วันอังคารที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2563

ลำปางพบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานติดต่อกันแล้ว 9 วัน ผู้ว่าฯขอความร่วมมือทุกฝ่าย ต้องยอมรับส่วนหนึ่งเกิดจากอุตสาหกรรมใหญ่ในพื้นที่ ย้ำยังไม่วิกฤติ



จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

ลำปางพบค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐานติดต่อกันแล้ว 9 วัน ผู้ว่าฯกำชับขอความร่วมมือทุกฝ่าย ต้องยอมรับส่วนหนึ่งเกิดจากอุตสาหกรรมใหญ่ในพื้นที่  ย้ำยังไม่วิกฤติ แต่หากเข้าขั้นอาจจะต้องของดกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่นเท่าที่จำเป็น

 สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในพื้นที่จังหวัดลำปาง ได้เกินค่ามาตรฐานมาแล้วติดต่อกัน 9 วัน ตั้งแต่วันที่ 6-14 มกราคม 2563 โดยมีค่าอยู่ที่ 51-116 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งสูงสุดอยู่วันที่ 13 มกราคม 2563 ที่ ต.พระบาท อ.เมืองลำปาง  ทำให้ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางได้ระดมประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน  รวมทั้งได้มีการออกแถลงข่าว ตั้งเป้าลดไฟป่า ลดผู้ป่วย ลดค่าเกินมาตรฐาน ให้ลงครึ่งหนึ่งจากปี 62 ที่ผ่านมา

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า ปัญหาของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร (PM2.5) ถ้าเป็นในเมืองใหญ่ค่าฝุ่นเกิดจากควันจากรถยนต์เป็นหลัก แต่ในเขตภาคเหนือจะเกิดจากสาเหตุที่หลากหลาย ของ จ.ลำปาง เกิดจากการผสมไอน้ำมันส่วนหนึ่ง ไอจากอุตสาหกรรมส่วนหนึ่ง มีโรงผลิตไฟฟ้าที่ อ.แม่เมาะ ถึงแม้จะไม่มีกิจกรรมใดๆ แต่มีการปั่นไฟฟ้าทุกวันอยู่แล้ว ต้องยอบรับความจริงในส่วนนี้  รวมไปถึงอุตสาหกรรมปูนซิเมนต์ของ SCG  อุตสาหกรรมดินขาว โรงสีขาว ลานรับซื้อข้าวโพด ลานมัน ถ้ามีกิจกรรมเคลื่อนไหว ทุกอย่างจะขึ้นหมด  จึงได้ดำเนินการเช็คทั้งหมด ถ้าอุณหภูมิวันไหนอากาศต่ำกว่า 15-16 องศาฯ กลางวันไม่เกิน 25-26 องศาฯ จะขอความร่วมมือให้งดกิจกรรมทั้งหมด รวมถึงการก่อสร้างในพื้นที่ เช่น ถนน  สะพาน เป็นต้น  ไม่ใช่การห้ามเลยแต่ขอความร่วมมือเท่าที่จำเป็น  ตอนนี้มีบัญชีของอุตสาหกรรมทั้งหมดถ้าจำเป็นก็จะมาพิจารณาว่าควรจะลดตรงไหน หรือส่วนไหนบ้าง


นอกจากนั้นยังมีบัญชีผู้เก็บของป่าทั้งหมดอยู่ที่นายอำเภอ อุทยาน และสถานีตำรวจ  ถ้าใครเข้าไปในพื้นที่ป่าต้องขออนุญาต โดยการเช็คบัญชีรายชื่อทั้งเข้าและออก  เบื้องต้นได้มีการประกาศที่อุทยานแห่งชาติแม่วะ อ.เถิน ไปแล้ว หากพบคนที่ไม่ได้ขออนุญาตจะดำเนินคดี ล่าสุดได้มีการแจ้งความไปแล้ว 3 ราย   สิ่งที่ต้องฝากคือทุกคนต้องร่วมมือกัน ไม่ใช่ทำเพียงแต่พูดแล้วไม่ทำ ต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย วันที่ 13 ม.ค. เกิดไฟป่า 40 จุด ได้มีการสั่งให้ตรวจสอบว่าใกล้เคียงมีขวดหรือวัสดุไรที่บ่งบอกว่ามีคนเข้าไปพื้นที่ แล้วก่อให้เกิดไฟไหม้หรือไม่ จะมีการตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อหาตัวบุคคลนั้นมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าว

สำหรับเหตุการณ์ไฟป่าและหมอกควันถือเป็นปัญหาสำคัญของจังหวัดในเขตภาคเหนือ 9 จังหวัด และเป็นปัญหาที่ได้เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี เฉพาะอย่างยิ่งจะมีความรุนแรงจนถึงขั้นวิกฤตในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ - เมษายน ซึ่งในส่วนของจังหวัดลำปางได้มีการเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ปัญหาดังกล่าวมาตั้งแต่เดือนตุลาคม โดยได้จัดทำแผนปฏิบัติการไว้รองรับในทุกๆ ด้าน เน้นกำชับให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนปฏิบัติการระดับพื้นที่ เน้นการบริหารจัดการเชื้อเพลิงให้เหมาะสม และเน้นการควบคุมเฝ้าระวังการเผาในบริเวณพื้นที่ป่าที่มีความเสี่ยงและอยู่ในเขตรับผิดชอบของแต่ละพื้นที่ โดยมีเป้าหมายให้ทุกๆ พื้นที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เกินค่ามาตรฐาน และมีจำนวนจุดความร้อนลดลงเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมาไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 และมีเป้าหมายที่จะลดอัตราผู้ป่วยที่ได้รับผลกระทบจากหมอกควันฝุ่นละอองขนาดเล็ก ให้ลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ส่วนมาตรการบังคับในปีนี้ทางจังหวัดลำปาง ได้กำหนดช่วง 60 วัน ห้ามเผาในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2563 ซึ่งในช่วงกล่าวจะมีการใช้มาตรการบังคับทางกฎหมายอย่างเข้มงวด ห้ามมิให้มีการจุดไฟเผาทั้งในพื้นที่โล่งแจ้ง และพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด หากผู้ใดฝ่าฝืนจะต้องถูกดำเนินตามกฎหมาย

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์