จากเรื่องเล่าประวัติศาสตร์
ความฝัน ความเชื่อและศรัทธา ความต้องการเป็นอิสระทางวัฒนธรรม
นำไปสู่การสร้างสรรค์สถาปัตยกรรมของกลุ่มชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ “สำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละราม”
สำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละราม
วัดดอยที่สร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาของปกาเกอะญอ หมู่บ้านสันโป่ง ตำบลเสริมกลาง
อำเภอเสริมงาม จังหวัดลำปาง เมื่อปี พ.ศ. 2556
เพื่อธำรงไว้ซึ่งพระพุทธศาสนาและรักษาอัตลักษ์ความเป็นชาติพันธุ์ปกาเกอะญอไว้

ด้วยความตั้งใจอันแน่วแน่ เหล่าศรัทธาจึงไปนิมนต์พระอภิชาต
ชินวโร ซึ่งท่านเป็นพระภิกษุเลือดปกาเกอะญอที่เดิมบวชอยู่ที่วัดสันโป่ง
(เป็นวัดที่สร้างร่วมกับคนเมือง) มาเป็นเจ้าอาวาสและเป็นหัวใจหลักในการสร้างวัดของชาติพันธุ์ปกาเกอะญอบ้านสันโป่ง
*เชื่อว่าเป็นลิขิตของสวรรค์
ด้วยเรื่องราวเล่าขานจากอดีต และความฝัน
ทุกอย่างล้วนเกี่ยวโยงกัน
ชาวบ้านเชื่อว่ามันคือสิ่งที่บ่งบอกถึงสถานที่ในการสร้างวัด
ซึ่งก็คือดอยที่วัดตั้งอยู่ ณ ปัจจุบัน ก่อนมีการสร้างวัดพระอภิชาต ชินวโร
ฝันว่ามีพระพุทธรูป 2 องค์ ตั้งอยู่บนยอดดอยและมีบันไดอยู่ตรงกลางระหว่างพระพุทธรูปสององค์ทอดยาวลงมาสู่ด้านล่างซึ่งเป็นพระวิหาร
ซึ่งบริเวณยอดดอยนั้นเองที่ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่าในอดีตได้มีพระธุดงค์รูปหนึ่งเคยมาธุดงค์อยู่บริเวณนั้นเป็นเวลานาน
และได้ทำเครื่องหมายบางอย่างไว้บริเวณนั้น ประกอบกับที่ดอยแห่งนี้อยู่ใกล้หมู่บ้าน
รอบๆ ดอยถูกใช้เป็นที่ทำมาหากินของชาวบ้าน แต่ดอยแห่งนี้กลับถูกเว้นไว้เหมือนเป็นการบ่งบอกโดยนัยว่าบริเวณนี้ถูกกำหนดไว้เพื่อบางสิ่งแล้ว
*นิมิตและโชคลาภ
เมื่อเริ่มมีการสร้างวัดก็เริ่มมีศรัทธาหลั่งไหลเข้ามายังสำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละรามเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
รวมไปถึงบรรดาร่างทรงจากที่ต่างๆ ที่มาแล้วได้รับโชคลาภถูกเลขถูกหวยจากสถานที่แห่งนี้
และเรื่องที่เป็นการกล่าวถึงกันที่สุดก็คือ
ร่างทรงที่มายังสำนักสงฆ์แห่งนี้ต่างเกิดนิมิตเช่นเดียวกัน
เมื่อมาถึงก็จะมีอะไรบางอย่างดลใจให้ไปยังที่แห่งหนึ่งก่อน
จากนิมิตท่านเชื่อกันว่าบริเวณนั้นเป็นโพรงของพญานาคเผือกที่เชื่อมกับลำห้วยข้างล่างที่ชาวบ้านเรียกว่าน้ำดิบ
บ้างก็เชื่อว่าภายในนั้นเป็นเมืองลับแล
ปัจจุบันบริเวณที่บรรดาร่างทรงเชื่อว่าเป็นโพรงของพญานาคได้มีการสร้างศาลไว้เพื่อเป็นการแสดงความเคารพต่อพญานาคเผือก
*ความในใจของผู้อาวุโส
ก่อ ปาละอ้าย คุณตาวัย 81 บอกว่าตนรู้สึกดีใจที่ได้มีวัดเป็นของชนเผ่า
ปลื้มใจทุกครั้งที่ได้เห็นลูกหลานแต่งกายชุด
ปกาเกอะญอกันพร้อมหน้าพร้อมตาเมื่อไปวัด
นอกจากนี้ตนก็รู้สึกภูมิใจอย่างมากที่ได้มีส่วนในการฟื้นฟูวัฒนธรรมของชนเผ่าเอาไว้
เนื่องจากตนได้เป็นส่วนหนึ่งในการจ๊อยรอบพระธาตุ หรือที่ชาวปกาเกอะญอเรียกว่า
“มาบุโขะ” พิธีกรรมนี้ห่างหายไปจากชาวปกาเกอะญอบ้านสันโป่งนานแล้ว ซึ่งปกติในอดีตจะมีทุกวันศีลวันพระ
ตอนนี้ตนดีใจที่พิธีกรรมนี้และอีกหลายๆ พิธีกรรมกลับมามีอีกครั้ง
ด้วยความเชื่อความศรัทธาอันแรงกล้าทำให้ตอนนี้สำนักสงฆ์ชัยยะมังคะละรามมีการก่อสร้างมาได้เกิน
50% แล้ว ล่าสุดเมื่อวันที่ 3
พศจิกายน ที่ผ่านมาได้มีการจัดงานกฐินต่อยอดสะพานบุญขึ้น โดยได้รับยอดกฐินทั้งหมดเป็นเงินจำนวน 927,653 บาท และวันที่
4 มกราคม 2563 จะมีการทำบุญเปิดสะพานอีกครั้ง
ซึ่งถือเป็นโอกาสดีที่ผู้มีจิตศรัทธาจะได้ร่วมกันทำบุญเพื่อเป็นศิริมงคลแก่ตนเองและครอบครัว
เกษณี ตั๋นตุ้ย นักศึกษาฝึกงาน สาขาวิชาภาษาไทย
คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น