
กฟผ.รุกหนักรณรงค์จัด
ค.1 โรงไฟฟ้าเครื่องที่ 8-9 ด้านผู้นำ 5 อำเภอ เสนอ 5 ประเด็นให้บรรจุในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม นายกศุกษ์เสนอของ ต.บ้านดงอีก 5 เรื่อง โดยเฉพาะปัญหาพื้นที่ทิ้งมูลดิน
ขณะที่ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอแม่ทะ ขอคืนชีวิตลำน้ำจาง และของบกองทุน 10 เปอร์เซ็นต์เหมือนเดิม
การจัดเวทีรับฟังความคิดเห็นครั้งที่
1 สำหรับนำไปประกอบการจัดทำรายงานประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ของโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน
เครื่องที่ 8-9 ที่วิทยาลัยเทคโนโลยีและการจัดการ กฟผ.แม่เมาะ ในวันที่ 13 กรกฎาคม
2562 เป็นไปอย่างคึกคัก หลังจากทางผู้บริหารการผลิตโรงไฟฟ้าแม่เมาะ พร้อมด้วยผู้ปฏิบัติงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย
(กฟผ.) แม่เมาะ ออกเดินรณรงค์แจกแผ่นพับข้อมูลโครงการพัฒนาโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทน
เครื่องที่ 8-9 และเชิญชวนประชาชนชาวแม่เมาะเข้าร่วมเวทีอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิธี “กฟผ.เคาะประตูบ้าน” แก่ประชาชนในพื้นที่ทั้ง
5 ตำบล 44 หมู่บ้าน ของอ.แม่เมาะ โดยได้รับความสนใจจากชาวบ้านเป็นอย่างดี
สำหรับการจัดเวที
ค.1 ดังกล่าว ได้มีหลายกลุ่มให้ความสนใจเข้าร่วมอภิปรายภายในงานกันจำนวนมาก
และที่เป็นที่น่าจับตามองน่าจะเป็นกลุ่มผู้นำชุมชน
ชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอแม่เมาะ
ที่เคยได้ยื่นหนังสือข้อเสนอต่างๆไปถึงหลายครั้งหลายครา
รวมไปถึงกลุ่มชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจากอำเภอแม่ทะ
ที่มากับปัญหาลำน้ำจาง ขณะเดียวกันก็มีทางนายศุกษ์
ไทยธนสุกานต์ นายก อบต.บ้านดง ขาประจำที่ร่วมเวทีทุกปี โดยเสนอเกี่ยวกับเรื่องปัญหาที่ทิ้งมูลดินจากการทำเหมืองแม่เมาะมาโดยตลอด
นายศุกษ์
ไทยธนสุกานต์ นายก อบต.บ้านดง เปิดเผยว่า
ตนเองได้เป็นตัวแทนของผู้นำทั้ง 5 อำเภอ ขึ้นพูดอภิปรายในเวที
ค.1 ซึ่งเดิมทางชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านจะไม่ไปร่วมงาน ค.1 เพราะเห็นว่าทำไปแล้วก็ไม่ได้อะไร เสนออะไรไปได้รับการปฏิเสธหมด
แต่ภายหลังได้มีการประชุมหารือกัน
และมอบหมายให้ตนเป็นคนร่างประเด็นขึ้นมาในภาพรวมของอำเภอใน 5 ประเด็น และในส่วนของตำบลบ้านดงอีก
5 ประเด็น ที่จะต้องบังคับอยู่ในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม จึงได้มีการนำเสนอในเวทีครั้งนี้ แต่ถ้ายังไม่มีการนำเข้าบรรจุกอยู่ในรายงาน ค.1 ต่อไปหากมีการจัด ค.2 ในรายตำบลก็จะไม่ร่วมเวที อย่างที่เคยทำมาแล้วเมื่อครั้งก่อน
กลุ่มตัวแทนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ผู้นำท้องที่ และภาคประชาชน เสนอและเรียกร้องให้บรรจุในรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมฯ
โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะทดแทนเครื่องที่ 8-9 ใน 5 ประเด็น คือ ให้สนับสนุนงบประมาณเป็นเงินบริจาคให้ตำบลในเขตอำเภอแม่เมาะ
ซึ่งเป็นพื้นที่ได้รับผลกระทบจากการทำเหมืองลิกไนต์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าของ
กฟผ.แม่เมาะ ต.บ้านดง อย่างน้อยปีละ 20 ล้านบาท ส่วน ต.สบป้าด ต.นาสัก ต.จางเหนือ และ ต.แม่เมาะ
อย่างน้อยปีละ 5 ล้านบาทต่อตำบล ให้
กฟผ.แม่เมาะจัดสรรเงินตามประกาศกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่
เรื่องแนวทางการบริหารจัดการกองทุนพัฒนาหมู่บ้านรอบพื้นที่เหมืองแร่ พ.ศ.2559 ในอัตราก้าวหน้าตามมูลค่าการผลิตครั้งละไม่เกิน 10
ล้านบาท ต่อจำวน 2.5 แสนบาท
ต่อเนื่องให้ครบตามมูลค่าที่เกิดขึ้นจริงในปีนั้นๆ ให้กับ 5
ตำบลในอำเภอแม่เมาะ และ 1 ตำบลบ้านเสด็จ ในอำเภอเมืองลำปาง
รวมทั้งจัดตั้งก่องทุนเถ้าลอยลิกไนต์โรงไฟฟ้าแม่เมาะ
เพื่อนำเงินรายได้จากการขายเถ้าลอยพัฒนาและแก้ไขปัญหาตำบลที่อยู่ในอำเภอแม่เมาะ
โดยใช้แนวทางจัดสรรเงินงบประมาณที่ได้จากการขายเถ้าลอยให้กับทุกตำบลในอำเภอแม่เมาะในอัตราเท่ากัน จัดสรรโควตาเถ้าลอยให้กับทุกตำบลในอำเภอแม่เมาะ
สามารถนำไปบริหารจัดหาผลประโยชน์เป็นรายได้ให้กับตำบล โดยนำรายได้มาพัฒนาในพื้นที่ของตนเอง
และประสานงานกันกระทรวงอุตสาหกรรม ดำเนินการแก้ไขปรับปรุงการจัดสรรเงินบำรุงพิเศษ
ตมประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่องกำหนดอัตราจ่ายเงินบำรุงพิเศษ หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไข ในการเรียกเก็บภาษีและการจัดสรรเงินบำรุงพิเศษ พ.ศ.2560
วันที่ 1 พฤศจิกายน 2560
ให้ครอบคลุมและสอดคล้องกับปัญหาในพื้นที่ได้รับผลกระทบรอบเขตประทานบัตรและเขตเหมืองแร่ตาม
พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560
นายก
อบต.บ้านดง กล่าวว่า ในส่วนของ
ต.บ้านดง ให้
กฟผ.ดำเนินการจ่ายภาษีหรือค่าธรรมเนียมอันเกิดจากการใช้พื้นที่ในตำบลบ้านดงเป็นที่เททิ้งมูลดินทราย กากถ่านหินลิกไนต์ ให้กับ อบต.บ้านดง ตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งแก้ไขปัญหาที่ส่งผลให้เกิดอุปสรรคในการจัดเก็บภาษีโดยขั้นต่ำการประเมินภาษีดังกล่าว
กฟผ.แม่เมาะต้องจ่ายให้กับ อบต.บ้านดงจำนวนเงินไม่น้อยกว่าปีละ 50
ล้านบาท พร้อมทั้งกำหนดมาตรการในการระงับเหตุเดือดร้อน
รำคาญ และเหตุที่ส่งผลกระทบต่อสภาวะแวดล้อมและสุขภาพของประชาชนจากการทำเหมืองแร่
หรือจากพื้นที่เททิ้งมูลดินทราย หาก
กฟผ.ไม่สามารถควบคุมมาตรการป้องกันหรือให้เกิดเหตุเดือดร้อนรำคาญกับชุมชน
หรือมีการร้องเรียนจากชุมชน ให้ กฟผ.เร่งรัดแก้ไขให้แล้วเสร็จภายใน 24 ชั่วโมง
หากไม่สามารถดำเนินการได้ตามกำหนด ทาง
อปท.สามารถดำเนินการตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
ทั้งโทษทางปกครองและโทษปรับทางแพ่ง ให้
กฟผ.กำหนดเงื่อนไขแนบท้ายสัญญากรับผู้รับจ้างที่ดำเนินการเกี่ยวกับเหมืองถ่านหินและพื้นที่ทิ้งดิน
หากไม่ดำเนินการตามมาตรการที่ กฟผ.กำหนด
หรือพบเหตุใดที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน
คณะกรรมการการมีส่วนร่วมสิ่งแวดล้อมตำบลบ้านดงเกิน 3
ครั้ง ใน 1 ปี ให้ กฟผ.ยกเลิกสัญญากับผู้รับจ้างรายนั้น
นายศุกษ์
กล่าวต่อไปว่า กฟผ.แม่เมาะจะต้องเร่งรัดติดตามประสานงานการร่างและบังคับใช้
พ.ร.บ.รายได้ พ.ศ..... ประกอบกับ
พ.ร.บ.กระจายหน้าที่และอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.... ซึ่งใช้ประกอบ พ.ร.บ.แร่ พ.ศ.2560 ในการจัดสรรค่าภาคหลวงแร่ให้กับ
เขตประทานบัตรพื้นที่ซึ่งเป็นที่ตั้งของเขตประทานบัตร ในอัตราร้อยละ 20 ซึ่งต้องครอบคลุมตำบลบ้านดงที่ใช้เป็นที่ทิ้งดินมูลทรายจากการทำเหมืองถ่านหิน
รวมทั้งบริหารจัดการน้ำในเขื่อน ฝาย
อ่างเก็บน้ำ ในพื้นที่ตำบลบ้านดง โดยทำการขุดลอก
ดูแลแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นกับแหล่งน้ำในพื้นที่ ให้ อบต.และชุมชนใช้แหล่งน้ำร่วมกับ
กฟผ.ได้
และให้สนับสนุนงบประมาณให้
อบต.บ้านดง ในการดำเนินการก่อสร้าง ปรับปรุงซ่อมแซม
โครงสร้างพื้นฐานและระบบสาธารณูปโภค ที่โครงการอพยพเป็นผู้ก่อสร้าง
ในหมู่บ้านอพยพของหมู่ที่ 1 หมู่ 2 หมู่ 7 และ หมู่ 8 ตำบลบ้านดง ตามมติ ครม.
โดยจัดสรรงบให้เพียงพอต่อการก่อสร้างและซ่อมแซม
รวมทั้งการบริหารจัดการให้เพียงพอ
นายสุนทร
ใจแก้ว อดีตนายก อบต.สบป้าด
ตนเป็นนักต่อสู้เรื่องนี้อยากให้
กฟผ.ดูแลรับผิดชอบคุณภาพชีวิตของชาวบ้านอำเภอแม่เมาะ ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด ใน
10 ประเด็นที่ได้กล่าวไป
ตนได้ทำเพื่อพี่น้องประชาชนอย่างจริงจัง
แต่ก็ยังมีคนที่จะใส่ร้ายป้ายสีโดยการนำภาพตนเองไปสร้างเป็นเฟซบุ๊กปลอมขึ้นมา
ซึ่งได้มีการเข้าแจ้งความดำเนินคดี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์เรียบร้อยแล้ว
ในเรื่องการก่อสร้างโรงไฟฟ้าไม่เคยมีการห้ามไม่ให้สร้าง
แต่สิ่งที่ชาวบ้านเสนอไปแล้วไม่เคยได้รับการตอบรับอะไรกลับมาเลย
ด้านนางมะลิวรรณ
นาควิโรจน์ ประธานเครือข่ายสิทธิผู้ป่วยแม่เมาะ
ที่ประกาศตัวตั้งแต่แรกแล้วว่าจะไม่ไปร่วมงาน ค.1 อย่างแน่นอน
ได้กล่าวว่า เครือข่ายสิทธิ์ผู้ป่วยแม่เมาะ
ไม่ร่วมสังฆกรรมเวทีที่เชื่อถือไม่ได้นี้ เหตุผลที่ไม่ไปร่วมงานเนื่องจากที่ผ่านมา
กฟผ.ไม่ทำตามรายงานความคิดเห็นทุกครั้ง
ในการประชุมเวทีรับฟังความคิดเห็นโรงไฟฟ้าทดแทนเครื่องที่ 4-7 ทางสมาชิกเครือข่ายฯได้ให้ความเห็นมาตลอด
และมีบันทึกในรายงาน แต่กลับไม่ได้รับการปฏิบัติตามที่ได้บันทึกไว้ จึงเห็นว่าไม่เกิดประโยชน์ต่อการให้ความเห็นคนละ5
นาที เพราะประเด็นเรื่องความวิตกกังวล
พูดให้สั้นในเวลา 5 นาทีไม่ได้
อีกทั้งเวทีนี้ก็ไม่ได้มีอิสระในทางแสดงความเห็นที่ชาวบ้านต้องการ ดั้งนั้น รายงานรับฟังความคิดเห็น โรงไฟฟ้าทดแทนแม่เมาะ
ไม่น่าเชื่อถือ
อีกกลุ่มหนึ่งที่ส่งตัวแทนเข้าร่วมในเวที
ค.1 คือ กลุ่มชมรมกำนันผู้ใหญ่บ้านอำเภอแม่ทะ ซึ่งเคยได้ยื่นหนังสือร้องเรียนผ่านทางศูนย์ดำรงธรรมอำเภอแม่ทะ
ขอให้ทาง
กฟผ.แม่เมาะได้มีการช่วยเหลือดูแลความเป็นอยู่ของชาวบ้านใกล้เคียงกับโรงไฟฟ้า
ซึ่งได้รับผลกระทบจากการใช้น้ำจากลำน้ำจางในการดำรงชีวิต
นายบุญเลิศ
แสนเทพ ส.อบจ.อ.แม่ทะ กล่าวว่า
จากที่ได้ยื่นหนังสือไปก็ยังไม่มีการตอบกลับมา
มีเพียงการประชุมกันไปครั้งเดียวเท่านั้น
เราจะต่อสู้ให้ กฟผ.มาดูแลผลกระทบจากโรงไฟฟ้าแม่เมาะ
ที่มีการกักน้ำไว้ไม่ระบายลงสู่ลำน้ำจาง
จากการตกลงกันกับผู้นำท้องถิ่นเรียบร้อยแล้ว
นายควง
ทากอง กำนันตำบลดอนไฟ กล่าวว่า ในเวที ค.1 ประเด็นหลักที่พูดถึงคือผลกระทบของลำน้ำจาง
การระบายน้ำทั้งหมดของ กฟผ.ที่จะต้องทำแผนให้กับชุมชนคนลุ่มน้ำของ อ.แม่ทะ
ว่าจะจ่ายให้พอเพียงในการเกษตรและการอุปโภคได้อย่างไร อยากให้ตั้งคณะกรรมการมาดูแลการบริหารจัดการน้ำลำน้ำจางทั้งหมด
ส่วนของงบประมาณต้องขอสนับสนุนใน 2 ประเด็น คือ โรงไฟฟ้า
และกองทุนพัฒนาไฟฟ้า อยากให้ได้รับงบประมาณเหมือนเดิมในส่วนของ อ.แม่ทะ 10 เปอร์เซ็นต์จากงบประมาณกองทุนฯ
และให้มีตัวแทนอำเภอแม่ทะเข้าร่วมเป็นคณะกรรมการ หลังจากมีข้อบังคับใหม่ออกมา
ทางกองทุนฯก็ได้มีการตัดงบ 10 เปอร์เซ็นต์ออกไป
เหลือเพียงแต่ ต.หัวเสือ ตำบลเดียวเท่านั้น
จึงอยากให้มีการบรรจุเรื่องนี้เข้าไปในรายงานเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านอย่างแท้จริง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น