ป่าไม้ลุยปราบมอดไม้เข้มข้น สนธิกำลังเจ้าหน้าที่หลายหน่วย เข้าเท้าเดินตรวจตราพื้นที่ป่า
อ.เถิน พบต้นไม้ถูกตัดเกลื่อน
ยังไม่พอเผาป่าเสียหายกว่า 70 ไร่ สร้างมลพิษทางอากาศ ส่วนที่
อ.ห้างฉัตร พบรุกป่าสงวนแม่ยาวเช่นกัน คุมตัวได้ 2 คน
อ้างตัดไม้ไปเผาถ่าน
เมื่อวันที่
12 ก.พ. 62 ที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า
ที่ 17 (แม่มอกตอนขุน) บ้านกุ่มเนิ้งใต้
ต.แม่มอก อ.เถิน
จ.ลำปาง นายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ
ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) เป็นประธานเปิดปฏิบัติการพิทักษ์ป่า
พร้อมกับให้โอวาท กับเจ้าหน้าที่ก่อนออกปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและปราบปรามการตัดไม้ทำลายป่า
รวมถึงเฝ้าระวังการเผาป่าในช่วงหมอกควัน เพื่อให้รับทราบแนวทางในการปฏิบัติให้ใช้มาตรการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดกับผู้ที่เข้าไปบุกรุกแผ้วถางป่า โดยมีเจ้าหน้าที่จากหลายหน่วยงาน
ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ 17 (แม่มอกตอนขุน) หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.2 (แม่อาบ)
หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.16(แม่ปะ)
ทหาร ชป.ข่าว ประจำที่ว่าการอำเภอเถิน เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ
เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.4 บปก.ปสท.สายที่ 2 ลำปาง เจ้าหน้าที่สายตรวจปราบปรามเกี่ยวกับการกระทำผิดว่าด้วยกฎหมายป่าไม้สายที่
1 ลำปาง นำโดยนายจรัญ สะอาดจิตร
หน่วยป้องกันและรักษาป่า ที่ 17 (แม่มอกตอนขุน) นายดนุศักดิ์ หมื่นโฮ้ง
หัวหน้าที่สายตรวจปราบปรามเกี่ยวกับการกระทำผิดว่าด้วยกฎหมายป่าไม้สายที่ 1 ลำปาง
พร้อมกำลังผสมกว่า 30 นาย
นายชูเกียรติ
พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) กล่าวว่า หลังจาก
เมื่อวันที่ 16 ม.ค.62 ที่ผ่านมา พลเอก
สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ได้เปิดศูนย์ปฏิบัติการพิทักษ์ป่า (ศปก.พป.) ส่วนหน้า อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง และได้มีการจัดกำลังเข้าปราบปรามแห่งตัดไม้ทำลายป่ามาอย่างต่อเนื่อง
และในพื้นที่แห่งนี้ถือเป็นอีกเป้าหมาย จึงจัดกำลังเข้าตรวจสอบ หากพบกระทำผิดจริง
ซึ่งจะต้องเร่งติดตามหาตัวผู้กระทำผิดให้จนได้
เชื่อว่ากลุ่มขบวนการเหล่านี้เป็นคนนอกพื้นที่ เข้าไปรุกป่าตัดไม้ทำลายป่าและเผาป่า
ซึ่งเป็นสาเหตุหมอกควันไฟป่าในขณะนี้
จากนั้นได้ทำการปล่อยแถวเจ้าหน้าที่เข้าตรวจตราในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่มอก
ป่าท้ายหมู่บ้านสะพานหิน หมู่ 4 ต.แม่มอก อ.เถิน
จ.ลำปาง หลังจากได้รับแจ้งว่าในพื้นที่ดังกล่าว
มีการบุกรุกเป็นบริเวณกว้าง โดยเจ้าหน้าที่ต้องใช้การเดินเท้าลัดเลาะลำห้วยแม่งวงช้างเข้าไปหลายกิโลเมตร ปรากฏว่าตลอดสองฝากฝั่งลำห้วยมีการตัดต้นไม้
เป็นไม้กระยาเลยกองทับถมกระจัดกระจายในป่า
มีการแผ้วถางป่าและเผาป่าจนโล่งเตียน มีการบุกรักเข้าไปจับจองที่ดิน บางส่วนนำพืชสวนพืชไร่ไปปลูก
เพื่อหวังที่จะเอาเงินชดเชย หากมีการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำในพื้นที่ แต่ไม่พบตัวผู้กระทำผิด จึงได้ตรวจยึดพื้นที่ป่าจำนวน
70 ไร่ ที่ถูกแผ้วถาง และยังมีอีกจำนวนมาก ซึ่งอยู่ระหว่างเดินสำรวจตรวจสอบ เพื่อที่จะเร่งดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ต่อมาวันที่
13 ก.พ.62 กำลังเจ้าหน้าที่ สายตรวจประจำ กก.4 บก.ปทส.
สายที่ 1 (เมืองลำปาง) ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.ที่ 33 เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่
หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ ลป.5 (แม่ยาว) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองยาว
อำเภอห้างฉัตร กำลังสารวัตรทหารมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี
เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการฯ ที่ 3 เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดอยผาเมือง
เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง ออกตรวจพื้นที่เสี่ยงที่ก่อให้เกิดมลพิษทางอากาศและส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ในพื้นที่ป่าห้วยแม่คาว บ้านแม่ยามเหนือ
หมู่ที่ 8 ต.แม่สัน อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
ในพื้นที่เบื้องต้นพบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ยาว ถูกบุกรุก จำนวน 1 แปลง
เนื้อที่จำนวน 11 ไร่เศษ
ไม่พบตัวผู้กระทำความผิด พบมีการตัดต้นไม้ทิ้งนับร้อยๆต้น
มีการจุดไฟเผาป่าไปแล้วบางส่วน บางส่วนพบมีการแผ้วถางป่าใหม่เตรียมการที่จะเผาป่า
เจ้าหน้าที่ได้ซุ่มรอตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่กระทำผิดแต่ไม่พบ จึงได้แจ้ง
พนักงานสอบสวน สภ.เมืองยาว เข้ามาตรวจสอบที่เกิดเหตุเพื่อดำเนินการตามกฎหมายทันที
และในขณะเดียวกัน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตรวจตราพื้นที่โดยรอบที่เกิดเหตุ บริเวณห้วยคลองไช
ห่างจากจุดแรกไม่มากนัก ก็ได้พบกับ รถยนต์กระบะบรรทุกไม้มาเต็มคันรถ
จอดอยู่ติดกับลำห้วย มี นายศรีวะกร สุมงคล อายุ 48 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่ 10
หมู่ที่ 8 บ้านแม่ยามเหนือ ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
กำลังแบกไม้ท่อนขึ้นมาจากลำห้วยคลองไช และ นายปุ๊ด สุมงคล อายุ 55 ปี ภูมิลำเนาอยู่บ้านเลขที่
82 หมู่ที่ 4 บ้านนาน้ำมัน ต.เมืองยาว อ.ห้างฉัตร จ.ลำปาง
กำลังยกท่อนไม้ขึ้นบนกระบะรถยนต์ ทะเบียน บค 5275 ลำปาง พร้อมของกลางเลื่อยโซ่ยนต์จนวน
3 เครื่อง ที่ใช้ในการตัดไม้ทำลายป่า และไม้ท่อนของกลางจำนวนหนึ่ง
เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้งสองคนให้การรับสารภาพเนื่องจากจำนนด้วยหลักฐาน ว่าได้เข้ามาตัดไม้เพื่อที่จะนำไปเผาถ่าน
เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาและของกลางทั้งหมด ส่งดำเนินคดีตามกฎหมายทันที
สำหรับการเข้าตรวจยึดจับกุมครั้งนี้
สืบเนื่องมาจากมาตรการป้องกันและปรามปรามการลักลอบทำลายทรัพยากรป่าไม้ ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งช่วงนี้ จังหวัดลำปาง ประสบปัญหามลพิษทางอากาศมาจากสาเหตุการเผาป่า
กำลังในทุกภาคส่วนจึงลงพื้นที่สำรวจตรวจสอบอย่างเข้มค้น หากพบการกระทำผิดจะควบคุมตัวดำเนินการตามกฎหมายทันที
ไม่มีละเว้น
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1217 วันที่ 15 - 21 กุมภาพันธ์ 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น