มือยิงหนุ่มใหญ่ เจอศพสำนึกขอเข้ามอบตัว

จำนวนผู้เข้าชม

รวบตัวมือลั่นไกยิงหนุ่มใหญ่  อ.เมืองปาน หายตัว 14 วัน พบเสียชีวิตในป่า สารภาพคิดว่าเป็นหมูป่า หลังเห็นศพตกใจสุดขีดรีบออกจากป่านำปืนไปซ่อน ก่อนจะหลบหนีไปหาดใหญ่  พอเห็นข่าวจึงสำนึกได้ขอเข้ามอบตัว  ไหว้ขอขมาญาติคนตายบอกไม่ได้ตั้งใจจริงๆ

จากกรณี นายเสน่ห์ เหล็กดี อายุ 51 ปี  ราษฎรบ้านเลขที่ 160 บ้านแม่เฮี๊ย หมู่ 9 ต.ทุ่งกว๋าว อ.เมืองปาน หายตัวไปนาน 14 วัน ทางญาติได้แจ้งขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ให้ช่วยกันออกตามหา กระทั่งพบเสียชีวิตอยู่ภายในป่า ถูกยิงด้วยอาวุธปืนจำนวน 2 นัดที่ลำคอและใบหน้า  โดยพบศพเมื่อวันที่ 26 ม.ค.62 ที่ผ่านมา  หลังจากนั้นพนักงานสอบสวน สภ.บ้านเอื้อม  จึงได้เรียกตัวผู้ต้องสงสัยไปสอบปากคำจำนวน 2 คน เนื่องจากให้การว่าพบเห็นผู้ตายก่อนจะหายตัวไป

ความคืบหน้าเรื่องนี้  เมื่อวันที่ 5 ก.พ.62  พ.ต.อ.รัฐการ สุรงคบพิตร  ผกก.สภ.บ้านเอื้อม ลำปาง พ.ต.ท.อภิชาติ แรงสิงห์ รองผกก.สอบสวนฯ พร้อมด้วย พ.ต.ท.กิตติพงษ์ กังวาลไกล รองผกก.สส.ฯ  พ.ต.ท.อนุภาพ ไชยศิริ รอง ผกก.กก.สสภ.จว.ลำปาง  พ.ต.ต.นฤพล รอดวิเศษ สว.สส.สภ.บ้านเอื้อม พร้อมชุดสืบสวนได้ควบคุมตัว นายอนุวัฒน์ กูลใจ อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่  360  ม.7 ต.บ้านค่า อ.เมือง จ.ลำปาง  ผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงนายเสน่ห์ เหล็กดี อายุ 51 ปี  ราษฎรบ้านเลขที่ 160 บ้านแม่เฮี๊ย หมู่ 9 ต.ทุ่งกว๋าว อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เสียชีวิต  มาทำการสอบสวนอย่างละเอียด

 

หลังจากที่นายอนุวัฒน์  ติดต่อเข้ามอบตัวกับ พ.ต.อ.รัฐการ สุรงคบพิตร  ผกก.สภ.บ้านเอื้อม ว่าตนเองเป็นคนก่อเหตุยิงนายเสน่ห์ เหล็กดี เสียชีวิตภายในป่า  ทาง ผกก.จึงได้ทำการสอบปากคำด้วยตัวเอง ในเบื้องต้น  นายอนุวัฒน์ กูลใจ  ให้การว่า ตนเองกับนายเสน่ห์ไม่ได้รู้จักกันมาก่อน  ซึ่งในวันเกิดเหตุ  ตนนั่งซุ่มเพื่อดักยิงหมูป่าที่บริเวณเกิดเหตุ  ขณะนั้นได้เห็นเงาตะคุ่มๆ ลักษณะคล้ายกับหมูป่า จึงใช้อาวุธปืนลูกซองยิงใส่ 1นัด แล้วก็ได้ยินเสียงร้องเหมือนเสียงหมู   ซึ่งตนไม่ทราบจริงๆว่าเป็นนายเสน่ห์   สักพักจึง      เดินไปดูก็พบว่าเป็นนายเสน่ห์ที่ถูกตนยิง  จึงตัดสินใจเดินออกจากป่ามาที่บ้านและนำอาวุธปืนไปฝังดินไว้ ก่อนจะเดินทางไปทำงานที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา จนกระทั่งทราบข่าวว่ามีคนไปพบศพนายเสน่ห์  จึงตัดสินใจเดินทางเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อรับผิด

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้นำตัวนายอนุวัฒน์ ไปทำการตรวจยึดอาวุธปืนที่ก่อเหตุดังกล่าว ที่ฝังไว้ที่บ้านของตนเอง เลขที่  69 หมู่ 7 ต.บ้านค่า อ.เมืองลำปาง  โดยนายอนุวัฒน์ได้แยกชิ้นส่วนอาวุธปืนฝังไว้จำนวน 2 จุด จุดที่ พบ โก่งไก 1 ,ด้ามปืนไม้ ,ปะกับปืนไม้,อุปกรณ์ประกอบปืน จำนวน 1 ชุด  และจุดที่ 2 ฝังไว้บ้านเลขที่ 360  ม.7 ต.บ้านค่า  พบลำกล้องปืน  จึงยึดไว้เป็นของกลาง  โดยนายอนุวัฒน์ได้ยกไหว้กล่าวขอโทษและขมากับญาตินายเสน่ห์ ยอมรับผิด พร้อมกล่าวว่าไม่ได้ตั้งใจก่อเหตุในครั้งนี้

ทาง พ.ต.ท.อภิชาติ แรงสิงห์ รองผกก.สอบสวน เจ้าของคดี จึงแจ้งข้อกล่าวหา  กระทำโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ,มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัวและโดยไม่มีเหตุอันสมควร  ก่อนจะนำตัวนายอนุวัฒน์ไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1216 วันที่ 8 - 14 กุมภาพันธ์ 2562)