
เมื่อวันที่ 21 ม.ค.63 เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3
ลำปาง โดยการอำนวยการของนายชูเกียรติ พงศ์ศิริวรรณ ผอ.สำนักฯ เจ้าหน้าที่ ตำรวจ กก.4 บก.ปทส.
เจ้าหน้าที่อทุยานแห่งชาติถ้ำผาไท เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแจ้ห่ม ตำรวจ
สภ.แจ้ห่ม ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง จังหวัดลำปาง ร่วมกันเข้าตรวจสอบ
บริเวณเกาะกลางน้ำ(เกาะวังแก้วรีสอร์ท) ท้ายเขื่อนกิ่วลมท้องที่บ้านสา หมู่ที่ 5
ต.บ้านสา อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง หลังจากได้รับแจ้งว่ามีกลุ่มบุคคล
ไม่ทราบสัญชาติเข้ามาตัดไม้แผ้วถางป่าในพื้นที่ดังกล่าวอย่างโจ๋งขรึ้ม เพื่อยึดถือครอบครองที่ป่าเป็นของตนเอง
โดยมีการปลูกสร้างบ้านพักเรือนรับรองลักษณะเป็นรีสอร์ท
ชาวบ้านในพื้นที่ไม้กล้าเข้าไปยุ่งเกี่ยว จึงร้องเรียนไปยังเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบ
เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบคนงาน 2 คน ทราบชื่อนายพู
อายุ 20 ปี และนางสาวซาอายุ 18 ปี บอกว่าตนเองเป็นคนงานเฝ้ารีสอร์ทแห่งนี้ และให้การมีพิรุธ พูดสำเนียงภาษาไทยไม่ชัดเจน
แต่นายพูก็ยังให้การยืนยันว่าตนเองเป็นคนไทย
พนักงานเจ้าหน้าที่จึงให้ร้องเพลงประจำชาติไทยให้เจ้าหน้าที่ฟัง
นายพูร้องเพลงชาติไทยไม่ได้
เจ้าหน้าที่จึงขอดูเอกสารหนังสือเดินทางหรือพาสปอร์ต
แต่ก็ไม่มีมาแสดงให้ดูอีก
โดยนายพูด ให้การว่า
ตนเองเพิ่งจะเดินทางเข้าเมืองไทยมาได้ประมาณ 4 วัน
โดยผ่านช่องทางสะพานมิตรภาพไทย-ลาว อ.เชียงของ จ.เชียงราย
แล้วได้ซื้อตั๋วโดยสารรถประจำทางจาก อ.เชียงของ
มาลงที่ท่ารถสถานีขนส่งโดยสายประจำทางจังหวัดลำปาง
แล้วเวลาต่อมานายเบิร์ดผู้ที่เป็นนายจ้างได้เดินทางไปรับตัวเดินทางมายังท่าเรือโดยสาร
ตนไม่ทราบสถานที่แล้วนายจ้างได้พาตนลงเรือยนต์แล้วโดยสารมากับนายจ้างมาขึ้นที่เกาะแห่งนี้ ได้ตกลงค่าแรงเดือนละ 6 พันบาท อยู่มาได้ประมาณ
20 วัน และมาถูกจับกุม
ทางเจ้าหน้าที่จึงได้ให้นายพูติดต่อหานายจ้างเพื่อนำหลักฐานต่างๆมาแสดง แต่ก็ได้แจ้งข้อหากับนายพู และนางสาวซา ตาม
พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 ฐาน
“เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” และ พระราชกำหนดบริหารการทำงานของคนต่างด้าว
พ.ศ.2560 (ม.8) ฐาน ทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต (มาตรา 51)
พร้อมส่งตัวให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองลำปางดำเนินการทางกฎหมาย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น