วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

“ตวงรัตน์” มองปัญหาต้องเร่งแก้คือเศรษฐกิจและภัยแล้ง ย้ำการพัฒนาเมืองได้ต้องเริ่มจากพัฒนาคน

 


จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์ 

น.ส.ตวงรัตน์  โล่ห์สุนทร ผู้สมัครนายก อบจ.ลำปาง เบอร์ 1 ร่วมตอบคำถามใน 5 ประเด็นในการ เสวนาส่งเสริมการกระจายอำนาจและการมีส่วนร่วมของประชาชน ที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง โดยกล่าวถึงปัญหาเร่งด่วนที่ควรจะแก้ไขว่า  ตนเองมองว่า มีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือ เศรษฐกิจ ตอนนี้ไม่ว่าจะไปพื้นที่ไหนของ จ.ลำปาง พบว่าประชาชนประสบปัญหากับพิษเศรษฐกิจอย่างมาก ทั้งคนตกงาน และค้าขายไม่ดี ไปตามตลาดทั่วทุกอำเภอเห็นได้ชัดว่าตลาดเงียบเหงา คนที่ตกงานเมื่อก่อนสามารถไปยังพื้นที่จังหวัดใหญ่ๆเพื่อหางานทำได้ แต่ปัจจุบันก็ต้องกลับมาอยู่ที่บ้าน  ซึ่งเรื่องเหล่านี้ อบจ.สามารถแก้ปัญหาได้ทันที ในส่วนของการก่อสร้าง โครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ที่ อบจ.ทำอยู่ สามารถทำเป็นโครงสร้างขนาดเล็ก เช่นการขุดบ่อ สร้างฝาย ในพื้นที่ชุมชน โดยจ้างคนที่ตกงานในพื้นที่ให้ได้มีงานทำ ไม่จำเป็นต้องสร้างโครงการใหญ่ๆ และไปจ้างบริษัทรับเหมาจากพื้นที่อื่นเข้ามาทำงาน  

ส่วนเรื่องที่สองที่ได้พบมาจากการลงพื้นที่คือ ปัญหาด้านภัยแล้ง และการทำเกษตร เป็นปัญหามาตรฐานของทุกจังหวัด โดยเฉพาะพื้นที่ทางภาคเหนือ เป็นพื้นที่สูงเกิดความแห้งแล้งมาก ในส่วนของ อบจ. ทราบว่าได้มีการตั้งงบประมาณจัดซื้อเครื่องขุดบ่อบาดาลไปแล้ว สามารถใช้เครื่องนี้ให้เป็นประโยชน์ได้  โดยการออกสำรวจว่าพื้นที่ไหนได้รับความเดือดร้อนและเข้าไปดำเนินการให้  หากไม่สามารถขุดบ่อบาดาลได้ อาจจะทำการสร้างฝาย หรือจัดตั้งระบบการสูบน้ำจากลำห้วยที่มีอยู่เดิมขึ้นมาใช้ อยู่ที่การศึกษารายละเอียดและพื้นที่ที่เหมาะสม

น.ส.ตวงรัตน์ ยังได้กล่าวถึงเมกะโปรเจคต์ที่อยากจะทำด้วยว่า  จ.ลำปาง มีการพูดเรื่องการเป็นโลจิสติกส์ฮับมานานแล้ว เนื่องด้วยภูมิศาสตร์ที่ลำปางเป็นจุดศูนย์กลางของภาคเหนือ ทราบว่าทางจังหวัดเองก็ได้มีการศึกษามานาน แต่การเป็นเมกะโปรเจคต์ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก รวมทั้งต้องรับฟังความเห็นจากพื้นที่ มีความสำรวจความเหมาะสม และศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นเรื่องระยะยาวที่จะต้องดำเนินการ ในส่วนของ อบจ. ถ้าจะให้ทำเมกะโปรเจคต์ คงจะมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณ และอำนาจหน้าที่ คงไม่สามารถผลักดันได้เต็มที่ แต่หากสนับสนุนกับทางจังหวัดและ อปท.อื่นๆได้ ก็พร้อมที่จะช่วยเหลือเต็มที่อยู่แล้ว

เมื่อถามถึงการลำดับความสำคัญของการพัฒนาเมือง น.ส.ตวงรัตน์ ได้แสดงความเห็นว่า  อันดับแรกคือการพัฒนาศักยภาพคน เพราะคนเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนาทุกอย่าง โครงการแรกที่อยากทำคือการพัฒนาเด็ก และเยาวชน ให้ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ มาตรฐานเท่าเทียมกับคนที่อยู่ในเขตเมือง  ผู้ปกครองที่มีฐานะดี ก็สามารถส่งลูกหลานเรียนในโรงเรียนอินเตอร์  เรียนกับครูต่างชาติ ได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพได้  ถ้าเห็นโรงเรียนในชนบทตอนนี้ นอกจากจะมีการยุบโรงเรียนไปจำนวนมากแล้ว  ก็ยังพบปัญหาครูไม่เพียงพอ ต้องสอนนักเรียนในปริมาณมาก  ในส่วนของ อบจ.มีโรงเรียนในสังกัดอยู่ แม้จะมีโรงเรียนเดียวและมีขนาดเล็ก แต่มีความตั้งใจว่าอยากจะพัฒนาโรงเรียนนี้ให้เป็นต้นแบบ  เน้นการศึกษาแบบโรงเรียนอินเตอร์ ให้เด็กมีโอกาสเรียนภาษาที่สอง หรือสาม  เรียนในระบบการศึกษาที่มีคุณภาพ

ต่อมาคือปัญหาผู้สูงอายุ  ต้องทำให้พัฒนาศักยภาพของตนเองได้ เพื่อนำความสามารถที่มีมาพัฒนาจังหวัด สร้างงานสร้างอาชีพให้กับตัวเองได้  โครงการภาครัฐที่ให้การสนับสนุนเงินผู้สูงอายุ เป็นในลักษณะสงเคราะห์ ให้สวัสดิการ แต่ไม่ได้เป็นการเสริมศักยภาพให้ผู้สูงอายุสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ 

ส่วนประเด็นการมีส่วนร่วมของประชาชน น.ส.ตวงรัตน์  กล่าวว่า  โดยระบบโครงสร้างที่มีอยู่เดิม ก็เป็นการรับฟังประชาชนอยู่แล้ว เรามีสมาชิกสภา อบจ. ทั้งหมด 30 คน ก็เป็นเสมือนตัวแทนของประชาชนที่รับฟังปัญหา และส่งต่อมาถึงฝ่ายบริหาร  แต่ที่ผ่านมาอาจจะเนื่องด้วยระบบการทำงานแบบเดิมที่มีมานานกว่า 10 ปี ทำให้ศักยภาพของ ส.อบจ.แต่ละคนไม่สามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้จริง  ตนเคิดว่าเวทีที่ ส.อบจ.แต่ละคนจะรับฟังปัญหาเป็นเวทีสำคัญ  และแต่ละหมู่บ้านก็จะมีประชาคมก็ทำกันโดยปกติอยู่แล้ว อยู่ที่ว่าทางฝ่ายบริหารจะรับฟังมากน้อยแค่ไหน  บางทีก็ไม่ได้ฟังเสียของชาวบ้านแท้จริง คิดว่าควรจะให้ความสำคัญกับตรงนี้มากขึ้น  และมีการจัดตั้งสายตรงถึงนายกฯ เป็นการตรวจสอบ รับฟังเสียง ตอบสนองกัน เพื่อแก้ไขปัญหาได้จริง

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์