จำนวนผู้เข้าชม
ลำปางพบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานติดต่อกันแล้ว 9 วัน ผู้ว่าฯกำชับขอความร่วมมือทุกฝ่าย
ต้องยอมรับส่วนหนึ่งเกิดจากอุตสาหกรรมใหญ่ในพื้นที่ ย้ำยังไม่วิกฤติ
แต่หากเข้าขั้นอาจจะต้องของดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นเท่าที่จำเป็น
สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5
ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ได้เกินค่ามาตรฐานมาแล้วติดต่อกัน
9 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-14 มกราคม 2563 โดยมีค่าอยู่ที่ 51-116
ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงสุดอยู่วันที่ 13 มกราคม 2563 ที่ ต.พระบาท
อ.เมืองลำปาง
ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ระดมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
รวมทั้งได้มีการออกแถลงข่าว ตั้งเป้าลดไฟป่า ลดผู้ป่วย ลดค่าเกินมาตรฐาน
ให้ลงครึ่งหนึ่งจากปี 62 ที่ผ่านมา
นายณรงค์ศักดิ์
โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
กล่าวว่า ปัญหาของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (PM2.5) ถ้าเป็นในเมืองใหญ่ค่าฝุ่นเกิดจากควันจากรถยนต์เป็นหลัก
แต่ในเขตภาคเหนือจะเกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย ของ จ.ลำปาง
เกิดจากการผสมไอน้ำมันส่วนหนึ่ง ไอจากอุตสาหกรรมส่วนหนึ่ง มีโรงผลิตไฟฟ้าที่
อ.แม่เมาะ ถึงแม้จะไม่มีกิจกรรมใดๆ แต่มีการปั่นไฟฟ้าทุกวันอยู่แล้ว
ต้องยอบรับความจริงในส่วนนี้
รวมไปถึงอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ของ SCG อุตสาหกรรมดินขาว โรงสีขาว
ลานรับซื้อข้าวโพด ลานมัน ถ้ามีกิจกรรมเคลื่อนไหว ทุกอย่างจะขึ้นหมด จึงได้ดำเนินการเช็คทั้งหมด
ถ้าอุณหภูมิวันไหนอากาศต่ำกว่า 15-16 องศาฯ กลางวันไม่เกิน 25-26 องศาฯ
จะขอความร่วมมือให้งดกิจกรรมทั้งหมด รวมถึงการก่อสร้างในพื้นที่ เช่น ถนน สะพาน เป็นต้น
ไม่ใช่การห้ามเลยแต่ขอความร่วมมือเท่าที่จำเป็น ตอนนี้มีบัญชีของอุตสาหกรรมทั้งหมดถ้าจำเป็นก็จะมาพิจารณาว่าควรจะลดตรงไหน
หรือส่วนไหนบ้าง
นอกจากนั้นยังมีบัญชีผู้เก็บของป่าทั้งหมดอยู่ที่นายอำเภอ
อุทยาน และสถานีตำรวจ
ถ้าใครเข้าไปในพื้นที่ป่าต้องขออนุญาต
โดยการเช็คบัญชีรายชื่อทั้งเข้าและออก
เบื้องต้นได้มีการประกาศที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ อ.เถิน ไปแล้ว
หากพบคนที่ไม่ได้ขออนุญาตจะดำเนินคดี ล่าสุดได้มีการแจ้งความไปแล้ว 3 ราย สิ่งที่ต้องฝากคือทุกคนต้องร่วมมือกัน
ไม่ใช่ทำเพียงแต่พูดแล้วไม่ทำ ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย วันที่ 13 ม.ค. เกิดไฟป่า 40
จุด ได้มีการสั่งให้ตรวจสอบว่าใกล้เคียงมีขวดหรือวัสดุไรที่บ่งบอกว่ามีคนเข้าไปพื้นที่
แล้วก่อให้เกิดไฟไหม้หรือไม่ จะมีการตรวจสอบดีเอ็นเอ
เพื่อหาตัวบุคคลนั้นมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าว
สำหรับเหตุการณ์ไฟป่าและหมอกควันถือเป็นปัญหาสำคัญของจังหวัดในเขตภาคเหนือ
9 จังหวัด และเป็นปัญหาที่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี
เฉพาะอย่างยิ่งจะมีความรุนแรงจนถึงขั้นวิกฤตในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน
ซึ่งในส่วนของจังหวัดลำปางได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม
โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติการไว้รองรับในทุกๆ ด้าน เน้นกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการระดับพื้นที่
เน้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้เหมาะสม
และเน้นการควบคุมเฝ้าระวังการเผาในบริเวณพื้นที่ป่าที่มีความเสี่ยงและอยู่ในเขตรับผิดชอบของแต่ละพื้นที่
โดยมีเป้าหมายให้ทุกๆ พื้นที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน
และมีจำนวนจุดความร้อนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าร้อยละ 50
และมีเป้าหมายที่จะลดอัตราผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก
ให้ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ส่วนมาตรการบังคับในปีนี้ทางจังหวัดลำปาง
ได้กำหนดช่วง 60 วัน ห้ามเผาในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2563
ซึ่งในช่วงกล่าวจะมีการใช้มาตรการบังคับทางกฎหมายอย่างเข้มงวด
ห้ามมิให้มีการจุดไฟเผาทั้งในพื้นที่โล่งแจ้ง และพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด
หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินตามกฎหมาย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น