“เลข 7” หรือ พลังลึกลับของตัวเลข
ที่อยู่คู่กับความเชื่อของคนสมัยโบราณมานานแสนนาน
ซึ่งแต่ละชนชาติอาจมีความเชื่อเกี่ยวกับตัวเลขแตกต่างกันออกไป
แต่เป็นเพราะความบังเอิญหรือเรื่องลี้ลับที่ยังพิสูจน์ไม่ได้ สำหรับชาวไทยนั้นมีความเชื่อในเลข 7
ว่าเป็นเรื่องความทุกข์ เพราะตามหลักโหราศาสตร์
ดาวเสาร์ดาวที่เป็นตัวแทนความทุกข์มีดวงจันทร์เป็นบริวารเจ็ดดวง เลข 7 มีกำลังแฝงเรื่องการแสดงความอดทน
ความพากเพียรไม่ย่อท้อ ความอดทนความเข้มแข็ง ความทุกข์ความเก็บกด ความวิตกกังวล
มีหลายต่อหลายงาน
หลายกิจกรรม หลายโครงการในจังหวัดลำปาง ที่เกี่ยวเนื่องกับเลข 7 โดยใช้ระยะเวลาการก่อสร้าง หรือการแก้ปัญหาต่างๆ ยาวนานมา 7 ปี นับว่าเป็นเรื่องบังเอิญที่ระยะเวลาใกล้เคียงกันเกือบทุกงาน ซึ่งไม่ทราบได้ว่าเป็นเพราะอาถรรพ์เมืองลำปาง
หรืออาถรรพ์เลข 7 กันแน่
ลองไปตรวจสอบกันว่าโครงการไหน
หรือการแก้ปัญหาอะไร ที่ยาวนาน 7 ปีกันบ้าง
สนามกีฬาจังหวัดลำปาง
งบประมาณ 107 ล้านบาท
โครงการนี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย
(กกท.) ได้มีการทำสัญญากับกรมทางหลวง เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.
57 ให้สร้างสนามกีฬาวงเงินงบประมาณ 107,944,000 บาท ประกอบด้วย สนามฟุตบอล
ลู่และลานกรีฑา อัฒจันทร์ความจุ 12,000 ที่นั่ง
ระบบสาธารณูปโภค งบประมาณ 107 ล้านบาท
ปัจจุบันงานดังกล่าวมีแค่อัฒจันทร์ที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ดี
หากนับระยะเวลาตั้งแต่ปี 2557จนถึง 2563 เข้าปีที่ 7 พอดิบพอดี
สนามกีฬาอำเภอแม่ทะ
งบประมาณ 24 ล้าน
เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ได้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่
27
มิถุนายน 2556 กำหนดเวลาแล้วเสร็จวันที่ 23เมษายน 2557 ด้วยงบประมาณ 24
ล้านบาท แต่ติดปัญหาความชัดเจนเรื่องที่ดิน จึงไม่มีใครรับเป็นเจ้าภาพดูแล
จนสนามกีฬา อัฒจันทร์ โรงยิม ระบบสาธารณูปโภคภายในพังเสียหาย
ด้วยระยะเวลาการดำเนินการที่ไล่เลี่ยกัน ก็ถือว่าอยู่ในช่วง 7 ปีอีกเช่นเคย
อพยพราษฎรบ้านห้วยคิง
ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ
มติ ครม.เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 56 เห็นชอบในหลักการให้อพยพราษฎร
5 หมู่บ้าน รวมถึงราษฎรบ้านห้วยคิง หมู่ที่ 6 โดยให้อพยพไปบริเวณบ้านเมาะหลวง
หมู่ที่ 8 ต.แม่เมาะ อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง แต่ติดปัญหาเรื่องที่ดิน เนื่องจากมีราษฎรจำนวน
63 ราย ได้เข้าครอบครองใช้ประโยชน์ในพื้นที่ดังกล่าวอยู่
ทำให้ไม่สามารถดำเนินการอพยพราษฎรได้
ปัจจุบันก็ยังแก้ปัญหาไม่แล้วเสร็จ ก็เป็นอีกปัญหาที่ 7 ปี
อพยพราษฎร
4 หมู่บ้าน ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ
เป็นอีกแห่งที่ยังคงรอการอพยพ
แม้จะมีความคืบหน้ามากกว่าหมู่บ้านห้วยคิง ที่มีมติ ครม.สั่งให้อพยพพร้อมกัน
และได้เข้าไปในพื้นที่อพยพก่อน
แต่ก็ต้องมาติดปัญหาในเรื่องของการจัดซื้อจัดจ้างที่ผู้รับเหมาได้ร้องเรียนกันเกิดขึ้น
จึงอยู่ระหว่างรอความชัดเจนในเรื่องนี้ ไม่สามารถดำเนินการต่อได้ ต้องรอนานมา 7 ปีแล้วก็ยังไม่ได้อพยพเช่นกัน
ปัญหายืดเยื้อแก้จอกหูหนูในเขื่อนกิ่วลม
จอกหูหนูภายในอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม
น่าจะมีมายาวนาน แต่ได้ค้นพบว่ามีการแพร่กระจายหนาแน่นเต็มอ่างเก็บน้ำเขื่อนกิ่วลม
เมื่อประมาณปลายปี 2556
โดยทางโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา
ได้แก้ปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยการนำเรือกำจัดวัชพืช รวมทั้งรถแบ็คโฮเข้ามาตักออก
จนทำสำเร็จไปแล้วครั้งหนึ่งเมื่อช่วงปลายปี 2557
แต่จอกหูหนูเจ้ากรรมก็ยังไม่วาย กลับมาเติบโตอีกครั้งอย่างต่อเนื่อง
จนถึงทุกวันนี้ก็ยังตักแล้วตักอีกไม่หมดสักที
กับระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา
สำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
สำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นคร
เป็นสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่มีมหากาพย์การก่อสร้างที่ยาวนานมากที่สุดเลยก็ว่าได้ เรียกกันได้ว่าเป็นทศวรรษเลยทีเดียว กับระยะเวลา
10 ปี ในการดำเนินการตั้งแต่การจัดซื้อที่ดินไปจนถึงการก่อสร้างสำเร็จ แต่ถ้านับตั้งแต่การทำสัญญาเริ่มโครงการก่อสร้างกับผู้รับเหมาตั้งแต่ปี
2556
ก็ถือว่าเป็นอีกโครงการหนึ่ง ที่ติดอันดับอาถรรพ์ 7
ปี อยู่เหมือนกัน
การก่อสร้างสำนักงานเทศบาลแห่งนี้
เริ่มต้นการจัดซื้อที่ดินตั้งแต่ปี 2551
จนไปถึงการขออนุมัติงบประมาณเพื่อทำการก่อสร้างสำนักงานจากสภาเทศบาล ในปี 2555 จากนั้นได้ทำการประมูล
จัดซื้อจัดจ้างหาผู้รับเหมา และทำสัญญาก่อสร้างกับ กิจการร่วมค้า พี เอส ที ในปี 2556 แต่ก็ต้องยกเลิกสัญญาไป
เพราะมีการร้องเรียนกันอย่างต่อเนื่องเกี่ยวกับการก่อสร้างที่ผิดแบบ ต่อมาในปี 2558 มีการสรรหาผู้รับเหมารายได้ คือ
บริษัท เอ็ม.วี.เอส. ดีเวลลอปเม้นท์ 1998 จำกัด
แต่ก็ประสบปัญหาอีกเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจ
ทำให้ผู้รับเหมาทิ้งงานและไม่จ่ายค่าจ้างคนงาน
จึงต้องยกเลิกสัญญาไปอีกครั้งในปี 2560 ในขณะที่งานก่อสร้างเดินหน้าไปได้เพียง 20 เปอร์เซ็นต์ กระทั่งปลายปี 2560 เทศบาลเมืองเขลางค์นคร
ได้ทำการจัดซื้อจัดจ้างผู้รับเหมารายใหม่เข้ามาดำเนินการ คือ บริษัท ศักดิ์ทองพูน
จำกัด ด้วยวงเงิน 138.8 ล้านบาทเศษ จนก่อสร้างแล้วเสร็จในปี
2562
เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2562 นายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร บุคลากรเทศบาลเมืองเขลางค์นคร ได้ฤกษ์ทำพิธีเปิดสำนักงานเทศบาลเมืองเขลางค์นครแห่งใหม่ เลขที่ 999 ต.ชมพู อ.เมืองลำปาง จ.ลำปาง อย่างเป็นทางการ พร้อมทำพิธีบวงสรวงพระพรหม หระภูมิ และเจ้าที่
พิธีเจริญพระพุทธมนต์ และพิธีสืบชะตาแบบล้านนา และเปิดใช้งานมาจนถึงปัจจุบัน
รวมระยะเวลาการดำเนินการทั้งหมดกว่า 10 ปี งานนี้ทำให้นายกเทศมนตรีเมืองเขลางค์นคร
อย่างนายไพฑูรย์ โพธิ์ทอง ถึงกับหลั่งน้ำตา
เพราะตื้นตันที่ได้มีสำนักงานอยู่เป็นของตัวเองเสียที
หลังจากที่รับตำแหน่งมานานแสนนาน
อย่างไรก็ตาม โครงการก่อสร้าง
รวมถึงการแก้ไขปัญหา ทั้ง 6 เรื่องราวที่กล่าวมานี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ได้รับการเปิดเผยเรื่องราวผ่านสื่อ
และคาดว่ายังคงมีอีกหลายต่อหลายโครงการ ที่ยังประสบปัญหาเช่นนี้
เพียงแต่ยังไม่มีการถูกค้นพบเท่านั้น
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น