วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

“พระพุทธองค์ทรงตรัสว่าความบังเอิญไม่มีในโลก”

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

จากเรื่องเล่าประวัติศาสตร์ ความฝัน ความเชื่อและศรัทธา ความต้องการเป็นอิสระทางวัฒนธรรม นำไปสู่การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ “สำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละราม”

สำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละราม วัดดอยที่สร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาของปกาเกอะญอ หมู่บ้านสันโป่ง ตำบลเสริมกลาง อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง เมื่อปี พ.. 2556 เพื่อธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาและรักษาอัตลักษ์ความเป็นชาติพันธุ์ปกาเกอะญอไว้

ก่อนจะมาเป็นสำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละรามนั้น เหตุเริ่มต้นจากภายในอำเภอเสริมงามมีกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ อยู่ทั้งหมด 3 หมู่บ้านด้วยกัน คือ หมู่บ้านโป่งน้ำร้อน หมู่บ้านแม่เลียงพัฒนา และหมู่บ้านสันโป่ง ซึ่งทั้งหมู่บ้านโป่งน้ำร้อนและหมู่บ้านแม่เลี้ยงพัฒนาต่างก็มีวัดเป็นของกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอแล้ว จึงทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่เกิดความคิดว่าน่าจะมีวัดของกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอให้ครบทั้ง 3 หมู่บ้าน เพื่อเป็นการรักษาอัตลักษณ์ของความเป็นปกาเกอะญอเอาไว้

ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ เหล่าศรัทธาจึงไปนิมนต์พระอภิชาต ชินวโร ซึ่งท่านเป็นพระภิกษุเลือดปกาเกอะญอที่เดิมบวชอยู่ที่วัดสันโป่ง (เป็นวัดที่สร้างร่วมกับคนเมือง) มาเป็นเจ้าอาวาสและเป็นหัวใจหลักในการสร้างวัดของชาติพันธุ์ปกาเกอะญอบ้านสันโป่ง

*เชื่อว่าเป็นลิขิตของสวรรค์
ด้วยเรื่องราวเล่าขานจากอดีต และความฝัน ทุกอย่างล้วนเกี่ยวโยงกัน ชาวบ้านเชื่อว่ามันคือสิ่งที่บ่งบอกถึงสถานที่ในการสร้างวัด ซึ่งก็คือดอยที่วัดตั้งอยู่ ณ ปัจจุบัน ก่อนมีการสร้างวัดพระอภิชาต ชินวโร ฝันว่ามีพระพุทธรูป 2 องค์ ตั้งอยู่บนยอดดอยและมีบันไดอยู่ตรงกลางระหว่างพระพุทธรูปสององค์ทอดยาวลงมาสู่ด้านล่างซึ่งเป็นพระวิหาร ซึ่งบริเวณยอดดอยนั้นเองที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าในอดีตได้มีพระธุดงค์รูปหนึ่งเคยมาธุดงค์อยู่บริเวณนั้นเป็นเวลานาน และได้ทำเครื่องหมายบางอย่างไว้บริเวณนั้น ประกอบกับที่ดอยแห่งนี้อยู่ใกล้หมู่บ้าน รอบๆ ดอยถูกใช้เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน แต่ดอยแห่งนี้กลับถูกเว้นไว้เหมือนเป็นการบ่งบอกโดยนัยว่าบริเวณนี้ถูกกำหนดไว้เพื่อบางสิ่งแล้ว

*นิมิตและโชคลาภ
เมื่อเริ่มมีการสร้างวัดก็เริ่มมีศรัทธาหลั่งไหลเข้ามายังสำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละรามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ รวมไปถึงบรรดาร่างทรงจากที่ต่างๆ ที่มาแล้วได้รับโชคลาภถูกเลขถูกหวยจากสถานที่แห่งนี้ และเรื่องที่เป็นการกล่าวถึงกันที่สุดก็คือ ร่างทรงที่มายังสำนักสงฆ์แห่งนี้ต่างเกิดนิมิตเช่นเดียวกัน เมื่อมาถึงก็จะมีอะไรบางอย่างดลใจให้ไปยังที่แห่งหนึ่งก่อน จากนิมิตท่านเชื่อกันว่าบริเวณนั้นเป็นโพรงของพญานาคเผือกที่เชื่อมกับลำห้วยข้างล่างที่ชาวบ้านเรียกว่าน้ำดิบ บ้างก็เชื่อว่าภายในนั้นเป็นเมืองลับแล ปัจจุบันบริเวณที่บรรดาร่างทรงเชื่อว่าเป็นโพรงของพญานาคได้มีการสร้างศาลไว้เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพญานาคเผือก

*ความในใจของผู้อาวุโส
ก่อ ปาละอ้าย คุณตาวัย 81  บอกว่าตนรู้สึกดีใจที่ได้มีวัดเป็นของชนเผ่า ปลื้มใจทุกครั้งที่ได้เห็นลูกหลานแต่งกายชุด
ปกาเกอะญอกันพร้อมหน้าพร้อมตาเมื่อไปวัด นอกจากนี้ตนก็รู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้มีส่วนในการฟื้นฟูวัฒนธรรมของชนเผ่าเอาไว้ เนื่องจากตนได้เป็นส่วนหนึ่งในการจ๊อยรอบพระธาตุ หรือที่ชาวปกาเกอะญอเรียกว่า “มาบุโขะ” พิธีกรรมนี้ห่างหายไปจากชาวปกาเกอะญอบ้านสันโป่งนานแล้ว ซึ่งปกติในอดีตจะมีทุกวันศีลวันพระ ตอนนี้ตนดีใจที่พิธีกรรมนี้และอีกหลายๆ พิธีกรรมกลับมามีอีกครั้ง

ด้วยความเชื่อความศรัทธาอันแรงกล้าทำให้ตอนนี้สำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละรามมีการก่อสร้างมาได้เกิน 50% แล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พศจิกายน ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานกฐินต่อยอดสะพานบุญขึ้น โดยได้รับยอดกฐินทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 927,653 บาท และวันที่ 4 มกราคม 2563 จะมีการทำบุญเปิดสะพานอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ผู้มีจิตศรัทธาจะได้ร่วมกันทำบุญเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว


เกษณี ตั๋นตุ้ย นักศึกษาฝึกงาน สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์