วันศุกร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

ร้านหมูจุ่ม-หมูกระทะ เผยยังไม่พร้อมเปิดให้บริการ หากต้องนั่งรับประทานโต๊ะละ 1 คน ไม่คุ้มค่าตั้งเตาและค่าจ้างแรงงาน ขอขายแบบกลับบ้านดีกว่า ขณะที่ช่วงปิดร้านเดือดร้อนหนักยอดขายหายไป 70 เปอร์เซ็นต์

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)  หรือ ศบค. มีการปลดล็อค 6 กิจการ ให้กลับมาเปิดบริการได้ในวันที่ 3 พ.ค. 63 นี้ ประกอบด้วย กลุ่มที่ 1 กิจการตลาดสด ตลาดนัด ตลาดน้ำ ถนนคนเดิน แผงลอบ กลุ่มที่ 2 ร้านจำหน่ายอาหาร ร้านอาหารทั่วไป ร้านเครื่องดื่ม ขนมหวาน ที่อยู่นอกห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารริมทาง รถเข็น หาบเร่ กลุ่มที่ 3 กิจการค้าปลีก ค้าส่ง ซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้านสะดวกซื้อ บริเวณพื้นที่นั่ง ยืนรับประทาน รถเร่ หรือรถวิ่งขายสินค้าอุปโภค บริโภค ร้านค้าปลีกขนาดย่อม ร้านค้าปลีกชุมชน ร้านขายปลีกธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม กลุ่มที่ 4 กีฬาสันทนาการ กิจกรรมในสวนสาธารณะ ที่เป็นการออกกำลังกายโดยไม่ได้เล่นเป็นทีมและไม่มีการแข่งขัน กลุ่มที่ 5 ร้านตัดผมเสริมสวย ร้านตัดผม เฉพาะตัดสระไดร์ผม และกลุ่มที่ 6 ร้านตัดขนสัตว์ ร้านรับเลี้ยงรับฝากสัตว์

ในส่วนกิจการร้านอาหาร ระบุว่าเบื้องต้นให้ร้านอาหารจัดโต๊ะให้ห่างกัน 1 เมตร แต่สามารถนั่งในร้านได้ ส่วนร้านสุกี้ ชาบู ที่เป็นลักษณะนั่งทานร่วมกัน เปิดได้แต่ต้องนั่งกินคนเดียว ถ้าเป็นไปได้อยากให้ซื้อกลับไปรับประทานที่บ้าน

จากการลงพื้นที่สำรวจร้านหมูกระทะ หมูจุ่มใน จ.ลำปาง พบว่าแต่ละร้านได้มีการปิดร้านตามมาตรการจังหวัดทั้งหมด โดยเปิดให้จำหน่ายกลับบ้านเท่านั้น ส่วนใหญ่จะจัดขายเป็นชุด ราคาเริ่มต้นที่ 100-300 บาท มีทั้งเนื้อหมู ผัก น้ำจิ้ม และน้ำซุปให้  ซึ่งจากการสอบถามความพร้อมในการเปิดให้บริการวันที่ 3 พ.ค.63 นี้ แต่จะต้องให้ลูกค้านั่งทานโต๊ะละ 1 คนเท่านั้น  ทางเจ้าของร้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่พร้อมที่จะเปิดหากต้องนั่งคนเดียว เพราะร้านต้องแบกรับต้นทุนหลายอย่าง ทั้งค่าวัตถุดิบและค่าจ้างแรงงาน

น.ส.วรรณิศา ปัญญาวงค์ เจ้าของร้านน่านฟ้าหมูกระทะ  อ.เมืองลำปาง  เปิดเผยว่า หลังจากที่มีคำสั่งให้ปิดร้านก็ได้ให้ความร่วมมืออย่างดี แต่ก็ได้รับความเดือดร้อนมากเช่นกัน เนื่องจากวัตถุดิบที่ได้เตรียมไว้ขายส่วนใหญ่เป็นของสด เหลือจำนวนมากต้องแพ็คและอัดน้ำแข็งไว้ และนำมาขายแบบจัดชุดแทน ซึ่งเดิมร้านก็ขายแบบจัดชุดกลับบ้านอยู่แล้ว แต่คนจะนิยมมาทานที่ร้านมากกว่า  ทำให้ยอดขายหายไปถึง 70 เปอร์เซ็นต์  ในส่วนของแรงงานภายในร้านที่เป็นนักศึกษาเข้ามาทำงานหารายได้พิเศษก็ได้เลิกจ้างไปทั้งหมด

น.ส.วรรณิศา กล่าวอีกว่า หากจะให้เปิดร้านแต่ให้ลูกค้านั่งรับประทานคนเดียว คงจะไม่พร้อม เพราะเราต้องมีต้นทุนที่จะต้องจ้างแรงงานวันละ 200 บาท และค่าวัตถุดิบ ค่าถ่าน ค่าอาหารต่างๆ ซึ่งไม่คุ้มค่า และคิดว่าคงไม่มีใครมานั่งทานคนเดียวเพราะหมูกระทะ จะทานให้อร่อยต้องนั่งทานด้วยกันหลายคน  แต่หากว่ามีการผ่อนปรนให้นั่งทานโต๊ะละ 2 คนได้ ก็จะเปิดร้านอยู่ เพราะที่ร้านก็ตั้งโต๊ะห่างกันอยู่แล้ว เป็นโต๊ะสี่เหลี่ยม สามารถนั่งคนละมุมเว้นระยะห่างได้ 

เช่นเดียวกับร้านหมูจุ่มบ้านไม้ ซึ่งเดิมเปิดร้านเป็นบุฟเฟ่ต์หัวละ 99 บาท ก็ต้องปรับมาขายเป็นชุดกลับบ้าน ราคาเริ่มต้นที่ชุดละ 150 บาท  โดยทางร้านได้บอกว่าหากให้เปิดร้านและนั่งทานโต๊ะละคนก็ไม่พร้อมที่จะเปิดเช่นกัน ขอขายเป็นชุดกลับบ้านเหมือนเดิมดีกว่า

อย่างไรก็ตาม คงจะต้องรอความชัดเจนจาก ศบค.อีกครั้งว่าจะมีมาตรการให้แต่ละร้านดำเนินการอย่างไรต่อไป

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์