
หากมองมุมบวก
ก็ถือว่าเป็นช่วงเงินสะพัด จากรัฐกระจายลงสู่ธุรกิจระดับท้องถิ่น
และคนทำมาหากินแบบ พ่อค้าแม่ขายก็มีช่องทางรายได้กันคึกคัก
แต่บางครั้งก็อาจจะมีคนมองมุมมืดเล็กๆในแง่ของการจ้างเหมางานใหญ่บางโครงการ
เงินก้อนใหญ่ก็ตกในมือของผู้รับเหมาต่างถิ่น เช่น ออกาไนซ์จัดงานมักจ้างจากข้ออ้างคำว่า
“มืออาชีพ” มาจากเชียงใหม่หรือกรุงเทพฯเป็นหลัก ส่วนผู้ประกอบการท้องถิ่นก็ตกเป็นผู้รับจ้างยิบย่อยในโครงการ
ก็ต้องว่ากันไป
เพราะจะว่าไป
ผู้รับเหมาจัดงานกิจกรรม หรือที่เรียกกันว่า ออกาไนซ์ท้องถิ่น
ก็มีขนาดเล็กเกินไปจะไปต่อกร วิ่งงานโครงการใหญ่
แถมบางทีก็ติดที่ว่าเข้าไม่ถึงข่าวสารการยื่นการประมูลงานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ
ทั้ง สินค้า และ บริการ ด้วยการทำรายการประมูลราคาผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ หรือ e-bidding นั่นเอง
เพราะ
งานจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เป็นอีกหนึ่งรูปแบบของงานที่มี ช่าง ผู้รับเหมา
และผู้จำหน่ายสินค้าให้ความสนใจ
เนื่องจากเป็นงานที่มั่นใจได้ว่าทำหรือจำหน่ายสินค้าให้ไปแล้วได้รับค่าตอบแทนแน่นอน
เป็นงานที่เชื่อถือได้ และยังเสริมภาพลักษณ์ของ ผู้ที่สามารถเข้าดำเนินงานให้รัฐมีความน่าเชื่อถือในการทำธุรกิจมากขึ้นตาม
แต่ปัญหาของผู้รับเหมาที่มาจากวิธีการ e-bidding ก็คือการเชื่อมโยงกับการจ้างงานในท้องถิ่นยังน้อยมาก
บางงานก็กดราคาให้เม็ดเงินตัวเองเหลือกำไรมากไปจนกลายเป็นงานจ้างงานที่เอาเปรียบธุรกิจท้องถิ่นมากไปเช่นกัน
ทางออกของเรื่องนี้คือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่เป็นเจ้างบฯ
ต้องดูแลและกำกับการจัดซื้อจัดจ้างในเนื้องานให้มากกว่าแค่ปล่อยให้ผู้รับเหมาทำตาม
เอกสารข้อกําหนดของผู้ว่าจ้าง หรือ TOR เท่านั้น เพราะเรื่องของการจ้างงานอย่างยุติธรรม
มีคุณธรรมมักจะหายากเต็มทีจากคนนอกพื้นที่ หรือบริษัทใหญ่
ซึ่งหน่วยงานเจ้าของโครงการมักอ้างว่า จ้างออกาไนซ์แล้ว
ดูเหมือนจะเป็นการปัดความรับผิดชอบไปเสีย
ฤดูแห่งการปิดงบประมาณเดินกันยายน
ขอให้งบประมาณตกถึงคนท้องถิ่นให้ยุติธรรม
จะดีต่อการกระจายเม็ดเงินรัฐสู่ประชาชนที่น่าชื่นชม ชูใจ
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1196 วันที่ 14 - 20 กันยายน 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น