จอกหูหนูทะลักกิ่วลม กักไว้ทำลาย มือมืดตักออก

จำนวนผู้เข้าชม

จอกหูหนูทะลักเขื่อนกิ่วลม อัดแน่นเต็มพื้นที่ หลังจากหายจากหน้าเขื่อนไปนานนับปี  ชลประทานขอเรือกำจัดวัชพืชเข้าดำเนินการ  ร่วมกับชมรมชาวแพช่วยกันตักเก็บ  เผยจอกหูหนูไม่เคยหายไป ได้ทำการกักบริเวณไว้เป็นสัดส่วนและเก็บกำจัด แต่มีคนไม่หวังดีตักออกจากที่กั้นจึงทำให้แพร่กระจายรวดเร็ว

ปัญหาจอกหูหนูเขื่อนกิ่วลม ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง กลับมาวิกฤตอีกครั้ง หลังจากทางจังหวัดลำปาง  ชลประทาน และชาวบ้าน ได้ช่วยกันเคลียร์พื้นที่กันได้จนสำเร็จ  จนล่าสุดเมื่อต้นเดือนกันยายน 62 หลังจากที่เกิดฝนตกหนักและมีน้ำป่าไหลหลากในหลายพื้นที่ ทำให้ลำน้ำสาขาไหลลงสู่เขื่อนกิ่วลม ซึ่งได้พัดพาจอกหูหนูกลับมาอีกครั้ง รวมกับจอกหูหนูเดิมที่มีอยู่ ซึ่งทางเขื่อนกิ่วลมได้กักพื้นที่ไว้เพื่อตักออก ได้สมทบกันและมีการแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้จอกหูหนูกลับมาเต็มพื้นที่หน้าเขื่อนอีกครั้ง รวมไปถึงแพร่กระจายอยู่ในอ่างเก็บน้ำจำนวนมาก

นายวศิน ลีลาชินาเวศ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา เปิดเผยว่า จอกหูหนูไม่ได้หายไปไหน เนื่องจากจอกไหลมาตามลำห้วยสาขาธรรมชาติ ซึ่งทางชลประทานได้มีการกำจัดทุกปี โดยประสานขอเรือกำจัดวัชพืช จากศูนย์จักรกลจังหวัดเชียงใหม่มาช่วยด้วย  นอกจากนั้นยังได้การทำการกักบริเวณไว้ไม่ให้จอกหูหนูออกมาแพร่กระจายอยู่ภายในอ่างเก็บน้ำ เพื่อรอเรือกำจัดวัชพืชมาเก็บ แต่ช่วงพายุเข้าประมาณเดือนสิงหาคม ทำให้มีน้ำไหลหลากจำนวนมาก จอกที่ไหลจากลำห้วยก็ทะลักลงในอ่าง และได้มีการนำเชือกและไม้ไผ่มาล้อมไว้ตามริมฝั่งและซอกมุมหินต่างๆ   แต่ได้รับรายงานมีคนมาตักจอกหูหนูออกจากที่กั้น ทำให้แพร่กระจายรวดเร็วจนเต็มอ่างเก็บน้ำ ในส่วนของการท่องเที่ยวล่องแพ ก็ไม่ได้รับผลกระทบมาก ยังสามารถให้บริการได้ตามปกติ  ซึ่งทางเขื่อนกิ่วลมได้พยายามเร่งแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน

ด้านผู้ประกอบการแพ เขื่อนกิ่วลม รายหนึ่ง กล่าวว่า ตอนนี้การล่องแพก็ได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง ต้องแหวกเส้นทางจอกหูหนู เพื่อล่องแพก็จะใช้เวลามากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย  ซึ่งตอนนี้จอกส่วนมากลอยไปออกันอยู่แถวๆด้านหลังโรงปูนจะเข้าหน้าผา ซึ่งหน้าผานี่เป็นจุดที่จะต้องรีบแก้ไข เพราะเป็นช่องแคบ เมื่อมีจอกหูหนูไปอัดรวมกันในนั้นทำให้แพวิ่งผ่านลำบากมาก  และสิ่งที่อยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องคือ ขอให้เข้ามาดำเนินการอย่างจริงจัง ไม่ใช่เข้ามาทำงานไม่ถึงชั่วโมงก็หยุดทำ เพราะจะแก้ไขปัญหาไม่ได้อย่างจริงจัง เนื่องจากจอกหูหนูแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว

อย่างไรก็ตาม ทางชลประทาน พร้อมด้วยชมรมชาวแพ และเจ้าหน้าที่ทหาร ได้รวมกันดันลากจอกหูหนูที่อยู่ด้านหน้าเขื่อนกิ่วลมออกตามสภาพของพื้นที่ที่จะทำได้ ระหว่างที่รอเรือกำจัดวัชพืชเข้าดำเนินการต่อไป

(หนังสือพิมพ์ลานนาโพสต์ ฉบับที่ 1246 วันที่ 4 - 17 ตุลาคม 2562)