นักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ผ่านเข้ารอบทุนสนับสนุนรอบสอง
จำนวน 2 โครงการ ได้รับทุนสนับสนุนโครงการละ 12,000 บาท จากการแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย
ครั้งที่ 21 ประจำปี 2562 (National Software Contest : NSC
2019) ซึ่งจัดโดย
ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ (NECTEC)
เมื่อเร็วๆ นี้
อาจารย์ ดร. ปรียาภรณ์เรียนเเพง ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายบริหาร ศูนย์ลำปาง
คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เปิดเผยว่า นักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศูนย์ลำปางที่ผ่านเข้ารอบทุนสนับสนุนรอบสอง(รอบนำเสนอ) ภาคเหนือหมวดโปรแกรมวิทยาการข้อมูลและปัญญาประดิษฐ์
ได้แก่ นายกิตติชัย หน่อเทพ ผู้นำเสนอโครงการ “ระบบอาจารย์ที่ปรึกษาเสมือนจริง”ส่วนทีมที่ผ่านเข้ารอบในหมวดโปรแกรมเพื่อสุขภาพ
การแพทย์ คนพิการและผู้สูงอายุ ได้แก่ นายปรีชาเพียนจันทร์ และนายอภิสิทธิ์
วงค์สอนผู้นำเสนอโครงการ “ระบบควบคุมเตียงสำหรับการกายภาพบำบัดผู้ป่วยอัมพฤกษ์อัมพาต”ต่อไป
ผู้ชนะเลิศในแต่ละประเภทจะได้รับถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
สยามบรมราชกุมารี และได้นำส่งผลงานซอฟต์แวร์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศเข้าร่วมการประกวดในงาน
Asia
Pacific ICT Awards (APICTA) อีกด้วย
อาจารย์กฤตคม
ศรีจิรานนท์ อาจารย์ประจำคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ศูนย์ลำปาง และเป็นอาจารย์ที่ปรึกษาโครงการ กล่าวว่า การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทย
ครั้งที่ 21 ประจำปี 2562 (National Software Contest : NSC
2019) ซึ่งจัดโดยศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ
(NECTEC)เป็นเวทีประดับประเทศ
สำหรับเยาวชนและผู้ที่สนใจในการพัฒนาความรู้สู่การเป็นนักวิจัยระดับอาชีพ
จึงได้สนับสนุนให้นักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์ได้มีโอกาสพัฒนาทักษะการพัฒนาซอฟต์แวร์และนำเอาความรู้ที่ได้เรียนมาประยุกต์ใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานเข้าประกวด
ซึ่งในปีการศึกษานี้ มีนักศึกษาสาขาวิชาวิทยาการคอมพิวเตอร์
ผู้สนใจส่งโครงการนำเสนอ กว่า 10 โครงการ จากนี้ จะส่งเสริมนักศึกษากลุ่มดังกล่าว
ให้สามารถคว้าทุนสนับสนุนและรางวัลจากเวทีระดับประเทศ การแข่งขันพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์แห่งประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง
ในทุกๆ ปี
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ฉบับที่ 1221 วันที่ 15 - 21 มีนาคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น