
แจ้งจับนายก
อบต.ลักลอบทิ้งขยะในป่าสงวน และยังขุดบ่อขยะรุกป่าอีกกว่า 4
ไร่ เจ้าหน้าที่ดักซุ่มรอถึง 4 ครั้งกว่าจะพบ หลังชาวบ้านสุดทนได้รับผลกระทบจากการทิ้งขยะมานานนับ
10 ปี
จึงยื่นร้องเรียนไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้าดำเนินการ
เมื่อวันที่
3 ตุลาคม 2561 เวลา 13.40 น. นายชูเกียรติ
พงศ์ศิริวรรณ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่
3 ลำปาง ได้อำนวยการสั่งการให้ นายเอช
อาสุ ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
สายที่ 1 พร้อมกับพวก นายศิรเวช คำอ้อน
หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป. 9 (ขุนวัง) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธร สภ.ร่องเคาะ เจ้าหน้าที่ทหาร กกล.ร้อย
รส.ที่ 3 กกล.รส.จว.ลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
กองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดลำปาง เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.ตชด.ที่ 33เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ รมน.ภาค 3 เข้าตรวจสอบบริเวณป่าทิศเหนือของหมู่บ้านร่องเคาะ
ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนวังแปลง 1 หมู่ที่ 12 ต.ร่องเคาะ อ.วังเหนือ จ.ลำปาง
หลังได้รับการร้องเรียนว่ามีรถขยะขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งหนึ่ง ลักลอบขยะนำมาทิ้งในบริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้
เจ้าหน้าที่ได้นำกำลังเข้ามาซุ่มดูถึง 4 ครั้ง
แต่ไม่สามารถจับได้คาหนังคาเขา
จนกระทั่งวันนี้เจ้าหน้าที่ก็ได้เข้ามาดักซุ่มอยู่อีก เพื่อรอคนนำขยะมาทิ้ง
กระทั่งพบรถบรรทุกขนขยะมาเต็มรถ ขับขี่เข้าไปในบ่อขยะในเขตป่าสงวนดังกล่าว
ตามที่ได้รับแจ้งจึงได้แสดงตัวเข้าตรวจสอบในทันที ในเบื้องต้น พบรถเก็บขยะยี่ห้อฮีโน่
สีส้ม ทะเบียน 81-4557 ลำปาง บริเวณกระจำด้านหน้ารถ
และด้านข้างประตูรถทั้งสองฝั่ง ติดสติกเกอร์ชื่อองค์การบริหารส่วนตำบลร่องเคาะ
มีคนขับรถและผู้โดยสารมากับรถรวมทั้งหมด 3 คน จึงคุมตัวไว้ทำการสอบสวน คือ นายนพชัย มะโนรมย์ อายุ 47 ปี ราษฎรหมู่ที่
9 บ้านร่องเคาะ ต.ร่องเคาะ อ.วังเหนือ เป็นพนักงานขับรถขององค์การบริหารส่วนตำบลร่องเคาะ นายสุริยัน มูลวัง อายุ 39 ปี ราษฎร หมู่ที่ 4 ต.ร่องเคาะ อ.วังเหนือ พนักงานเก็บขยะประจำขององค์การบริหารส่วนตำบลร่องเคาะ
และนายประไพล์ มูลทิน อายุ 49 ปี ราษฎร หมู่ที่ 9 ต.ร่องเคาะ อ.วังเหนือ พนักงานเก็บขยะขององค์การบริหารส่วนตำบลร่องเคาะ
เมื่อสอบถามทั้ง
3 คน แจ้งว่า พวกตนได้รับคำสั่งจากนายชัยรัตน์ ทองใบ นายก อบต.ร่องเคาะ
ให้ไปจัดเก็บขยะตามหมู่บ้านต่างๆ แล้วขนนำมาทิ้งในบ่อขยะ จำนวน 2 แห่ง
พวกตนได้ขนขยะมาทิ้งยังบ่อขยะดังกล่าวมาตั้งแต่ได้เข้าทำงานเป็นลูกจ้างของ
อบต.ร่องเคาะ โดยได้ขับยนต์ออกจาก อบต.ร่องเคาะ เวลาประมาณ 08.30 น.
ออกไปตระเวนเก็บขยะตามบ้านขนขึ้นรถบรรทุกจนเต็มลำรถแล้วก็ขับรถขนขยะนำมาทิ้งยังบ่อขยะดังกล่าว
โดยไม่ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นป่าสงวนฯ ส่วน อบต.ร่องเคาะ
จะขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าไม้หรือไม่นั้นก็ไม่ทราบเช่นหัน
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบก็ไม่พบว่ามีหลักฐานเอกสารใดๆ
มาแสดงว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวได้รับอนุญาตตามกฎหมายแล้ว

ในเขตพื้นที่
ต.ร่องเคาะ ทาง อบต.ได้ดำเนินการเก็บ ขน และกำจัดเอง มีพนักงานเก็บกวาด และอุปกรณ์
เจ้าหน้าที่เก็บขน รถขนขยะมูลฝอย โดยระบบกองทิ้งให้ย่อยสลายเอง (Dumping on Land) หรือระบบการฝังกลบ (Sanitary Land Fill) ในสถานที่บริเวณที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนวังแปลง
1 ดังกล่าว การกระทำดังกล่าวของนายนพชัย มะโนรมย์ ผู้ขับขี่รถขนขยะนำขยะมาทิ้ง
ภายใต้การควบคุมของ นายก อบต.ร่องเคาะ ในฐานะผู้บริหารองค์กร เป็นผู้จัดหา
สรรหาที่ทิ้ง และกำจัดสิ่งปฏิกูลในเขตพื้นที่ปกครองตำบลร่องเคาะได้ร่วมกันใช้พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนวังแปลง
1 บริเวณดังกล่าวเป็นที่ทิ้งขยะ
โดยไม่ได้ขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าจากทางราชการกรมป่าไม้ จึงมีความผิดตามประมวลกฎหมายที่ดิน
พ.ศ. 2497พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 และพระราชาบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ
พ.ศ. 2507
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
นายชัยรัตน์ ทองใบ นายก อบต.ร่องเคาะ ในฐานะบุคคลธรรมดา (ผู้บริหาร) และองค์การบริหารส่วนตำบลร่องเคาะ
ในฐานะนิติบุคคล และตรวจยึดพื้นที่ป่าถูกบุกรุกจำนวน 4-2
-06 ไร่ ตรวจยึดรถขนขยะ
นำส่ง ร.ต.อ.ภาสวร บุญเตี่ยม พนักงานสอบสวนเวร สภ.ร่องเคาะ
เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
การเข้าตรวจยึดครั้งนี้
สืบเนื่องจาก นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักฯ ได้รับการร้องเรียนว่า
มีการบุกรุกที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าขุนวังแปลง 1 ท้องที่บ้าน หมู่ที่ 12 ต.ร่องเคาะโดยใช้รถแบคโฮลขุดหลุมเป็นบ่อลึกแล้วจัดให้ชาวบ้านนำขยะมาทิ้งในบ่อขุด
มีขยะสิ่งปฏิกูลจำนวนมหาศาล ทำให้เป็นแหล่งกำเนิดเชื้อโรค ที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ทำลายสิ่งแวดล้อม ส่งผลเสียให้แก่ชุมชน
บริเวณรอบบ่อขยะได้พบมีการทิ้งขยะเกลื่อนกลาด มีรอยตกแต่งขุดดินโดยใช้รถแบคโฮลขุดมาเป็นระยะเวลานานกว่า
10 ปี นั้น
ผู้ร้องแจ้งว่าได้ร้องเรียนไปหน่วยงานต่าง ๆ ในพื้นที่
ปรากฏว่าเรื่องเงียบไม่มีหน่วยงานราชการใดเข้าดำเนินการ จึงสั่งการให้ นายเอช อาสุ รักษาการ
ผอ.ส่วนป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า
นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง หัวหน้าสายตรวจปราบปรามการกระทำความผิดกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้
สายที่ 1
ร่วมกันดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง กระทั่งพบว่ามีการกระทำผิดจริงดังกล่าว
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1199 วันที่ 5 - 11 ตุลาคม 2561)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น