วันพุธที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2563

ลำปาง เจ้าหน้าที่นำกำลังล่องแพบุกอายัด แพท่องเที่ยวและที่พักบนเกาะกลางน้ำท้ายเขื่อนกิ่วลม ชื่อดัง ประกอบกิจการมานานกว่า 33 ปี หลังพบว่าใบอนุญาตต่างหมดอายุไปหลายปี แต่ยังประกอบกิจการและสร้างที่พักบนเกาะรุกป่าสงวนแห่งชาติ ขณะที่ผู้ดูแลอ้าง ยังอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารและยื่นขออนุญาต เจ้าหน้าที่ตรวจอายัดก่อน แล้วค่อยหาพยานหลักฐานมากล่าวแย้งกับ ตรำวจ สภ.แจ้ห่มเจ้าของคดีต่อไป

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

วันที่ 22 มกราคม 2563 นายดนุศักดิ์ หมื่นโอ้ง หน.สายตรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 ลำปาง นายจิตรกร ศรีจันทร์ หน.หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.11 (แม่ต๋า) ดต.วสุอนันต์ สารีพันธ์ ผบ.หมู่ กก.4 บก. ปทส. สายที่ 1 ลำปาง ได้ทำความเข้าใจและชี้แจงเกี่ยวกับภารกิจเข้าไปตรวจสอบ นายทุนที่เข้าไปรุกพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ เหตุเกิดขึ้นที่เกาะกลางน้ำ ท้ายเขื่อนกิ่วลม ต.เมืองมาย อ แจ้ห่ม จ.ลำปาง โดยทราบว่าพื้นที่ดังกล่าว มีการก่อสร้างที่พักแพท่องเที่ยว มานานกว่า 30 ปี  เจ้าหน้าที่ได้ลงแพยนต์ ที่ว่าจ้างจากแพทองเที่ยวสำเภาทอง พื้นที่ ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จังหวัดลำปาง ลงไปตามลำน้ำท้ายเขื่อนโดยใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง ถึงจะไปที่หมาย


เบื้องต้นพบว่า จุดที่เข้าไปตรวจสอบ มีแพท่องเที่ยวจอดเทียบเกาะดังกล่าว ชื่อเกาะวังแก้วรีสอร์ท มีนางสมใจ แก้วนิล อายุ 68 ปี เป็นผู้แทนรับมอบใบอนุญาตใช้พื้นที่เกาะแห่งนี้ นำพาเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบ พบว่าบนเกาะมีการก่อสร้างอาคารถาวรทั้งสถานที่จัดเลี้ยง ที่พักกระจัดกระจายในพื้นที่มากว่า 10 ห้องพัก มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างอื่นๆอีกหลายรายการ เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่ด้วยระบบ GPS พบว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่ต๋า ป่าแม่มาย หมู่ 6 ต.เมืองมาย อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง จำนวน 4 ไร่เศษ โดยทางเจ้าหน้าทีได้ให้ทาง ผู้ดูแลนำเอกสารหลักฐานการครอบครองและการขออนุญาตมาแสดง พบว่าสถานที่แห่งนี้ยื่นขออนุญาตประกอบกิจการมาตั้งแต่ปี 2530 โดยได้เปิดให้บริหารล่องแพท้ายเขื่อนกิ่วลม และให้บริการจัดสถานที่พักผ่อนจัดเลี้ยง จนมีชื่อเสียงโด่งดัง สำหรับผู้ที่ชื่นชอบล่องแพตามธรรมชาติ โดยผู้ที่ขออนุญาตโดยตรงได้เสียชีวิตไปแล้ว  ก่อนที่ลูกชายจะเข้ามาบริหารงาน และไม่พบว่ามีเอกสารการได้รับขออนุญาตเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่แห่งนี้ มานานหลายปี


ทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาไป 3 ข้อหาคือ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ร.บ.ที่ดิน และพ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ ส่งให้ร้อยเวร สภ.แจ้ห่มดำเนินคดีตามกฏหมาย ก่อนที่จะให้ ผู้ที่ดูแลหาพยานหลักฐานต่างๆมายื่นแย้งกับ ร้อยเวรต่อไป



สำหรับการเข้าอายัดเกาะแห่งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวได้ จับกุมชาวต่างด้าวสัญชาติลาว 2 คน  ไม่มีหนังสือผ่านการตรวจสอบเข้าเมือง หนังสือเดินทาง พาสปอร์ต แต่อย่างใด  ก่อนที่จะควบคุมตัวไปดำเนินคดีทางกฎหมายทันที และทราบว่า เป็นคนงานของเกาะวังแก้วรีสอร์ทเข้าไปรุกพื้นที่เพื่อที่จะสร้างที่พักให้นักท่องเที่ยวเข้าแวะพักผ่อนขณะล่องแพ จึงได้นำกำลังเข้าตรวจสอบและอายัดสถานที่ท่องเที่ยวทางน้ำชื่อดังแห่งนี้ทันที

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์