การเปิดเรียนทางไกล หรือเรียนออนไลน์ผ่านช่องทางทีวีดิจิทัล
ช่อง 37-51,
ทีวีดาวเทียม Ku-Band ช่อง 186-200, ทีวีดาวเทียม C-Band ช่อง 337-351,
www.dltv.ac.th แอปพลิเคชั่น DLTV ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ
และ Youtube ช่อง DLTV1 ถึง DLTV15 ของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.63
ที่ผ่านมา สร้างความตื่นเต้นและตื่นตัวให้กับเด็กไม่น้อย
หลายคนมีความตั้งใจในการศึกษาหาความรู้ผ่านระบบใหม่ที่นอกเหนือจากในห้องเรียน
แต่ก็ยังมีเด็กอีกหลายคนอาจจะนอกลู่นอกทางไปสนใจอย่างอื่นแทนการนั่งเรียนหน้าจอ ผู้ปกครองจึงต้องคอยนั่งประกบ
เพราะไม่มีครูคอยกำชับให้ตั้งใจเหมือนเรียนในห้องเรียน และขณะเดียวกันก็ยังมีนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่ง
ประสบปัญหาไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกล สัญญาณดาวเทียม
และอินเตอร์เน็ตไม่สามารถเข้าถึงได้
จากการสอบถามผู้ปกครองรายหนึ่ง
ซึ่งมีลูกอยู่ในวัยเรียน 2 คน ชั้น ป.5 และ ม. 2 กล่าวว่า
ปัญหาของการเรียนคือ ที่บ้านมีโทรทัศน์ที่ติดตั้งเครื่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล เพียงเครื่องเดียว
จึงต้องให้ลูกคนเล็กดูผ่านทางจอทีวี
ส่วนลูกคนโตต้องเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตดูทางโน้ตบุ๊ก
แต่ก็ประสบปัญหาอีกเมื่อเข้าเว็บไซด์ไม่ได้
ระบบล่มเพราะมีคนเข้าใช้งานจำนวนมาก
ตอนนี้จึงต้องหากล่องรับสัญญาณมาติดตั้งกับโทรทัศน์อีกเครื่องหนึ่งให้
เช่นเดียวกันกับผู้ปกครองอีกรายหนึ่ง
มีปัญหาลักษณะเดียวกัน คือมีลูก 3 คนอยู่คนละชั้นเรียน
จึงต้องใช้โทรทัศน์ถึง 3 เครื่อง
ในการให้ลูกเรียนออนไลน์ผ่านทางช่องทีวีดิจิทัล
เบื้องต้นจึงต้องให้ลูกที่เรียนชั้นมัธยมศึกษา
ใช้วิธีดูผ่านทางโทรศัพท์มือถือไปก่อน
ขณะที่เด็กนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล
ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณครูโรงเรียนบ้านแม่ตีบ
อ.งาว ซึ่งนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียนประมาณ
200 คน ทราบว่า ได้ประสบปัญหาในการเรียนออนไลน์เพราะโทรทัศน์รับสัญญาณไม่ได้
เนื่องจากกล่องรุ่นเก่า เปิดดูได้เฉพาะช่องโทรทัศน์ทั่วไป ในส่วนของเด็กชั้นมัธยมจึงแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการให้เด็กไปดูบ้านเพื่อนที่มีอินเตอร์เน็ต
ส่วนของเด็กชั้นอนุบาลยังอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา
เพราะเด็กๆส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับตายาย ผู้สูงอายุ
ก็จะไม่ค่อยเข้าใจในระบบเทคโนโลยีมากนัก จึงได้เข้าเยี่ยมตามบ้าน
และแจกแบบฝึกหัดให้เด็กได้ลองทำไปพลางก่อน
สำหรับทางด้านผู้ปกครอง
ก็มีปัญหามากมายเช่นกัน โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์หลายๆด้าน
ถึงข้อดีและข้อเสียของการเรียนออนไลน์ดังกล่าว ด้านหนึ่งบอกว่าเรียนออนไลน์เด็กจะได้ไม่เอาเวลาไปติดเกมส์
หรือทำอะไรอย่างอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์ ส่วนอีกด้านหนึ่งให้ความเห็นว่า
การเรียนสร้างปัญหาทั้งเรื่องภาระค่าใช้จ่าย และการนั่งประกบลูกให้เรียน
และทำใบงานส่งครูอีกด้วย ซึ่งเป็นการถกเถียงกันอย่างไม่มีข้อสรุป
อย่างไรก็ตาม
ทางผู้อำนวยการโรงเรียนหลายแห่ง ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียน
ว่า หากผู้ปกครองไม่พร้อม หรือไม่มีอุปกรณ์ในการเรียนออนไลน์ ไม่ต้องซื้อใหม่ และไม่ต้องกังวล เพราะหลังจากเปิดภาคเรียนแล้ว ทางครูจะมีการสอนทบทวนบทเรียนกันใหม่อีกครั้ง ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่รู้ว่าจะเป็นทางออกที่ถูกต้องหรือไม่
เพราะอย่างไรเด็กที่ได้เรียนออนไลน์ไปแล้ว จะต้องมีพื้นฐานมากกว่าเด็กที่ไม่ได้เรียนอย่างแน่นอน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น