“นครปฐม” เป็นอู่อารยธรรมสำคัญที่มีประวัติความเป็นมายาวนานในแผ่นดินสุวรรณภูมิ
จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์กล่าวว่า เมืองนครปฐมแต่เดิมนั้นตั้งอยู่ริมทะเล
เป็นเมืองเก่าแก่ มีความเจริญรุ่งเรืองมานับตั้งแต่สมัยสุวรรณภูมิ และเป็นราชธานีสำคัญในสมัยทวารวดี
ในยุคนั้นนครปฐมเป็นแหล่งเผยแพร่อารยธรรมจากประเทศอินเดีย ซึ่งรวมทั้งพุทธศาสนา
นครปฐมจึงเป็นศูนย์กลางของความเจริญ มีชนชาติต่าง ๆ
อพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานอยู่เป็นจำนวนมาก ต่อมาได้เกิดความแห้งแล้งขึ้นในเมืองนครปฐม
เพราะกระแสน้ำที่ไหลผ่านตัวเมืองเปลี่ยนเส้นทาง
ประชาชนจึงอพยพไปตั้งหลักแหล่งอยู่ริมน้ำ และสร้างเมืองใหม่ขึ้นชื่อ
“เมืองนครไชยศรี” หรือ “ศรีวิชัย” นครปฐมจึงกลายเป็นเมืองร้างมาเป็นเวลาหลายร้อยปี
จนกระทั่งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ขณะที่ทรงยังผนวชได้ธุดงค์ไปพบพระปฐมเจดีย์ และทรงเห็นว่าเป็นเจดีย์องค์ใหญ่ไม่มีที่ใดเทียบเท่า
ครั้นเมื่อได้ครองราชย์ จึงโปรดฯ ให้ก่อเจดีย์แบบลังกาครอบองค์เดิมไว้
โดยให้ชื่อว่า “พระปฐมเจดีย์” ทรงปฏิสังขรณ์สิ่งต่าง ๆ
ในบริเวณองค์พระปฐมเจดีย์ให้มีสภาพดี และโปรดฯ
ให้ขุดคลองเจดีย์บูชาเพื่อให้การเสด็จมานมัสการสะดวกขึ้น
จังหวัดนครปฐมเป็นจังหวัดปริมณฑลอยู่ห่างจากกรุงเทพฯเพียง 30
กิโลเมตร ใช้ระยะเวลาเดินทางเพียง 30 นาที
ก็จะได้พบกับวิถีชีวิตริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน มีวัดวาอารามมากมายมีสุดยอดเกจิของเมืองไทยที่นี่
นอกจากนี้จังหวัดนครปฐมยังมีพิพิธภัณฑ์ ซึ่งเป็นแหล่งความรู้มีวันเก่าๆ เล่าอดีต
มีตลาดร้อยปี มีกลิ่นอาธรรมชาติใกล้กรุงเทพฯ ที่พร้อมรองรับความเหนื่อยล้าของนักท่องเที่ยวที่มามาเที่ยวนครปฐม
ไม่ว่าจะเป็น
พระปฐมเจดีย์
เป็นพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ
การที่ได้ชื่อว่าปฐมเจดีย์นั้นพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ ทรงสันนิษฐานน่าจะเป็นพระเจดีย์เก่ากว่าพระเจดีย์อื่นๆ
ในประเทศสยาม มีการก่อพระเจดีย์ออกแบบเป็นเรียงราย อยู่ 4 วิหาร มีวิหารพระนาคปรก วิหารพระไสยาสน์ วิหารไหว้พระพุทธรูปต่างๆ และวิหารพระป่าเลไลย์
วิหารหลวงพระอุโบสถอยู่บนพื้นดินนับได้ว่าเป็นพระมหาเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดและงดงามที่สุดแห่งหนึ่งก็ว่าได้
พิพิธภัณฑ์ศิลปะนกฮูก
หากใครที่รักนกฮูกตาโตไม่ควรพลาดกับพิพิธภัณฑ์ศิลปะนกฮูก
รวบรวมผลงานหลากหลายเกี่ยวกับนกฮูกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น งานปั้น งานวาด งานโลหะ และอีกมากมายรับรองว่าท่านจะต้องเปลี่ยนความคิดเรื่องนกฮูกแน่นอน
พุทธมณฑล
เป็นสถานที่สำคัญทางพระพุทธศาสนาอยู่ในอำเภอพุทธมณฑล
เมื่อ พ.ศ. 2500 มีพระพุทธรูปปางลีลา พระประจำพุทธมณฑล เรียกว่าพระศรีศากยะทศพลญาณ
ประธานพุทธมณฑลสมุทรราชน์ ออกแบบโดย ศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี พระพุทธรูปนี้สร้างเสร็จ
และฉลองเมื่อปี พ.ศ. 2505 คราวสมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ ครบ 200 ปี มีเนื้อที่ 2500 ไร่
ตลาดดอนหวาย
ตั้งแต่อดีตรัชกาลที่ 6 ที่อยู่ติดริมแม่น้ำท่าจีน มีพ่อค้าแม่ค้านำสินค้าและอาหารมาจำหน่ายในบริเวณวัดดอนหวาย
มีตลาดนัดสินค้าทางการเกษตรที่วัดดอนหวายทุกวัน หน้าไปเที่ยวชม
ถนนอุทยาน
ถนนอุทยาน หรือนิยมเรียกชื่อเดิมว่า
ถนนอักษะ เป็นถนนเชื่อมระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย 3
เขตทวีวัฒนากรุงเทพฯ ถึงถนนพุทธมณฑลสาย 4 ในอำเภอพุทธมณฑล
จังหวัดนครปฐม มีระยะทาง 4 กิโลเมตร พร้อมด้วยทัศนียภาพที่สวยงาม
จนได้ชื่อว่าเป็นถนนที่สวยที่สุดในประเทศไทย
วัดพระประโทณเจดีย์
ประวัติวัดพระประโทณเจดีย์
ตามตำนานเล่าสืบกันมาว่า ตำบลประโทณ เป็นที่อยู่ของพรามหณ์ตระกูลหนึ่งเรียกว่า
"โทณพราหมณ์"เข้าใจว่าพราหมณ์ตระกูลนี้มาจากอินเดียมาทำการค้าขายในสุวรรณภูมิแล้วตั้งรกรากอยู่ที่นี่
พราหมณ์ตระกูลนี้ได้นำ "ทะนานทอง" ที่ใช้ดวงพระบรมสารีริกธาตุมาด้วย
ได้สร้างเรือนหินเป็นที่เก็บรักษาทะนานทองและยังมีเรือนหินอีกแห่งหนึ่ง
ซึ่งอยู่ริมถนนเพชรเกษมทางด้านทิศเหนือกิโลเมตรที่ 53 - 54 เป็นโบราณสถานที่มีซากปรักหักพังมีกองอิฐขนาดใหญ่เป็นเนินสูงกว่าระดับ
2 - 3 วา
วัดไร่ขิง
ชาวบ้านเรียกว่าหลวงพ่อวัดไร่ขิง เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัย
หน้าตักกว้าง 4 ศอก 2 นิ้วเศษ สูง 4
ศอก 16 นิ้วเศษ พุทธลักษณะสมัยเชียงแสน สันนิษฐานว่าเป็นฝีมือช่างสมัยไทยลานนา
และลานช้าง ตามตำนานเล่าว่าลอยน้ำมา และอัญเชิญขึ้นมาไว้ที่วัดศาลาปูนวัดไร่ขิงนี้
สมเด็จพระมหาสมณะเจ้ากรมพระยาวชิรญาณวโรรส
ทรงพระราชทานนามให้ว่าวัดมงคลจินดารามวัดไร่ขิง แต่ชาวบ้านเรียกกันเต็มๆ ว่าวัดมงคลจินดารามไร่ขิง
จนกระทั่งเหลือแต่ชื่อวัดไร่ขิงไปในที่สุด
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น