
เมื่อวันที่ 24 ม.ค. 63 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขลางค์นคร
รับแจ้งว่าได้เกิดไฟไหม้บริเวณกองขยะ นี่ในซอยด้านหลัง สุสานสันป่าตึง หมู่ 8
ต.พระบาท อ.เมืองลำปางอย่างรุนแรง โดยเปลวไฟปลิวข้ามฝากถนนที่มีความกว้างถึง 4
เมตร ข้ามไปติดพื้นที่รกร้างที่มีแต่กอหญ้าแห้ง
จึงรีบรายงานกลุ่มวอร์รูมไฟป่า จ.ลำปาง
ก่อนจะแจ้งให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตำบลกล้วยแพะ สภ.เขลางค์นคร เข้าตรวจสอบ
โดยในพื้นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ
พร้อมด้วยพลเมืองดีที่เป็นทั้งนักศึกษา ม.ราชภัฏลำปาง ทหารจากมณฑลทหารบกที่ 32
ค่ายสุรศักดิ์มนตรี ที่พักเวร
มาเจอเหตุไฟไหม้ได้ช่วยกันหักกิ่งไม้ข้างถนนเข้าไปช่วยกันควบคุมไม่ให้เกิดการลุกลามเข้าไปยังชุมชน เนื่องจากห่างจากจุดเกิดเหตุไม่ถึง 50 เมตร
มีบ้านเรือนชาวบ้าน หอพักนักศึกษา อยู่ในพื้นที่จำนวนหลายหลัง
ซึ่งสามารถสกัดเพลิงไว้ในวงจำกัด
แต่เนื่องจากกองขยะที่ลุกไหม้มีควันไฟสีขาวและกลิ่นรุนแรง
ไม่สามารถทนกลิ่นควันดังกล่าวได้
จึงต้องถอยร่นแล้วประสานรถดับเพลิงเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
เข้ามาช่วยฉีดน้ำสกัดอีกครั้ง โดยใช้เวลานานกว่า 40 นาที
จึงสามารถดับเพลิงที่ลุกไหม้จนสนิท
เบื้องต้นพบว่าจุดเกิดเหตุ
เป็นบ่อดินลูกรังร้าง มีความลึกกว่า 10 เมตร พื้นที่กว้างกว่า 5 ไร่
ส่วนจุดที่เกิดแพลิงไหม้พบว่ามีการลักลอบนำเศษหิน ดิน เศษปูนซิเมนต์ สิ่งก่อสร้าง
พลาสติกหลากหลายชนิดรวมไปถึงขยะต่างๆ ลักลอบมาทิ้งไว้ในพื้นที่แห่งนี้
และคาดว่าน่าจะมีคนไม่หวังเข้ามาจุดไฟเผาแล้วหลบหนีไป
โดยไม่ทราบมูลเหตุจูงใจในการก่อเหตุครั้งนี้
ซึ่งไฟได้ลุกลามไปยังถนนฝั่งตรงข้าม
โชคดีที่พลเมืองดีมาประสบเหตุและช่วยกันสกัดไว้ได้ทัน
ไม่เช่นนั้นจะเกิดการลุกลามเข้าไปในชุมชนในพื้นที่อย่างแน่นอน ขณะที่เจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือใครเห็นหรือมีพยานหลักฐาน
หรือเบาะแสคนที่ลักลอบเผาสามรถไปส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ตลอดเวลา
เพราะจะเร่งติดตามตัวมาดำเนินคดีต่อไป
สำหรับการจับกุมผู้ต้องหาจุดไฟเผาป่า
พล.ต.ต.อนุชา อ่วมเจริญ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า
ขณะนี้มีการแจ้งความดำเนินคดีแล้ว 5 คดี โดยได้ทำการพิสูจน์ทราบ 1 คดี
เรียกตัวมารับทราบข้อกล่าวหา ซึ่งเป็นการจุดไฟเผาป่าบริเวณบ้านปางหละ อ.งาว แม้จะไม่ได้เป็นพื้นที่ป่า
แต่เป็นพื้นที่ทางการเกษตรก่อให้เกิดควันไฟ ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเดินทาง จะมีอัตราโทษปรับไม่เกิน
1,000 บาท ขณะนี้ได้รับทราบว่า
มีพื้นที่ความเสียหาย 69 ไร่ อยู่ระหว่างการพิสูจน์ว่าเป็นความผิดของผู้ใด ขอความร่วมมืออย่าให้มีการเผาป่า
นอกจากมีความผิดแล้วยังมีอันตรายต่อสุขภาพของตนเอง
และสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นด้วย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น