วันพฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2563

การเรียนระบบทางไกล ตั้งแต่เปิดมาก็มีปัญหาในหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น ขาดแคลนอุปกรณ์ เว็บไซด์ล่ม สัญญาณเข้าไม่ถึง ไม่มีอินเตอร์เน็ต แล้วเด็กที่ไม่ได้เรียนจะตามเพื่อนทันไหม?

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

          การเปิดเรียนทางไกล หรือเรียนออนไลน์ผ่านช่องทางทีวีดิจิทัล ช่อง 37-51, ทีวีดาวเทียม Ku-Band ช่อง 186-200, ทีวีดาวเทียม C-Band ช่อง 337-351, www.dltv.ac.th แอปพลิเคชั่น DLTV ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ และ Youtube ช่อง DLTV1 ถึง DLTV15 ของกระทรวงศึกษาธิการ เมื่อวันที่ 18 พ.ค.63 ที่ผ่านมา  สร้างความตื่นเต้นและตื่นตัวให้กับเด็กไม่น้อย หลายคนมีความตั้งใจในการศึกษาหาความรู้ผ่านระบบใหม่ที่นอกเหนือจากในห้องเรียน แต่ก็ยังมีเด็กอีกหลายคนอาจจะนอกลู่นอกทางไปสนใจอย่างอื่นแทนการนั่งเรียนหน้าจอ ผู้ปกครองจึงต้องคอยนั่งประกบ เพราะไม่มีครูคอยกำชับให้ตั้งใจเหมือนเรียนในห้องเรียน  และขณะเดียวกันก็ยังมีนักเรียนอีกกลุ่มหนึ่ง ประสบปัญหาไม่สามารถเรียนออนไลน์ได้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกล สัญญาณดาวเทียม และอินเตอร์เน็ตไม่สามารถเข้าถึงได้
          จากการสอบถามผู้ปกครองรายหนึ่ง ซึ่งมีลูกอยู่ในวัยเรียน 2 คน ชั้น ป.5 และ ม. 2  กล่าวว่า ปัญหาของการเรียนคือ ที่บ้านมีโทรทัศน์ที่ติดตั้งเครื่องรับสัญญาณทีวีดิจิทัล เพียงเครื่องเดียว จึงต้องให้ลูกคนเล็กดูผ่านทางจอทีวี ส่วนลูกคนโตต้องเชื่อมต่อสัญญาณอินเตอร์เน็ตดูทางโน้ตบุ๊ก แต่ก็ประสบปัญหาอีกเมื่อเข้าเว็บไซด์ไม่ได้ ระบบล่มเพราะมีคนเข้าใช้งานจำนวนมาก  ตอนนี้จึงต้องหากล่องรับสัญญาณมาติดตั้งกับโทรทัศน์อีกเครื่องหนึ่งให้
          เช่นเดียวกันกับผู้ปกครองอีกรายหนึ่ง มีปัญหาลักษณะเดียวกัน คือมีลูก 3 คนอยู่คนละชั้นเรียน จึงต้องใช้โทรทัศน์ถึง 3 เครื่อง ในการให้ลูกเรียนออนไลน์ผ่านทางช่องทีวีดิจิทัล เบื้องต้นจึงต้องให้ลูกที่เรียนชั้นมัธยมศึกษา ใช้วิธีดูผ่านทางโทรศัพท์มือถือไปก่อน
          ขณะที่เด็กนักเรียนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ก็ประสบปัญหาเช่นเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณครูโรงเรียนบ้านแม่ตีบ อ.งาว ซึ่งนักเรียนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลไปจนถึงมัธยมศึกษาตอนต้น มีนักเรียนประมาณ 200 คน ทราบว่า ได้ประสบปัญหาในการเรียนออนไลน์เพราะโทรทัศน์รับสัญญาณไม่ได้ เนื่องจากกล่องรุ่นเก่า เปิดดูได้เฉพาะช่องโทรทัศน์ทั่วไป  ในส่วนของเด็กชั้นมัธยมจึงแก้ปัญหาเบื้องต้นด้วยการให้เด็กไปดูบ้านเพื่อนที่มีอินเตอร์เน็ต  ส่วนของเด็กชั้นอนุบาลยังอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา เพราะเด็กๆส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับตายาย ผู้สูงอายุ  ก็จะไม่ค่อยเข้าใจในระบบเทคโนโลยีมากนัก  จึงได้เข้าเยี่ยมตามบ้าน และแจกแบบฝึกหัดให้เด็กได้ลองทำไปพลางก่อน    
          สำหรับทางด้านผู้ปกครอง ก็มีปัญหามากมายเช่นกัน  โดยมีการวิพากษ์วิจารณ์หลายๆด้าน ถึงข้อดีและข้อเสียของการเรียนออนไลน์ดังกล่าว ด้านหนึ่งบอกว่าเรียนออนไลน์เด็กจะได้ไม่เอาเวลาไปติดเกมส์ หรือทำอะไรอย่างอื่นที่ไม่เป็นประโยชน์  ส่วนอีกด้านหนึ่งให้ความเห็นว่า การเรียนสร้างปัญหาทั้งเรื่องภาระค่าใช้จ่าย และการนั่งประกบลูกให้เรียน และทำใบงานส่งครูอีกด้วย ซึ่งเป็นการถกเถียงกันอย่างไม่มีข้อสรุป  
          อย่างไรก็ตาม ทางผู้อำนวยการโรงเรียนหลายแห่ง ได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของโรงเรียน ว่า หากผู้ปกครองไม่พร้อม หรือไม่มีอุปกรณ์ในการเรียนออนไลน์ ไม่ต้องซื้อใหม่ และไม่ต้องกังวล  เพราะหลังจากเปิดภาคเรียนแล้ว ทางครูจะมีการสอนทบทวนบทเรียนกันใหม่อีกครั้ง   ซึ่งปัญหาดังกล่าวไม่รู้ว่าจะเป็นทางออกที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะอย่างไรเด็กที่ได้เรียนออนไลน์ไปแล้ว จะต้องมีพื้นฐานมากกว่าเด็กที่ไม่ได้เรียนอย่างแน่นอน


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์