วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

ช่วยเหลือบ้านไฟไหม้ เจ้าของยังเศร้าสูญเงินเก็บ 9 หมื่น


จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

หน่วยงานเร่งลงพื้นที่เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพลิงไหม้บ้านเสียหายทั้งหลัง ขณะที่เจ้าของบ้านเผยเก็บรวบรวมเงินสดกว่า 88,000 บาท ซุกที่นอน หวังจะก่อสร้างบ้านหลังใหม่เพื่ออาศัยในบั้นปลายชีวิตกลับมาถูกเพลิงเผาพลาญ เหลือแต่เสื้อผ้าชุดเดียวติดตัว 

วันที่ 20 พ.ย. 62 ที่บ้าน 46/1 บ้านต้นต้องหมู่ 5 ตำบลพิชัย อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง พล.ต.สุรคล ท้วมเสม ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี สั่งการให้ พ.อ.บรรจบ คะวงศ์ดอน หน.กองกิจการพลเรือนมณฑลทหารบกที่ 32 ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ได้นำถุงยังชีพ เครื่องนุ่งห่ม ไปมอบให้แก่ ครอบครัวผู้ประสบภัย ไฟไหม้บ้าน เสียหายทั้งหลังเพื่อเป็นการช่วยเหลือเบื้องต้น 




ขณะเดียวกันก็มี ฝ่ายปกครอง อำเภอเมืองลำปาง กอ.รมน.จ.ลำปาง พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และอีกหลายหน่วยงานได้ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เครื่องนุ่งห่ม ผ้าห่ม มามอบให้แก่ผู้ประสบภัยคือ        นางซ้อย  ใจคำลือ อายุ 70 ปี เจ้าของบ้านที่ถูกเพลิงไหม้เสียหายทั้งหลัง เหตุเกิดเมื่อช่วงเที่ยง ของวันที่ 19  พ.ย. 2562 ที่ผ่านมา ทำให้บ้านไม้สองชั้นและทรัพย์สินภายในบ้านไม่ว่าจะเป็นที่นอนหมอนมุ้งเครื่องนุ่งห่ม เครื่องใช้ไฟฟ้า ข้าวเปลือกอีกว่า 30 กระสอบ รวมไปถึงเงินสดกว่า 88,000 บาท ที่เจ้าของบ้านเก็บไว้ในห้องนอนถูกเพลิงเผาพลาญเหลือแต่ซาก และยังมีไก่สายพันพื้นเมืองที่มีกว่า 30 ตัวถูกไฟไหม้ตายไปไม่ต่ำกว่า 10 ตัว 




หน่วยงานต่างๆจึงเข้ามาช่วยเหลือเบื้องต้นและเป็นกำลังใจแก่ นางซ้อย  ใจคำลือ อายุ 70 ปี ซึ่งเริ่มทำใจได้บ้างแล้ว แต่ยังเสียใจที่เงินสดที่ตนเองหามาจากการขายพืชผักสวนครัว และไข่ไก่พื้นเมือง ที่สะสมมาทั้งชีวิตจำนวน 88,000 บาท ถูกไฟไหม้ไม่เหลือแม้แต่ซาก  นางซ้อย เปิดเผยว่า สะสมไว้เพื่อที่จะปลูกบ้านหลังใหม่ เพื่ออยู่อาศัยในบั้นปลายชีวิต โดยเก็บเล็กผสมน้อยมาเรื่อยๆโดยคิดว่าหากครบ 1 แสนบาท ก็จะทำการรื้อบ้านไม้ออกและปลุกบ้านปูนหลักเล็กๆอาศัยอยู่ และในวันเกิดเหตุ ตนเองก็ไปทุ่งนาไปเก็บผักมาเพื่อที่จะขายตามท้องตลาดทั่วไป ตอนแรกคิดว่าจะเอาเงินพกติดตัวไปด้วยแต่ก็กลัวว่าเงินจะตกน้ำหรือสูญหายจึงเก็บไว้ในห้องนอนดีกว่า จนกระทั่งมาทราบว่าเกิดเหตุไฟไหม้บ้านตนเองและพยายามจะเข้าไปในบ้านที่เกิดเพลิงไหม้แต่เพื่อนบ้านห้ามเอาไว้ และไม่สามารถเอาทรัพย์สินและเสื้อผ้าออกมาได้แม้แต่ชิ้นเดียว เหลือแค่เสื้อผ้าติดตัว จึงต้องอาศัยเสื้อผ้าเพื่อนบ้านและญาติมาสวมใส่ไฟพรางๆ ไปก่อน 




ขณะที่ลูกชายนางซ้อย กล่าวว่า ตนเองทราบว่าไฟไหม้บ้านก็รีบมา แต่มาถึงไฟได้ไหม้บ้านตรงทางขึ้นจนพังเสียหายทั้งหมด ซึ่งไม่สามารถที่จะผ่าเปลวเพลิงเข้าไปเอาเงินสดของแม่ออกมาได้ ได้แค่มองไฟไหม้บ้านเสียหายไปทั้งหลัง แต่ก็ถือว่าโชคยังดีที่ตนเองและแม่ไม่เป็นอะไรไปมากว่านี้ เพราะก่อนหน้านี้ตนเองก็ประสบเหตุ ขณะนำวัวออกเดินเลี้ยงกินหญ้าตามคันคลองปรากฏว่ามีรถได้เข้ามาพุ่งชนอย่างจังแต่วัวรับเคราะห์ไปตายคาที่ ส่วนตนเองปลอดภัย และเหตุการณ์ครั้งนี้หากตนเองหรือแม่ผ่ากองเพลิงเข้าไปอาจจะเกิดการสูญเสียถึงแก่ชีวิตได้ ขณะนี้เริ่มทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและจะตั้งหน้าตั้งตาทำงานเพื่อที่จะปลูกบ้านใหม่ให้แม่อาศัยช่วงบั้นปลายชีวิตต่อไป

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์