นายแพทย์ประเสริฐ
กิจสุวรรณรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงสถานการณ์ไข้เลือดออกของ
จ.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.63 ถึงวันที่ 8 ก.ค.63 พบผู้ป่วยแล้ว จำนวน 220 ราย คิดเป็นอัตราป่วย 29.83
ต่อแสนประชากร เมื่อเทียบกับ 8 จังหวัดภาคเหนือตอนบน
จังหวัดลำปางมีอัตราป่วยสูงเป็นลำดับที่ 4 รองจากจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย และน่าน
เมื่อเทียบกับประเทศ ลำปางอยู่ลำดับที่ 46 ของประเทศ อำเภอที่พบผู้ป่วยสูงที่สุด 5
อันดับแรก ได้แก่ อำเภอห้างฉัตร อำเภอวังเหนือ อำเภอเกาะคา อำเภอเมือง และอำเภอแม่เมาะ
นายแพทย์ประเสริฐ
กล่าวว่า ที่น่าเสียใจคือ จ.ลำปาง มีผู้เสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออกจำนวน 1 ราย ในพื้นที่อำเภอเมืองลำปาง เป็นผู้หญิง อายุ 17
ปี ซึ่งได้มีไข้และเข้ามาตรวจวินิจฉัยโรคเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 63 พบว่าเป็นไข้เลือดออกแต่อาการยังอยู่ในเกณฑ์ดี แต่ต่อมาวันที่ 5 ก.ค.ผู้ป่วยเริ่มมีอาการปวดท้อง
และวันที่ 6 ก.ค. อาการได้ทรุดลงอย่างรวดเร็ว
แพทย์ได้ให้ยาและรักษาอย่างเต็มที่แต่ร่างกายผู้ป่วยไม่รับ
จนกระทั่งเสียชีวิตลงในเวลา 03.00 น.ของวันที่ 8 ก.ค. ซึ่งถือว่าพบผู้เสียชีวิตโรคไข้เลือดออกในรอบ 10 ปีของ จ.ลำปาง
ขณะนี้ จ.ลำปางอยู่ในการระบาดช่วงแรกเท่านั้น อัตรายังไม่สูง ไม่ถึง 30 ต่อแสนประชากรถึงแม้ว่าอัตราจะไม่มากหากเทียบกับจังหวัดอื่นๆ และทั่วประเทศ เรายังอยู่อันดับที่ 46 แต่มีข้อสังเกตว่า ในเรื่องนี้ไม่ได้รับความสนใจในการป้องกันโรคจากประชาชนเท่าที่ควร เพราะจากการที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมกับ อสม.ในพื้นที่ได้ทำการตรวจสอบ ยังพบว่ามีภาชนะน้ำขังในพื้นที่จำนวนมาก ดังนั้น ขอความร่วมมือ ให้ช่วยกันป้องกันการระบาด โดยการเก็บบ้านให้ไม่มีแหล่งเพาะพันธุ์ยุง เก็บขยะทั้ง ในบ้านและนอกบ้านในช่วงรัศมี 100 เมตร รวมทั้งเก็บแหล่งน้ำ แหล่งเพาะพันธุ์ยุงลาย โดยปิดฝาให้มิดชิด และขอให้เพิ่มการกำจัดขยะเป็นสัปดาห์ละ 2 ครั้ง โดยเฉพาะพื้นที่ส่วนกลาง เช่น พื้นที่ข้างถนน วัด โรงเรียน สวนสาธารณะ สนามกีฬา
ทั้งนี้
ยังคงต้องพึ่งพาทาง อสม.ให้ช่วยกันสอดส่องดูแล
ประสานกับผู้นำชุมชนในการประชาคมหมู่บ้าน
เพื่อหามาตรการกำจัดแหล่งเพาะพันธุ์ยุง และองค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นดำเนินการตามข้อบัญญัติและกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับเหตุรำคาญ
หากสงสัยว่าป่วยเป็นโรคไข้เลือดออก เช่น มีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยตามตัว หรือมีจุดแดงๆตามลำตัว
แขนและขา คลื่นไส้อาเจียน ให้เข้ารับการรักษาโดยเร็ว ในส่วนของประชาชนก็ต้องป้องกันตนเองจากยุงกัด
โดยทายากันยุง นอนในมุ่ง สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว เก็บบ้าน เก็บขยะ เก็บน้ำ
ในบ้านของตนเอง รวมทั้งดูแลบริเวณโดยรอบบ้านด้วย โดยเฉพาะในช่วงนี้เป็นอากาศที่เหมาะมากสำหรับการเพาะพันธุ์ของลูกน้ำยุงลาย หากทุกบ้านช่วยกันดูแลบ้านของตัวเอง
ก็จะลดผู้ป่วยลงได้ นายแพทย์ประเสริฐ กล่าว.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น