
หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019
(โควิด-19) หรือ ศบค. มีการปลดล็อค 6 กิจการ
ให้กลับมาเปิดบริการได้ในวันที่ 3 พ.ค. 63 นี้ ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 กิจการตลาดสด ตลาดนัด
ตลาดน้ำ ถนนคนเดิน แผงลอบ กลุ่มที่ 2 ร้านจำหน่ายอาหาร
ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า
ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่ กลุ่มที่ 3 กิจการค้าปลีก
ค้าส่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ บริเวณพื้นที่นั่ง ยืนรับประทาน รถเร่
หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภค บริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน
ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม กลุ่มที่ 4 กีฬาสันทนาการ
กิจกรรมในสวนสาธารณะ ที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่มีการแข่งขัน
กลุ่มที่ 5 ร้านตัดผมเสริมสวย ร้านตัดผม เฉพาะตัดสระไดร์ผม
และกลุ่มที่ 6 ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์
ในส่วนกิจการร้านอาหาร
ระบุว่าเบื้องต้นให้ร้านอาหารจัดโต๊ะให้ห่างกัน 1 เมตร
แต่สามารถนั่งในร้านได้ ส่วนร้านสุกี้ ชาบู ที่เป็นลักษณะนั่งทานร่วมกัน
เปิดได้แต่ต้องนั่งกินคนเดียว ถ้าเป็นไปได้อยากให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน
จากการลงพื้นที่สำรวจร้านหมูกระทะ
หมูจุ่มใน จ.ลำปาง พบว่าแต่ละร้านได้มีการปิดร้านตามมาตรการจังหวัดทั้งหมด
โดยเปิดให้จำหน่ายกลับบ้านเท่านั้น ส่วนใหญ่จะจัดขายเป็นชุด ราคาเริ่มต้นที่ 100-300 บาท มีทั้งเนื้อหมู ผัก น้ำจิ้ม และน้ำซุปให้
ซึ่งจากการสอบถามความพร้อมในการเปิดให้บริการวันที่ 3
พ.ค.63 นี้ แต่จะต้องให้ลูกค้านั่งทานโต๊ะละ 1 คนเท่านั้น
ทางเจ้าของร้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พร้อมที่จะเปิดหากต้องนั่งคนเดียว
เพราะร้านต้องแบกรับต้นทุนหลายอย่าง ทั้งค่าวัตถุดิบและค่าจ้างแรงงาน
น.ส.วรรณิศา
ปัญญาวงค์ เจ้าของร้านน่านฟ้าหมูกระทะ
อ.เมืองลำปาง เปิดเผยว่า
หลังจากที่มีคำสั่งให้ปิดร้านก็ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี
แต่ก็ได้รับความเดือดร้อนมากเช่นกัน
เนื่องจากวัตถุดิบที่ได้เตรียมไว้ขายส่วนใหญ่เป็นของสด
เหลือจำนวนมากต้องแพ็คและอัดน้ำแข็งไว้ และนำมาขายแบบจัดชุดแทน
ซึ่งเดิมร้านก็ขายแบบจัดชุดกลับบ้านอยู่แล้ว แต่คนจะนิยมมาทานที่ร้านมากกว่า ทำให้ยอดขายหายไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์
ในส่วนของแรงงานภายในร้านที่เป็นนักศึกษาเข้ามาทำงานหารายได้พิเศษก็ได้เลิกจ้างไปทั้งหมด
น.ส.วรรณิศา
กล่าวอีกว่า หากจะให้เปิดร้านแต่ให้ลูกค้านั่งรับประทานคนเดียว คงจะไม่พร้อม เพราะเราต้องมีต้นทุนที่จะต้องจ้างแรงงานวันละ
200 บาท และค่าวัตถุดิบ ค่าถ่าน ค่าอาหารต่างๆ ซึ่งไม่คุ้มค่า
และคิดว่าคงไม่มีใครมานั่งทานคนเดียวเพราะหมูกระทะ
จะทานให้อร่อยต้องนั่งทานด้วยกันหลายคน
แต่หากว่ามีการผ่อนปรนให้นั่งทานโต๊ะละ 2 คนได้
ก็จะเปิดร้านอยู่ เพราะที่ร้านก็ตั้งโต๊ะห่างกันอยู่แล้ว เป็นโต๊ะสี่เหลี่ยม
สามารถนั่งคนละมุมเว้นระยะห่างได้
เช่นเดียวกับร้านหมูจุ่มบ้านไม้
ซึ่งเดิมเปิดร้านเป็นบุฟเฟ่ต์หัวละ 99 บาท
ก็ต้องปรับมาขายเป็นชุดกลับบ้าน ราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 150
บาท โดยทางร้านได้บอกว่าหากให้เปิดร้านและนั่งทานโต๊ะละคนก็ไม่พร้อมที่จะเปิดเช่นกัน
ขอขายเป็นชุดกลับบ้านเหมือนเดิมดีกว่า
อย่างไรก็ตาม
คงจะต้องรอความชัดเจนจาก
ศบค.อีกครั้งว่าจะมีมาตรการให้แต่ละร้านดำเนินการอย่างไรต่อไป
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น