
“บี
อภิชัย” แกนนำคนสำคัญกลุ่มลำปางก้าวหน้า ประกาศลาออก เผยแนวคิดไม่ตรงกัน
พร้อมยืนยันไม่มีบาดหมาง เตรียมเปิดตัวกลุ่มใหม่ ขณะที่สุวัฒน์-ปุณณสิน
รับรู้สึกใจหาย ยังคงเดินหน้าต่อ กลุ่มน้องใหม่ต้องทำงานหนักขึ้นเป็นสองเท่า
อาจไม่ถูกใจใครแต่ทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวม
เมื่อวันที่
2 ก.ย. 62
นายอภิชัย สัชฌะไชย
หนึ่งในผู้ก่อตั้งกลุ่มลำปางก้าวหน้า
ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าตนเองได้ขอลาออกจาก กลุ่มลำปางก้าวหน้าอย่างเป็นทางการแล้ว
โดยการออกมานั้นไม่ได้เกิดจากการทะเลาะ หรือการโกรธเคืองใดๆกัน
ส่วนทิศทางทางการเมืองหลังจากนี้ จะออกมาเพื่อตั้งหลัก และเพื่อวางแผนต่อไป
ในเรื่องนี้ได้มีชาวลำปางมาแสดงความคิดเห็นและให้กำลังใจเป็นจำนวนมาก ซึ่งสร้างความสนใจในสื่อสังคมออนไลน์ไม่น้อย
และตั้งข้อสังเกตว่าการลาออกของนายอภิชัย
ไม่มีการขัดแย้งกันในกลุ่มจริงหรือไม่
นายอภิชัย
สัชฌะไชย อดีตผู้ก่อตั้งกลุ่มลำปางก้าวหน้า เปิดเผยกับลานนาโพสต์ว่า
ตั้งแต่เริ่มต้นและวันสุดท้ายได้ทำงานให้ลำปางก้าวหน้าอย่างเต็มที่เสมอ
แต่การตัดสินใจออกมา ไม่ได้เกิดจากการทะเลาะกัน
แต่เกิดจากความคิดเห็นทางแนวทางการทำงานไม่ตรงกัน
เมื่อเราเริ่มมาด้วยกัน แต่มาถึงจุดหนึ่งที่มีความรู้สึกว่าไม่ใช่แนวเดียวกัน ก็เลยตัดสินใจวันนี้ดีกว่า
ไม่ใช่ยื้อไว้แล้วเกิดความเสียหายกับทั้งสองฝ่าย
เพราะอย่างไรก็ตามอุดมการณ์ของเราทั้ง 3 คนไม่ได้ต่างกัน คือ ต้องการเข้ามาพัฒนาบ้านเมือง
เมื่อตัดสินใจเดินทางออกมา
ก็ได้มีการพูดคุยบอกกับทุกคนในกลุ่มบริหาร โดยตนเดินออกมาด้วยมือเปล่า
ในใจก็ยังคิดว่าเอายังไงต่อ เมื่อได้ปรึกษากับภรรยาและทางครอบครัวก็ได้รับการสนับสนุนให้ก้าวต่อไป
พร้อมกับมีทีมงานส่วนหนึ่งที่คอยสนับสนุนอยู่ จึงตัดสินใจมีการตั้งกลุ่มใหม่ ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้มีการวางแผนล่วงหน้า เมื่อตัดสินใจเช่นนี้แล้วก็ต้องมั่นใจและทำให้ได้
ไม่ท้อถอย การออกมาไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์
เพราะได้รับประสบการณ์ในการบริหารมาแล้ว
ภายในเดือนนี้คาดว่าจะมีการเปิดตัวกลุ่มใหม่ อยู่ระหว่างการปรึกษาพูดคุยกันภายในหลายๆอย่าง
เพราะเราะเคยมีประสบการณ์ตรงนี้มา และไม่อยากให้เกิดเหตุซ้ำรอย
เพราะจะนั้นต้องพูดคุยกันในทีมก่อน
สำหรับเหตุผลในเชิงลึกนั้น
ในเมื่อออกมาแล้วก็ไม่ขอพูดในเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ขอตั้งใจทำงานเพื่อเสนอตนเองเป็นทางเลือกจะดีกว่า
วันนี้ตนพร้อมที่จะเสนอตัวเองเป็นนายกเทศมนตรีนครลำปาง และจะทำอย่างเต็มที่
แต่ก็ยังมีความหวังว่าจะกลับมาร่วมงานกันได้
นายอภิชัย
กล่าวต่อไปว่า การเริ่มต้นใหม่เป็นโอกาส
การเริ่มใหม่ไม่ใช่น่ากลัวอย่างที่คิด
เหมือนการทำธุรกิจที่เราเคยมีประสบการณ์ในการบริหารองค์กรเอกชนมามาก
จึงทำให้รู้ว่าการเริ่มต้นไม่ใช่สิ่งที่แย่ที่สุด
เราเคยผิดพลาดมาแล้วก็จะนำสิ่งนั้นมาเป็นประสบการณ์ การเริ่มใหม่ก็จะเริ่มให้เร็วและดี เพราะฉะนั้นทีมเราจะต้องแข็งแกร่ง เวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์
แนวนโยบายต่างๆมีความเป็นไปได้ที่จะซ้ำซ้อน
เพราะตนก็เป็นหนึ่งในผู้ร่างนโยบายออกมา แต่ก็ต้องยอมรับว่าเมื่อออกกลุ่มมาแล้ว
ก็ต้องทำใหม่ บางเรื่องก็ต้องมีความคล้ายคลึงกันแน่นอน
เพราะเป็นสิ่งที่ควรจะต้องทำ แต่หลังจากนั้นเรามีโอกาสที่จะเรียนรู้และรับฟัง
จะมีนโยบายอีกหลายมิติที่ต้องเสริมเข้าใจ จะทำให้มีความครอบคลุมมากขึ้น
ลานนาโพสต์ได้สอบถามไปยัง นายปุณณสิน มณีนันท์ ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรี กลุ่มลำปางก้าวหน้า
กล่าวว่า ปัญหาไม่ได้มีอะไร
เพียงแต่น้องเป็นคนรุ่นใหม่ที่มีสไตล์การทำงานเป็นของตัวเอง
จึงได้มีการแยกออกไปตั้งกลุ่มใหม่ ถ้ามองถึงการทำงานของลำปางก้าวหน้า
จะเป็นการทำงานหนักเราต้องทำงานให้มากกว่ากลุ่มอื่นๆ เพราะเป็นกลุ่มน้องใหม่ ได้รับทราบปัญหาต่างๆในเขตเทศบาลมาโดยตลอด
การลงพื้นที่ได้เจอปัญหา และรวบรวมทั้งหมดมาหาแนวทางแก้ไข จึงมีสไตล์การทำงานที่ลุยๆ และหนักกว่าคนอื่น
นายสุวัฒน์
ตรีมานะพันธ์
แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งกลุ่มลำปางก้าวหน้า กล่าวเสริมว่า สไตล์การทำงานคือ
มีน้องๆกลุ่มหนึ่งมองว่าการทำงานของกลุ่มลำปางก้าวหน้าต้องลงพื้นที่หนัก
ซึ่งตนมองว่าถ้าอยากเป็น สท.ต้องทุ่มเท ไม่ใช่อาศัยชื่อกลุ่มมาเป็นโดยไม่ต้องทำงานไม่ได้
จึงต้องลงพื้นที่เพื่อรับทราบปัญหา และนำมาหาแนวทางแก้ไข
ซึ่งลักษณะการทำงานอาจจะคนละสไตล์แต่เรามีเป้าประสงค์เดียวกัน
นายปุณณสิน
กล่าวอีกว่า
อย่างไรก็ตามยังคงจะทำงานกันในแนวทางเดิมคือการลงพื้นทีเพื่อรับทราบปัญหาของประชาชน
เพราะการลงพื้นที่ที่ผ่านได้รับรู้เรื่องราวในหลายเรื่อง ได้พบเจอคนเก่งๆมากมาย
โดยจะนำเรื่องราวเหล่านี้มาปรับใช้ในการพัฒนาบ้านเมืองลำปางให้มากที่สุด
วันนี้ก็ยังรู้สึกเสียใจ
ยังอยากให้กลับมาร่วมงานกัน เพราะหลายโปรเจ็คในการทำงานที่ผ่านมาได้ทำร่วมกันมาตลอด
อยากให้แนวคิดในการพัฒนาต่อยอดออกไปเรื่อยๆ
แต่ถ้าน้องออกไปตั้งกลุ่มใหม่ก็ขอแสดงความยินดีด้วย
ส่วนทางกลุ่มลำปางก้าวหน้าต้องขับเคลื่อนกันต่อไป
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1244 วันที่ 6 - 19 กันยายน 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น