![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiR2b82v80r_mPn3rapxDK-w8CmWB37tWmioH0GRUZvNfAPnM8dG08fIQWr7U3wn7auZ4HirWwMY5-GfbEyh6-f7LAKIiSlP4sh0ohqq7Lblm-ioSY1ckkfWDk4v5z3tmz08uZd9nvjXqs/s640/%25E0%25B8%25A3%25E0%25B9%2589%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%25A2%25E0%25B9%2580%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B7%25E0%25B9%2588%25E0%25B8%25AD%25E0%25B8%2587%25E0%25B8%25A3%25E0%25B8%25B2%25E0%25B8%25A7.jpg)
หากไม่มีคูเมืองกับเจดีย์ร้างตั้งตระหง่าน
ชุมชนที่อยู่รายรอบเราขณะนี้ก็คือชุมชนในเมืองทั่วไป
แต่ชุมชนประตูตาลไม่เป็นเช่นนั้น ที่นี่ครบถ้วนไปด้วยองค์ประกอบเมือง
ไม่ว่าจะเป็นกำแพงเมือง คูเมือง และประตูเมือง แม้บางอย่างจะสูญหายไปแล้ว
แต่ยังปรากฏตำแหน่งอยู่
แนวกำแพงเมืองรุ่นที่
1 ความยาวโดยรอบ 4,400 เมตรนั้น
โอบล้อมพื้นที่ภายในทั้งหมดราว 600 ไร่
ประกอบไปด้วยประตูเมืองสำคัญ ๆ ที่ปรากฏเพียงแค่ชื่อ ได้แก่ ประตูต้นผึ้ง
ประตูผาบ่อง ประตูท่านางเหลียว ประตูนกกต ประตูม้า และประตูตาล
บริเวณชุมชนประตูตาลยังมีคูเมืองที่คงสภาพของลำน้ำเล็ก
ๆ ร่มรื่นให้เห็นอย่างชัดเจน แม้วันนี้จะตื้นเขิน แห้ง และบางช่วงก็เต็มไปด้วยจอกหูหนู
ทว่าครั้งหนึ่งคูเมืองเคยเอื้อประโยชน์ในการชลประทานอย่างยิ่ง นั่นเพราะเมืองรุ่นที่
1 ซึ่งมีรูปร่างคล้ายหอยสังข์นี้ตั้งอยู่บนที่ดอน
ตลิ่งที่สูงชันริมแม่น้ำวังทำให้ไม่สามารถรับน้ำจากแม่น้ำวังได้โดยตรง
ต้องรับน้ำจากทุ่งนาทางทิศเหนือเข้ามาสู่คูเมืองที่ล้อมรอบกำแพงเมือง
จึงมีการชักน้ำเข้ามาในเมืองผ่านทางร่องย่าตอง ที่เข้ามาทางประตูตาล
ลอดผ่านถนนวังโค้ง แล้วไหลขนานกับถนนวังโค้ง ผ่านวัดแจ่งหัวริน
ด้านโบราณสถานย่านประตูตาลก็ฉายชัดถึงอดีตอันรุ่งเรือง
นั่นก็คือเจดีย์ร้างวัดอุโมงค์ เจดีย์นี้มีรูปแบบบางประการที่สะท้อนงานช่างจากเมืองเชียงใหม่และเมืองเชียงแสน
หากเราเดินผ่านซอกเล็ก
ๆ ระหว่างรั้วบ้านเข้าไปจะพบองค์เจดีย์ปรักหักพังอยู่เบื้องหน้า ปกคลุมด้วยพืชคลุมดินจนรกเรื้อ
ชั้นฐานองค์เจดีย์พังทลายและมีอิฐทับถมเป็นเนินทั้ง 4 ด้านจนไม่สามารถทราบรูปแบบได้
รอบบริเวณประชิดด้วยบ้านเรือนจนแทบไม่เหลือพื้นที่
นักวิชาการได้วิเคราะห์รูปแบบศิลปะแล้วชี้แจงว่า
เจดีย์วัดอุโมงค์ร้างแห่งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงการปรับเปลี่ยนเจดีย์ทรงปราสาทยอด ที่ยังใช้แบบแผนของเจดีย์ทรงปราสาทห้ายอดในกลุ่มเมืองเชียงแสน
ผสมผสานกับแบบแผนของเจดีย์ทรงปราสาทยอดทรงระฆัง
ที่เริ่มปรับปรุงในกลุ่มเมืองเชียงใหม่
ความสัมพันธ์ทางงานช่างเชื่อมโยงอยู่บนเงื่อนไขของความสัมพันธ์ทั้งด้านอำนาจการปกครอง
การค้า และวัฒนธรรมพุทธศาสนา ทั้งจากราชธานีเชียงใหม่และเมืองเชียงแสน
อันเป็นช่วงสำคัญตั้งแต่รัชสมัยพระเจ้าติโลกราช
และอาจล่วงเลยถึงรัชสมัยพระเมืองแก้ว เพื่อการผนวกอำนาจของกษัตริย์เมืองเชียงใหม่
ที่จะทำให้ราชธานีเข้มแข็งขึ้น ดังนั้น เจดีย์วัดอุโมงค์ร้างจึงควรมีอายุแรกสร้างในช่วงต้นถึงกลางพุทธศตวรรษที่
21
ปัจจุบันเจดีย์วัดอุโมงค์ร้างมีป้ายติดไว้ว่าเป็นศูนย์เรียนรู้ของชุมชน
สะท้อนความเชื่อมโยงกับคนในชุมชนว่ายังไม่ห่างกันเสียทีเดียว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น