เป็นปรากฏการณ์ร่วมที่เกิดพร้อมๆกัน
ไม่ว่าบริษัทเอกชนที่คิดอ่านจะไปยึดพื้นที่ชาวบ้านในชนบทเพื่อทำเหมือง
โดยเฉพาะการชุมนุมประท้วงเหมืองถ่านหินบริเวณภาคเหนือตอนบนของ บริษัท 99 ธุรานนท์ จำกัด ที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่
และกระแสความเคลื่อนไหวในการคัดค้านเหมืองลิกไนต์ ของบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง)
จำกัด ที่บ้านบอม อำเภอแม่ทะ จังหวัดลำปาง
ในประเทศการค้าเสรี
คงไม่มีข้อห้ามในการลงทุนของภาคเอกชน แต่เฉพาะการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมเหมืองแร่
ที่ต้องมีการขุดหน้าดินในพื้นที่กว้างใหญ่ไพศาล การขนส่งที่ต้องผ่านหมู่บ้าน
รวมทั้งปัญหาสิ่งแวดล้อมที่จะติดตามมา จากภาพจำเรื่องเหมืองแม่เมาะในอดีต
นี่จึงเป็นการลงทุนธุรกิจที่มีความละเอียดอ่อนมากกับความรู้สึกของชาวบ้านในพื้นที่
แน่นอนว่า เราจะด่วนตัดสินว่า
การทำเหมืองแร่ของบริษัทปูนจะก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อม
หรือจะส่งผลกระทบต่อวิถีชุมชนไม่ได้ในทันที
เพราะกระบวนการก่อนที่บริษัทผู้ลงทุนจะขุดเปิดหน้าดิน นับหนึ่งในการทำเหมืองนั้น
ยังมีอีกหลายขั้นตอน เช่น เวทีในการรับฟังความคิดเห็นของชุมชน
ซึ่งผู้ลงทุนก็ต้องมีหลักฐาน ข้อมูลมาแสดงจนชาวบ้านวางใจ หรือมีคำอธิบายว่า
การมีเหมืองลิกไนต์ใกล้บ้านของพวกเขา จะส่งผลดีต่อคุณภาพชีวิต
หรือเศรษฐกิจชุมชนอย่างไร
และหากมองในแง่ของเทคโนโลยี
การจัดการปัญหาฝุ่นควัน ปัญหาสิ่งแวดล้อม ถึงปัจจุบันเครื่องไม้
เครื่องมือก็น่าจะมีความก้าวหน้า ทันสมัย มีประสิทธิภาพในการตรวจจับ
และควบคุมมิให้สร้างปัญหาให้ชาวบ้านได้
ก็ไม่แตกต่างไปจากเหมืองแม่เมาะระยะเริ่มต้นในอดีต
ซึ่งต้องฟัง
และศึกษามาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม รวมทั้งมาตรการติดตาม ตรวจสอบ
ผลกระทบสิ่งแวดล้อมในรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของบริษัทปูนซิเมนต์ไทย เจ้าของสัมปทาน
พื้นที่ขอประทานบัตรทั้ง 4 แปลง อยู่ในพื้นที่ป่าเศรษฐกิจ และพื้นที่ปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ล้อมรอบด้วยเทือกเขาป่าอนุรักษ์ทิศเหนือ ทิศตะวันตกและทิศใต้
บริเวณตอนเหนือติดกับอ่างเก็บน้ำห้วยแม่กอง มีลำห้วยเล็กๆ ไหลจากเทือกเขาด้านตะวันตก
ทิศเหนือและใต้ลงอ่างเก็บน้ำ
หรือว่ากันง่ายๆบริเวณเหมือง จะอยู่ในเขตป่าระหว่าง
ดอยพระฌาณ และ ดอยม่อนธาตุ ซึ่งมีห้วยต้นน้ำ ห้วยมหาวรรณ ห้วยชมปู
ไหลลงแม่น้ำแม่วะลงสู่แม่น้ำจาง ด้านทิศเหนือของดอยม่อนธาตุ น้ำไหลลงอ่างเก็บน้ำแม่กอง
ด้านทิศใต้ไหลลงอ่างแม่วะ
การทำเหมืองของบริษัทปูนซิเมนต์ลำปาง
ลิกไนต์จะนำไปใช้ในการผลิตปูนซิเมนต์ในโรงงาน
อีกส่วนหนึ่งจะขนส่งออกไปยังแหล่งรับซื้อภายนอก
ซึ่งก็จะเกิดการสร้างงานให้กับชุมชนโดยรอบ และทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น
มีการไหลเวียนในการใช้จ่ายในชุมชนมากขึ้น
แต่ปรากฏการณ์ที่จะเกิดขึ้น
ซึ่งไม่ได้เป็นประเด็นที่ชาวบ้านคัดค้านด้วยความไม่มั่นใจในผลกระทบต่อวิถีชีวิตของเขา
ก็คือ การทำเหมืองซึ่งจะต้องขุดหน้าดินลงไป จะต้องโค่นป่านับพันไร่ เป็นป่าสมบูรณ์
และเป็นแหล่งต้นน้ำสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงและทำลายระบบนิเวศ เป็นปัญหาที่ใหญ่กว่า และมันจะส่งผลกระทบไปชั่วลูกชั่วหลาน
ในขณะที่พื้นที่ป่าเราลดน้อยถอยลงทุกวัน จากการบุกรุกทำลายป่า
นี่ก็อาจเรียกว่าเป็นการบุกรุกทำลายป่า แต่เป็นการบุกรุกทำลายป่าที่ชอบด้วยกฎหมาย
เราคิดว่าการทำลายป่า ทำลายป่าต้นน้ำ
คุ้มค่าแล้วหรือไม่กับผลประโยชน์ของชาวบ้าน ที่ได้จากการมีเหมืองมาขุดดินอยู่ใกล้ๆบ้าน
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1246 วันที่ 4 - 17 ตุลาคม 2562)
(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1246 วันที่ 4 - 17 ตุลาคม 2562)
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น