‘ตวงรัตน์’ พร้อมลุยลงพื้นที่เจาะทุกกลุ่มอายุ เน้นคุณภาพชีวิต ขณะที่ ‘ดาชัย’ งัดนโยบายสู้ ลั่นทำได้จริงทุกข้อ ประชาชนต้องรู้ว่าจะได้อะไร ด้าน ‘ประยูร’ ย้ำแก้ปัญหาน้ำ ท่องเที่ยวและกีฬาต้องมาคู่กัน ส่วน ‘บุญประสงค์’ เชื่อคนต้องการเปลี่ยนแปลง
องค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปางได้สรุปผลการรับสมัครนายก และสมาชิก สภา อบจ.ลำปาง วันที่ 2 พ.ย.63 ที่ผ่านมา โดยมีผู้สมัครนายก อบจ. จำนวน 4 คน ประกอบด้วย เบอร์ 1 น.ส.ตวงรัตน์ โล่ห์สุนทร ในนามพรรคเพื่อไทย เบอร์ 2 นายประยูร แก้วเดียว กลุ่มอนาคตลำปาง เบอร์ 3 นายบุญประสงค์ มิ่งเชื้อ และเบอร์ 4 นายดาชัย เอกปฐพี กลุ่มพลังลำปาง และมีผู้สมัครสมาชิกสภาฯ ทั้ง 30 เขต รวม 78 คน โดยการเลือกตั้งจะมีขึ้นในวันที่ 20 ธ.ค. 63 จ.ลำปางมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งสิ้น จำนวน 620,333 คน รวม 1,469 หน่วยเลือกตั้ง ซึ่งหลังจากการรับสมัครแล้ว ผู้สมัครนายก อบจ.ทั้ง 4 คนได้ให้สัมภาษณ์สั้นๆถึงนโยบายและความมั่นใจในการลงสมัครครั้งนี้
น.ส.ตวงรัตน์
โล่ห์สุนทร ผู้สมัครนายก อบจ.เบอร์ 1 เปิดเผยว่า รู้สึกตื่นเต้นเพราะเป็นครั้งที่ได้มาลงสนามที่ จ.ลำปาง
ที่ผ่านมาเคยเป็น ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ จึงยังไม่มีโอกาสพบปะพี่น้องประชาชนใกล้ชิด
ครั้งนี้เป็นโอกาสดีที่จะพบกับพี่น้องและรับทราบปัญหา
การเลือกตั้งครั้งนี้ทางพรรคเพื่อไทยหวังเก้าอี้ท้องถิ่นอย่างแน่นอน
เพราะพรรคไม่ได้มีมติส่งผู้สมัครในทุกจังหวัด
จะส่งเฉพาะจังหวัดที่มีความมั่นใจว่าเป็น ส.ส.ที่ทำงานอยู่กับพรรคมานาน
การลงพื้นที่ต้องเข้าถึงทุกกลุ่มเพราะประชากรมีทั้งหญิงและชายครึ่งต่อครึ่ง
นโยบายของเราก็คือต้องการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ประชาชน ซึ่งทุกคนอาจได้รับผลกระทบจากพิษเศรษฐกิจตอนนี้
รวมถึงผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาส เด็ก เยาวชน ตั้งใจอยากจะให้ครอบคลุมทุกคนทุกกลุ่ม แนวคิดหลักเน้นเรื่องคุณภาพชีวิต รวมถึงการปรับเปลี่ยนระบบการทำงาน ซึ่งทราบว่า
อบจ.มีเรื่องการทำงานที่ซ้ำซ้อนกับหน่วยงานท้องถิ่นอื่นๆ
ต้องเข้ามาดูก่อนว่าสามารถจะปรับปรุงในเรื่องเนื้องานที่ทำอยู่
หรือสิ่งใหม่ที่จะต่อยอดให้ดีขึ้น
น.ส.ตวงรัตน์
กล่าวว่า ความกังวลในตอนนี้คือเรื่องของเวลาและพื้นที่
เนื่องจากการลงพื้นที่ต้องครอบคลุมทั้งจังหวัด ซึ่งเวลาที่มีค่อนข้างน้อย
อาจจะไมสามารถเข้าถึงได้ครบทุกกลุ่มทุกหมู่บ้าน
แต่เราจะพยายามทำให้ดีที่สุดเท่าที่เวลาจะเอื้อ
“เราได้เครดิตจากทางคุณพ่อและน้องชายเป็น
ส.ส. และตระกูลโล่ห์สุนทร ก็เป็นตระกูลที่ทำงานในพื้นที่ จ.ลำปางมายาวนาน
พ่อก็เป็น ส.ส.มา 8 สมัย ส่วนน้องชายก็หลายสมัยแล้วเช่นกัน
ถือว่าได้ตรงนี้มาช่วยทำให้ประชาชนรู้จักเรา
แต่ในแง่ของการทำงาน ทาง
ส.ส.คงเข้ามาช่วยเหลือการหาเสียงไม่ได้เพราะมีข้อจำกัดของระเบียบ กฎหมาย ที่ กกต.กำหนดไว้”
น.ส.ตวงรัตน์ กล่าว
ด้านนายประยูร แก้วเดียว ผู้สมัครนายก อบจ. เบอร์ 2 กล่าวว่า เราต้องการเปลี่ยนแปลง
อบจ.ที่ไม่ได้เลือกตั้งมา 8 ปี
ที่ผ่านมาลำปางมีการผูกขาดตลอด คนที่จะมาลงสมัครไม่มีคนหน้าใหม่เลย
ตนจึงอยากให้มีการเปลี่ยนแปลง และนำผู้สมัครสมาชิกสภามาลงสมัครทั้ง 30 เขต ให้ประชาชนเห็นว่าเรามีความพร้อมอย่างแน่นอน
นโยบายจะเน้นเรื่องน้ำ
จากที่เห็นตอนลงพื้นที่หาเสียง หลายพื้นที่มีห้วยน้ำ ลำคลองเยอะมาก
แต่ไม่มีการกักเก็บเลย
เรื่องที่สองคือการท่องเที่ยว ลำปางมีของดีทุกอำเภอ
มีสถานที่ท่องเที่ยวหนึ่งเดียวในประเทศ คือน้ำตกแจ้ซ้อน
ที่มีทั้งน้ำแร่และน้ำตกในแห่งเดียวกัน
นอกจากนั้นยังมีอัตลักษณ์เรื่องรถม้า
และเป็นศูนย์กลางภาคเหนือด้วย ถ้าสนามบินพร้อมเปิดให้บริการต่างประเทศสามารถเข้ามาใช้บริการได้
จะเพิ่มแหล่งท่องเที่ยวขึ้นอีกมาก เรื่องที่สามคือการกีฬา ควรจะส่งเสริมกีฬาให้เด็กได้มีการพัฒนามากขึ้นกว่านี้
“เราเน้นย้ำว่า
ไม่ได้ขึ้นกับพรรคการเมืองใด เราเป็นตัวของตัวเอง
เพราะเป็นเรื่องของปากท้องของท้องถิ่นทั้ง 13 อำเภอ
ไม่อยากเอาพรรคการเมืองใหญ่มากำหนดเรา” นายประยูร กล่าว
ด้าน นายบุญประสงค์
มิ่งเชื้อ ผู้สมัคร นายก อบจ. เบอร์ 3 กล่าวว่า
ขณะนี้ประเทศชาติต้องการความเปลี่ยนแปลง
การลงสมัครในนามพรรคการเมืองหรือในนามกลุ่มการเมือง เริ่มเป็นเรื่องยาก
จึงฉายเดี่ยวมาเพื่อให้ประชาชนได้มีโอกาสตัดสินใจ
ตนเองเคยลงสมัคร ส.ส.พรรคมัชฌิมาธิปไตย และได้รับคะแนนจากประชาชนชาวลำปางกว่า
1 หมื่นคะแนน
ซึ่งได้คลุกคลีด้านการเมืองมาพอสมควร
และยังมีส่วนร่วมในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนมากว่า 20 ปี
เนื่องจากเคยเป็นอดีตข้าราชการกรมพัฒนาชุมชน
จึงขอโอกาศจากชาวลำปางช่วยพิจารณาด้วย
ส่วนนายดาชัย เอกปฐพี ผู้สมัคร นายก อบจ. เบอร์ 4 กล่าวว่า การที่คนลำปางจะเลือก นายก อบจ. สักคน แม้อยู่พื้นที่อำเภอไหน
ตำบลไหน ประชาชนต้องรู้ว่าคนที่จะเป็นนายกฯจะทำอะไรให้ ไม่ใช่การขายฝันให้ประชาชน เช่น
เสนอว่าสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐาน โครงการผู้สูงอายุ แต่จะทำที่ไหนไม่รู้ ในส่วนของตนเองได้กำหนดนโยบายสำหรับผู้สูงอายุไว้ชัดเจน
ว่า 1 อำเภอ 5 แสนบาท
ให้ผู้สูงอายุประชาคมร่วมกันว่าเงินจำนวนนี้จะนำไปใช้ทำอะไรบ้าง เป็นต้น
“การเลือกตั้งครั้งนี้ เราเตรียมตัวมา 1 ปี ปัจจุบันเป็นยุคข้อมูลข่าวสาร พี่น้องส่วนใหญ่เล่นสื่อโซเชียลมีเดีย สามารถตรวจสอบการทำงานของ อบจ.ได้ ดังนั้น นโยบายของกลุ่มพลังลำปาง จะบอกชัดเจนว่า พื้นที่ไหนทำอะไรบ้าง คือความโปร่งใสในการทำงาน ฝากพี่น้องประชาชนว่านโยบายเป็นสิ่งสำคัญ นโยบายของกลุ่มพลังลำปางที่ประชาสัมพันธ์ออกไปผ่านสื่อโซเชียลมีเดีย ได้ผ่านขั้นตอนการตรวจสอบฝ่ายกฎหมายทุกนโยบาย เพราะฉะนั้นนโยบายของกลุ่มพลังลำปางทำได้ และพร้อมจะลงมือทำ” นายดาชัย กล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น