วันเสาร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2564

ผู้ว่าฯลำปาง ยืนยันพบผู้ติดเชื้อโควิด 19 เพิ่ม 2 ราย เป็นเพื่อนใกล้ชิดกับผู้ป่วยรายแรก รับไปกินข้าวที่เชียงใหม่ ลำปางประกาศพื้นที่สีส้ม 3 ตำบล

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์

เมื่อวันที่ 3 มกราคม 2564 เวลา 12.00 น. นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง ในฐานะประธานคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อจังหวัดลำปาง ได้เปิดเผยถึงกรณีพบผู้ติดเชื้อ โควิด-19 ในพื้นที่จังหวัดลำปางรายใหม่ จำนวน 2 ราย  ซึ่งขณะนี้รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล โดยในเบื้องต้น มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูง 10 ราย ซึ่งเป็นชาวลำปาง 9 ราย และเชียงใหม่ 1 ราย  มีสถานที่เสี่ยงจำนวน 6 แห่ง อยู่ในจังหวัดเชียงใหม่ 3 แห่ง จังหวัดลำปาง 3 แห่ง

สำหรับผู้ป่วยรายที่ 2 เป็นชายไทย อายุ 33 ปี  และ  ผู้ป่วยรายที่ 3 เป็นหญิงไทยอายุ 24 ปี และเป็นแฟนสาวของผู้ป่วยรายที่ 2   ได้สัมผัสผู้ป่วยรายที่ 1 เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2563 ขับรถพร้อมผู้ป่วยรายที่ 3 (แฟนสาว) ไปรับผู้ป่วยรายที่ 1 ที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจังหวัดเชียงใหม่ และแวะรับเพื่อนอีก  1 คนที่บ้านย่านสนามกีฬา 700 ปี จากนั้นไปทานข้าวที่ร้านอาหารที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง (21.30 น.-24.00 น.)  และไปดื่มนมที่ร้านนมสดในเชียงใหม่ (00.30-01.00 น.) จากนั้นส่งเพื่อนที่บ้านและโรงแรม ในข้างต้น ขับรถกลับลำปางส่งผู้ป่วยรายที่ 3 ที่บ้าน แล้วจึงกลับถึงบ้านใน ต.ต้นธงชัย

วันที่ 26 ธันวาคม ขับรถพร้อมผู้ป่วยรายที่ 3 ไปรับเพื่อนที่จังหวัดเชียงใหม่ ย่านสนามกีฬา 700 ปี เพื่อมาร่วมงานแต่งงานที่จังหวัดลำปาง ระหว่างทางแวะทานอาหารที่ร้านอาหารในอำเภอสันทราย จังหวัดเชียงใหม่ ถึงจังหวัดลำปางส่งผู้ป่วยรายที่ 3  และส่งเพื่อนที่บ้าน หลังจากนั้นจึงกลับบ้าน

วันที่ 27 ธันวาคม ผู้ป่วยรายที่ 2 ได้ไปร่วมงานแต่งงานในช่วงเช้า เวลาประมาณ 11.00 น. รับประทานอาหารกลางวันกับเพื่อนอีก 3 คน ช่วงเย็นไปร่วมงานแต่งงาน หลังจากนั้นสังสรรค์ที่บ้านเพื่อน  ส่วนผู้ป่วยรายที่ 3 ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งงานด้วย ช่วงเช้าอยู่บ้านใน ต.สวนดอก แต่ช่วงเย็นพี่สาวมารับไปเที่ยวบ้านที่ ต.ปงแสนทอง หลังจากนั้นจึงกลับบ้าน

จากนั้นวันที่ 28 ธันวาคม ทราบว่าเพื่อนติดเชื้อ ได้รับการติดต่อจากโรงพยาบาลให้ไปตรวจหาเชื้อ ผลเป็นลบ หลังจากนั้นทั้งสองคนได้กักแยกตัวเองอยู่ที่บ้านของตัวเอง  จนถึงวันที่ 2 มกราคม 2564 ขับรถไปตรวจหาเชื้อครั้งที่สอง ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อ ผู้ป่วยรายที่ 2 ผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในบ้านเดียวกันอีก 2 ราย ส่วนผู้ป่วยรายที่ 3 มีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในบ้านเดียวกัน 4 ราย และบ้านพี่สาว 3 ราย



หลังทราบผลตรวจ ทีมสอบสวนโรคได้ทำการสำรวจค้นหา และติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วย จำแนกกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงและกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ โดยผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อทั้งหมด 9 ราย  ทุกรายจะได้ตรวจหาเชื้อโควิด 19   โดยจะได้รับการตรวจยืนยันอย่างต่อเนื่องตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งนี้ ให้แยกกักตัวที่บ้านอย่างเคร่งครัด เพื่อสังเกตอาการเป็นเวลา  14 วัน (Home Quarantine)

สำหรบผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายที่ 1 อีก 18 ราย ได้กักแยกตัวเองที่บ้านตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2563  ได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด 19 ซ้ำในวันที่ 2 มกราคม 2564 ผลเป็นลบ ให้ทำการกักแยกตัวเองที่บ้านต่อจนครบ 14 วัน โดยระหว่างนี้จะมีการตรวจหาเชื้อซ้ำต่อเนื่อง  สำหรับผู้สัมผัสซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ  ให้เฝ้าสังเกตอาการตัวเองเป็นเวลา  14 วัน (Self Monitoring)

นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า มีการสุ่มเพื่อนำมาตรวจหาเชื้อเชื้อโควิด 19 เพิ่มอีกจำนวน 200 คน หลังจากนั้นจะตรวจอีกต่อเนื่องตามมาตรฐานของกระทรวงสาธารณสุข  นอกจากนี้ได้แจ้งให้ ทีมสอบสวนโรคที่จังหวัดเชียงใหม่รับทราบเพื่อดำเนินการควบคุมโรคในส่วนของจังหวัดเชียงใหม่ต่อไป  พร้อมกันนี้ ได้ยกระดับดูแลบางพื้นที่เป็นพิเศษ มีการประกาศพื้นที่สีส้มเพิ่ม 3 ตำบลในเขต อ.เมือง คือ ต.ปงแสนทอง ต.สวนดอก และ ต.ต้นธงชัย  และยังคงมาตรการป้องกันจังหวัดเดิม ยังคงปิดสถานที่เสี่ยง 5 แห่งเหมือนเดิม  ในส่วนของสนามชนโค ชนไก่ จะมีการขยายเวลาไปจนถึงสถานการณ์ดีขึ้น ส่วนสถานบันเทิงคาราโอเกะ สถานที่ออกกำลังกาย ฟิตเนสบิลเลียด สนุกเกอร์หรือสถานที่ซึ่งมีลักษณะเดียวกัน ร้านเกมส์และร้านอินเตอร์เน็ต  และโรงเรียนสอนศิลปะการต่อสู้  เพิ่มเติมกีฬาที่มีผู้เล่นจำนวนมาก จะมีการประกาศขยายเวลาปิดออกไปอีก 2 สัปดาห์  สำหรับกิจกรรมต่างๆสามารถดำเนินการได้ตามมาตรฐานที่สาธารณสุขกำหนด แต่จังหวัดได้มีประกาศเบื้องต้นว่าไม่อยากให้ชุมชุมกันเกิน 200 คน หากมีการจัดกิจกรรมให้แจ้งมายังจังหวัด ถ้าไม่แจ้งถือว่ามีความผิดจะต้องถูกดำเนินการตามระเบียบต่อไป  

 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์