อุบัติเหตุชนกัน 3 คัน เด็กนักเรียนชาย ม.2 ขับขี่จักรยานยนต์
มุ่งหน้าจะไปโรงเรียนระหว่างทาง พุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์คันหน้า
ก่อนที่ทั้งรถและตัวเองไถลเอาไปอัดซุกใต้ท้องรถตู้
พลเมืองดีใช้แม่แรงมาช่วยงัดรถนำร่างออกมาได้ แต่สภาพบาดเจ็บหนักพอสมควร
เมื่อเวลา 07.30 น.วันที่ 4 ธันวาคม 2562
สภ.เขลางค์นครลำปางได้รับแจ้งว่าเกิดอุบัติเหตุ รถชนกัน 3 คัน บริเวณทางคู่ขนาน
ถนนพหลโยธิน ขาเข้าเมือง เขตบ้านต้า หมู่ 10
ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง
จึงประสานเจ้าหน้าที่สายตรวจตำบลชมพูออกตรวจสอบเบื้องต้น ก่อนจะแจ้งให้
ร้อยเวรสอบสวน
และเจ้าหน้าที่กู้ภัยอัมรินทร์ ให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
โดยในที่เกิดเหตุ
พบรถยนต์ตู้โดยสารไม่ประจำทาง หมายเลขทะเบียน 36-0098 ลำปาง จอดอยู่ข้างถนน
และมีรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าคลิกสี ชมพู-ดำ ไม่ปิดแผ่นป้ายทะเบียน
ซุกอยู่ใต้ท้องรถตู้ และมีร่างเด็กนักเรียนชายติดอยู่ใต้ท้องรถด้วย เบื้องต้นทางพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์
และเจ้าของอู่ซ่อมรถจักรยานยนต์ที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ได้นำแม่แรงขนาดใหญ่
มายกรถตู้ให้ลอยขึ้น แล้วช่วยเหลือเอาร่างคนขับจักรยานยนต์ที่ซุกอัดติดใต้ท้องรถออกมาได้
แต่อยู่ในสภาพบาดเจ็บหนัก เป็นนักเรียนชาย วัย 13 ปี อยู่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งในตัวเมืองลำปาง
ในสภาพเสื้อนักเรียนสีขาวขาดวิ่นเกือบทั้งหมด ร่างกายมีแผลถลอกทั่วร่าง
หัวไหล่ซ้ายหลุด ข้อเท้าขวาบวมผิดรูป
เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน
ขณะเดียวกัน ยังมีผู้บาดเจ็บอีก 1 คน เป็นคนขับรถจักรยานยนต์ ฮอนด้าเวฟ
สีแดงดำ หมายเลขทะเบียน 2 กพ7345 กทม. เป็นชายอายุประมาณ 50 ปี สภาพน่องขวาบวม
และหัวไหลบวม ถลอกตามร่างกาย เจ้าหน้าที่กู้ภัยอัมรินทร์
ปฐมพยาบาลและนำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลลำปางทันที
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า รถตู้
ได้จอดอยู่ช่องทางซิดซ้ายริมถนน
โดยคนขับเล่าว่า ได้จอดรถเพื่อที่จะโทรหาลูกค้า ที่จะเหมารถไปท่องเที่ยว
ระหว่างคุยโทรศัพท์ก็มีเสียงโครมท้ายรถลงไปดูพบว่ามีรถมาซนท้ายและซุกเข้าไปใต้ท้องรถ
และมีร่างเด็กนักเรียนติดใต้ท้องรถ จึงรีบขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดีเข้าช่วยนำร่างเด็กออกมา
ขณะที่คนขับจักรยานยนต์ เป็นชายอายุ 50 ปี
เล่าว่า ตนเองขับรถกำลังจะไปทำงาน จู่ๆก็มีรถคู่กรณีเป็นนักเรียน ม.2 พุ่งมาชนท้าย
ก่อนที่ทั้งตนและรถจักรยานยนต์จะไถลไปไกลกว่า 50 เมตร
โชคดีที่ยังเจ็บไม่มากแต่เมื่อเห็นคู่กรณีที่เป็นเด็กนักเรียนซุกอยู่ใต้ท้องรถก็ต้องรีบตะโกนขอความช่วยเหลือ
อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่จะได้ทำการสอบสวนเหตุการณ์อย่างละเอียดต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น