และขยายวงกว้างออกไปและรุนแรงขึ้น
และได้กล่าวหาว่านางตีคณาเคยเป็นแม่เล้ามาก่อน และยังส่งรูปภาพของนางตีคณาพร้อมข้อความทางไลน์ให้ญาติโยมเข้าใจผิด
นางตีคณา
พร้อมครอบครัว จึงได้รวบรวมพยานและหลักฐาน ร้องเรียนไปทางคณะสงฆ์ชั้นผู้ใหญ่ในจังหวัดลำปาง
และร้องเรียนไปตามหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง
ซึ่งที่ผ่านมาได้ให้โอกาสพระครูไกรสรวิลาศ ในการเข้ามาไกล่เกลี่ย
แต่ทางพระครูไกรสรวิลาสก็ไม่ได้เข้ามาไกล่เกลี่ยแต่อย่างใด
จึงได้แจ้งความและฟ้องดำเนินคดี กระทั่งศาลมีคำพิพากษาในที่สุด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น