
ไม้สักเถื่อนกว่า
50 ท่อน ซุกสวนมะขามกลางหมู่บ้าน แต่กลับไม่มีใครรู้ใครเห็นว่าเป็นของใคร
ทั้งที่อยู่ห่างบ้านผู้ใหญ่บ้านไม่ถึง 100 เมตร
เจ้าหน้าที่ตรวจยึดไม้ทั้งหมดพร้อมตรวจสอบหลักมุดที่ดินเพื่อติดตามหาเจ้าของพื้นที่มาให้ปากคำ
วันที่14 ต.ค.61 นายสินธพ เรือนมั่น เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานฯ
หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.14 (แม่ทะ) โดยการอำนวยการของ
นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ
ผู้อำนวยการสำนักจัดการป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายเอช อาสุ
ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและความบุคมไฟป่า สำนักจัดการป่าไม้ที่ 3 ลำปาง ได้สนธิกำลัง ตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม กก.4
บก.ปทส. สายที่ 1 ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ ศปทส.ภ.5 เจ้าหน้าที่กองอำนวยการความมั่นคงภายในจังหวัดลำปาง
ตำรวจ สภ.แม่ทะ ร่วมกันเข้าตรวจสอบบริเวณทางเข้าสวนปลูกต้นมะขามและแปลงปลูกสักไม่มีเลขที่
กลางหมู่บ้านทุ่งพัฒนา หมู่ 12 ต.หัวเสือ อ.แม่ทะ จ.ลำปาง หลังได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า
พบไม้สักท่อนกองอยู่จำนวนมาก
คาดว่าถูกลักลอบตัดมาจากแปลงปลูกป่าในเขตป่าสงสนแห่งชาติ
จากการตรวจสอบพบกองไม้สักประมาณ 50 ท่อนวางกองทับกันอยู่ ซึ่งคาดว่าเตรียมที่จะนำไปแปรรูป เนื่องจากพบโครงสร้างการสร้างโรงงานแปรรูปไม้เถื่อนแบบถอดประกอบได้ ในเบื้องต้นไม่พบตัวผู้ต้องหา นอกจากนี้ยังพบว่าพื้นที่โดยรอบมีการลักลอบแปรรูปไม้สักมานาน เพราะมีกองขี้เลื่อยขนาดใหญ่รวมทั้งปลีกไม้ที่แปรรูปแล้วกองทับถมจำนวนมาก แต่เมื่อจะสอบถามชาวบ้านใกล้เคียง กลับปิดบ้านเงียบทั้งหมดไม้เว้นแม้แต่บ้านของผู้ใหญ่บ้านที่อยู่ตรงปากซอย ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร ก็ไม่พบว่ามีใครอยู่บ้าน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้เดินสอบถามชาวบ้านทั่วไปก็ไม่มีใครทราบว่าไม้สักเถื่อนดังกล่าวเป็นของใคร จึงได้ประสานพนักงานสอบสวน สภ.แม่ทะ เข้ามาตรวจสอบ และร่วมกันตรวจยึดไม้ทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินคดีทางกฎหมายทันที ขณะเดียวกันได้เดินตรวจสอบหลักหมุด ตัวเลขแสดงพื้นที่ครอบครองที่ดินดังกล่าวแล้ว จากนั้นจะได้ไปประสานเจ้าพนักงานที่ดิน ตรวจสอบรายชื่อผู้ที่ครอบครองที่ดินที่เกิดเหตุ เพื่อจะติดตามตัวมาให้ปากคำอีกครั้งว่ามีส่วนเกี่ยวข้องหรือไม่
ด้านนายสินธพ
เรือนมั่น เจ้าพนักงานป่าไม้ชำนาญงานฯ หน.หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.14 (แม่ทะ)
กล่าวว่า ตนเองได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่า มีการลักลอบตัดไม้สักในแปลงปลูกป่า
เขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่จาง จึงได้จัดกำลังออกตรวจสอบและค้นหา
แต่พบว่าได้คลาดเคลื่อนกับกลุ่มมอดไม้ไป แต่จากการติดตามเส้นทางลำเลียง พบว่ามีร่องรอยเข้ามาในหมู่บ้านก่อนที่จะหายไปในซอยที่เกิดเหตุ
จึงได้เดินตรวจสอบและพบว่ามีการนำไม้สักมาทิ้งในพื้นที่ดังกล่าวจึงได้ประสานกำลังเจ้าตรวจสอบทันที
ทั้งนี้จะได้เร่งสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1201 วันที่ 19 - 25 ตุุลาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น