วันเวลาผ่านไปไวเหมือนติดจรวด
เผลอแป๊บเรากำลังจะผ่านเดือนที่สองของปี 2564 เข้าสู่เดือนที่สามในอีกไม่กี่วัน ได้ยินแว่วๆ มาว่าราวเดือนมีนาคมนี้
รัฐบาลจะเริ่มเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไทย
หากเป็นไปตามที่ว่าจริงๆ ประชาชนคงได้ยิ้มกว้างมากขึ้นอีกหน่อย
เมื่อพูดถึงเรื่องเที่ยว สัปดาห์นี้ขอพาพี่น้องชาวลำปางเปลี่ยนบรรยากาศไปเที่ยวชมความงดงามของธรรมชาติทางฝั่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ ตามคำเชื้อเชิญของ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (อพท.) ภายใต้แคมเปญ “ไม่ว่าใครก็เที่ยวได้”
...ความหมายตรงตามที่บอกว่า “ไม่ว่าใครก็เที่ยวได้” แม้จะเป็นปากปล่องภูเขาไฟที่สูงจากระดับน้ำทะเล 230เมตร เพราะที่แห่งนี้คือ “เขากระโดง” แหล่งท่องเที่ยวอารยสถาปัตย์ของจังหวัดบุรีรัมย์ เมืองแห่งภูเขาไฟ
เพราะเป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ดับแล้วถึง 6 ลูก
โดยเขากระโดงเป็นภูเขาไฟ 1 ใน 6 แห่งของจังหวัดนี้
ความพิเศษของเส้นทางท่องเที่ยวเขากระโดง
คือ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับการพัฒนาและปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบของ
“วนอุทยานภูเขาไฟเขากระโดง” ให้มีความสวยงาม มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่สามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ทุกเพศ
ทุกวัย และทุกสภาพร่างกาย ให้สามารถเดินทางเข้าถึงและชื่นชมความงามตามธรรมชาติได้ถึงปากปล่องภูเขาไฟ
และจุดชมวิว ซึ่งเป็นที่ประดิษฐสถานของพระสุภัทรบพิตรจำลององค์ใหญ่ ที่ตั้งตระหง่านอยู่ ณ จุดชมวิว
ให้ผู้คนได้ชมทั้งทิวทัศน์ความงามของเมืองบุรีรัมย์ในมุมสูง และยังได้กราบสักการะพระภัทรบพิตร เพื่อเป็นสิริมงคลในการดำเนินชีวิตต่อไป
“ป่าเขากระโดง”
มีเนื้อที่กว่า 8,000 ไร่ ชาวบ้านเรียกว่า “พนมกระดอง” เป็นภาษาเขมร แปลว่า “ภูเขากระดอง (เต่า)” เพราะภูเขาแห่งนี้มีลักษณะคล้ายกระดองเต่า ต่อมาจึงเพี้ยนเป็น “กระโดง” ในอดีตเป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์ที่ชาวบ้านนำสัตว์มาเลี้ยง
ต่อมาปีพ.ศ. 2521 จังหวัดบุรีรัมย์
จึงเสนอป่าเขากระโดง ในท้องที่ตำบลเสม็ดและตำบลสวายจีก เนื้อที่ 1,450 ไร่ อยู่ห่างจากตัวเมืองราว 6 กิโลเมตร
โดยป่าเขากระโดงได้ตั้งเป็นวนอุทยาน เพื่อเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจสำหรับประชาชน
ซึ่งกรมป่าไม้ได้ออกหนังสือประกาศจัดตั้งลงวันที่ 22มีนาคม 2521 หลังจากนั้นจึงกำหนดให้เขากระโดงเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า และในปี 2552 มีการขอเปลี่ยนชื่อเป็น “วนอุทยานภูเขาไฟกระโดง”
เพื่อให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง ปัจจุบันได้ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่าภูเขาไฟกระโดง
สภาพของภูเขาแห่งนี้
ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงเนินเขา เป็นป่าเต็ง-รัง มีเนินเขาขนาดเล็ก 2 ลูกติดกันสูงจากพื้นที่โดยรอบประมาณ 85 เมตร ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เนินทางทิศใต้เรียกว่า “เขาใหญ่”
ส่วนเนินทางทิศเหนือเรียกว่า “เขากระโดง”
หรือ “เขาน้อย” ความสำคัญของผืนป่าแห่งนี้เสมือนเป็นธนาคารอาหารป่า
เพราะอุดมไปด้วยพืชอาหารและสมุนไพรนานาประเภทกว่า 100 ชนิด มีเห็ดกินได้กว่า 20 ชนิด นกน้ำและนกป่ากว่า 100 ชนิด
สัตว์ที่พบบ่อยคืองูหลาม กระต่ายป่า ไก่ป่า กระรอกบินจิ๋วท้องขาว กระรอกหลากสี
นกขุนแผนสีน้ำเงินนกบั้งรอกใหญ่ และนกกระรางหัวหงอก เป็นต้น
เขากระโดง
เป็น 1 ใน 6 ภูเขาไฟที่ตั้งในจังหวัดบุรีรัมย์
เป็นภูเขาไฟที่ดับมอดแล้วมาเป็นเวลานับแสนปี
คงเหลือไว้ซึ่งความอุดมสมบูรณ์และความสวยงามของธรรมชาติและป่าไม้ มีพันธ์ไม้หายากอย่างต้น
โยนีปีศาจ หรือที่คนพื้นเมืองเรียนกันว่าต้นหีผี และอีกหลายๆชื่อ เช่น
ต้นมะกอกเผือก ต้นมะกอกโคก โดยภาษาเขมรจะเรียกต้นนี้ว่า
ต้นกะนุยขมอย เป็นที่ตั้งของปราสาทหินเขากระโดง
ซึ่งสร้างขึ้นก่อนสมัยสุโขทัย เดิมเป็นปรางค์หินทรายก่อบนฐานศิลาแลงองค์เดียวโดดๆ
ฐานสี่เหลี่ยมขนาด 4x4 เมตร มีช่องทางเข้า 4 ด้าน ต่อมาหินดังกล่าวได้พังลง จึงได้มีผู้นำหินมาเรียงขึ้นใหม่แต่ไม่ตรงตามรูปเดิม
ต่อมาตระกูลสิงห์เสนีย์ ได้สร้างพระพุทธบาทจำลองมาประดิษฐานไว้ในปราสาท
และสร้างมณฑปครอบทับไว้บนปราสาท พร้อมประกาศในราชกิจจานุเบกษาขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ
ส่วนที่จุดชมวิวยังเป็นที่ประดิษฐานของพระสุภัทรบพิตร ขนาดหน้าตักกว้าง 12 เมตร ฐานกว้าง 14 เมตร ภายในเศียรบรรจุพระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุ
ประทับอยู่ขอบปากปล่องภูเขาไฟ รูปจันทร์เสี้ยว หันหน้าไปทางทิศเหนือเข้าเมืองบุรีรัมย์
นอกจากเขากระโดงเป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติและพรรณไม้แล้ว
จุดไฮไลท์ของเขากระโดง คือปากปล่องภูเขาไฟที่ดับแล้ว
ที่นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปเยี่ยมชมได้ โดยเทศบาลเมืองบุรีรัมย์
และจังหวัดบุรีรัมย์ได้สร้างสะพานแขวน
ให้นักท่องเที่ยวสามารถเดินชมปากปล่องภูเขาไฟได้อย่างใกล้ชิด
เที่ยวป่าเที่ยวเขา
หลายคนคงแอบท้อใจต่อเรื่องความสะดวกในการเข้าชมแต่ละจุดท่องเที่ยว สำหรับเรื่องนี้ นอกจากเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ และจังหวัดบุรีรัมย์จะทุ่มงบประมาณในการพัฒนา ปรับปรุงภูมิทัศน์โดยรอบให้สวยงามเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
ยังได้เพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวในทุกสภาพร่างกายได้มีโอกาสเข้าชมความงามและศึกษาธรรมชาติด้วยการจัดทำทางเดินที่เหมาะกับทุกเพศ
วัย และทุกสภาพร่างกาย โดยผู้ที่ใช้รถวีลแชร์ก็สามารถเข้าถึงแหล่งท่องเที่ยวในแต่ละจุดได้อย่าสะดวกสบาย นอกจากนั้น ในการเดินทางขึ้นเขา
รถยนต์ก็สามารถขับไปส่งได้ถึงที่
ล่าสุด
อพท. ยังหารือร่วมกับจังหวัดบุรีรัมย์
องค์กรภาคีเครือข่ายในจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์ ในการหาแนวทางการดำเนินกิจกรรมเผยแพร่องค์ความรู้และพัฒนาการท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล
(Tourism for All) ในเขตพัฒนาการท่องเที่ยวอารยธรรมอีสานใต้ โดย อพท.
จะกำหนดแผนการพัฒนาให้พื้นที่นี้เป็นพื้นที่เป้าหมายต้นแบบแหล่งท่องเที่ยวเพื่อคนทั้งมวล
โดยในระยะแรกจะเน้นพัฒนาความร่วมมือระหว่างภาคีที่เกี่ยวข้อง
ผ่านกิจกรรมการถ่ายทอดองค์ความรู้ และจะลงนามความร่วมมือระหว่าง อพท.
ชมรมทูตอารยสถาปัตย์ และหน่วยงานในจังหวัดบุรีรัมย์และสุรินทร์
“เขากระโดง” จัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติที่เหมาะกับทุกเพศวัย
และทุกสภาพร่างกายอย่างแท้จริง และยังสามารถรองรับนักท่องเที่ยวได้ตลอดปี
เป็นอีกหนึ่งแหล่งท่องเที่ยวที่ต้องการนำเสนอให้นักท่องเที่ยวได้แวะเวียนเข้าไปสัมผัสและชื่นชมความงามของธรรมชาติหากได้มีโอกาสไปเที่ยวยัง จังหวัดบุรีรัมย์
นอกจากการเที่ยวชมความงามของปราสาทหินพนมรุ้ง และปราสาทเมืองต่ำ
หรือชมความยิ่งใหญ่ของสนาม “ช้างอารีน่า” ซึ่งเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่แม้ไม่ใช่คอบอล
ก็ต้องแวะเข้าไปสัมผัสบรรยากาศ นอกจากนั้นจังหวัดบุรีรัมย์ยังอีกอีกหลายแหล่งท่องเที่ยวและหลากหลายกิจกรรมท่องเที่ยวตามชุมชนต่างๆ
ที่บ่งบอกถึงอัตลักษณ์และวิถีชีวิต ภูมิปัญญาท้องถิ่น ตลอดจนสินค้าและบริการของชุมชนซึ่งนักท่องเที่ยวที่มาเยือนไม่ควรพลาด
กอบแก้ว
แผนสท้าน...เรื่อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น