การเลือกตั้งเทศบาลนครลำปาง
และสมาชิกสภาเทศบาลนครลำปาง ที่เพิ่งผ่านพ้นไปเมื่อวันที่ 28 มี.ค.64 ที่ผ่านมา แน่นอนว่า “นิมิตร
จิวะสันติการ” อดีตนายกเทศมนตรี 2 สมัย ได้กลับมานั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีอีกครั้ง พร้อมกับนำทีม
สท.เข้ามาได้ 16 คน แม้จะไม่ชนะครบทีม
แต่ก็ยังคงเป็นเสียงข้างมาในสภาฯ ส่วน
สท.ที่เหลือเป็นของกลุ่มภูมิลำปาง 6 คน และของกลุ่มลำปางก้าวหน้า
2 คน
ย้อนกลับไปเมื่อครั้งที่ นิมิตร ลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรี เมื่อปี
2547
ครั้งนั้นมีคู่ต่อสู้ 4 คน คือ นายนรินทร์
มโนกูลอนันต์ อดีตนายกเทศมนตรี 1 สมัย (ปี2543-2546) นายสุรพล
ตันสุวรรณ นายทวิช ศิริณัฏสมบูรณ์ ผลการเลือกตั้ง นิมิตร ได้รับชัยชนะไปด้วยคะแนน 13,603 คะแนน ส่วนนายนรินทร์ ได้ 8,598 คะแนน นายสุรพล 269 คะแนน
และนายทวิช 166 คะแนน รวมทั้งได้
สท.จากกลุ่มนครลำปางยกทีมเข้ามาทำหน้าที่ในสภาฯ
โดย นิมิตร ได้แต่งตั้งรองนายกเทศมนตรี 4 คน คือ นายเกรียงศักดิ์ วนชยางค์กูล
นายกิตติภูมิ นามวงค์ นายสุรพล
ตันสุวรรณ และนายสุวัฒน์
ตรีมานะพันธ์ และวาระระหว่างปี 2550-2551 นิมิตร ได้ปลด เกรียงศักดิ์ และ สุวัฒน์ ออกจากรองนายกเทศมนตรี และแต่งตั้ง นายมนัส
วงษ์ชาญศรี และนายประเสริฐ บุพพันหสมัย เข้ามารับตำแหน่งแทน
ก่อนที่นิมิตรจะครบวาระในปี
2551 ได้มีการจัดการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล ซึ่งนิมิตร ได้ส่ง สท.ลงครบทีม
และมีคู่แข่งจาก 2
กลุ่ม คือ กลุ่มเวียงละกอน ของนายนรินทร์ มโนกูลอนันต์ และกลุ่มพลังใหม่ ของนายเกรียงศักดิ์
วนชยางค์กูล อดีตรองนายกเทศมนตรี ผลการเลือกตั้ง
สท.ของกลุ่มนครลำปางได้เข้าไปในสภา 20 คน ส่วนอีก 4 คนเป็นของกลุ่มเวียงละกอน
ทางหัวหน้ากลุ่มทั้งสอง ยังเปิดตัวว่าจะลงสู้ศึกนายกเทศมนตรีอย่างแน่นอน
หลังจากนายกเทศมนตรีครบวาระลง
ในปี 2552 ได้มีการจัดการเลือกตั้งขึ้นอีกครั้ง นิมิตร ได้ลงสู้ศึกเป็นสมัยที่ 2 โดยคู่แข่งไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นอดีตรองนายกเทศมนตรี “เกรียงศักดิ์
วนชยางค์กูล” หรือโกเหลี่ยง หัวหน้ากลุ่มพลังใหม่
ส่วนนายนรินทร์ มโนกุลอนันต์
หรือเฮียริ้ง
หัวหน้ากลุ่มเวียงละกอน ได้ถอนตัวไม่ลงสมัคร จึงมีการแข่งขันกันเพียง 2 คน ผลการเลือกตั้งออกมา นิมิตรชนะขาดลอย
ไปด้วยคะแนน 15,665 คะแนน ส่วน เกรียงศักดิ์ ได้คะแนน 8,942 คะแนน
ในสมัยนี้ นิมิตร
แต่งตั้งรองนายกเทศมนตรี 4 คนเข้ามาช่วยทำงาน คือ
นายสุรพล ตันสุวรรณ นายกิตติภูมิ นามวงค์ นายประเสริฐ บุพพันหสมัย และนายนรเศรษฐ
จิวะสันติการ และในปี 2555 นิมิตรได้มีคำสั่งปลดฟ้าผ่า
กิตติภูมิ ออกจากรองนายกเทศมนตรี
และแต่งตั้ง เกษม แช่มช้อย เข้ามารับตำแหน่งแทน
จนกระทั่ง ปี 2556 มีการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเป็นสมัยที่ 3 นิมิตร ไม่ย่อท้อที่จะลงสู้ศึก
โดยมี กิตติภูมิ ลงแย่งชิงเก้าอี้ การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นที่พลิกผัน เมื่อ
กิตติภูมิ ชนะการเลือกตั้งไปเพียง 968 คะแนน โดย กิตติภูมิได้ 10,545 คะแนน และ นิมิตรได้ 9,577
คะแนน แต่
สท.กลุ่มนครลำปางยังคงเหนียวแน่น ได้ที่นั่งเข้ามาในสภา 20 ที่นั่ง และภูมิลำปาง 4
ที่นั่งเท่านั้น
"ชัยชนะผู้แพ้" บทวิเคราะห์เลือกตั้งนายกเล็ก ปี 2556 |
โดยกิตติภูมิ ได้แต่งตั้งรองนายกเทศมนตรี 4 คน คือนายชัยศรี สัชฌะไชย
นางนพวรรณ ธนะสุวัตถิ์ นายสุวรรณ
นครังกูล และนายสุรทัศน์ พงษ์นิกร กิตติภูมิเข้าทำงานได้ไม่นานก็ต้องเจอปัญหาอุปสรรค
เมื่อ กกต.กลางวินิจฉัยให้ใบแดง ในการหาเสียงที่มีนโยบายเกินจริง ซึ่ง
กกต.ชุดแรกได้ยกคำร้องไปแล้วและหมดวาระลง
แต่
กกต.ชุดใหม่ที่เข้าทำหน้าที่ได้หยิบยกขึ้นมาพิจารณาอีกครั้งและตัดสินให้ใบแดง
จนนำไปสู่การฟ้องศาลอุทธรณ์ภาค 5 เชียงใหม่ กิตติภูมิได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่เดือน
เม.ย.57 มีการต่อสู้คดีกัน 4 เดือน
จนเดือน ก.ค. 57 ศาลมีคำสั่งยกฟ้อง กิตติภูมิได้กลับมานั่งเก้าอี้นายกเทศมนตรีอีกครั้ง ขณะเดียวกัน นายชัยศรี
ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นรองนายกฯ จึงได้มีการแต่งตั้งนายสมเกียรติ อัญชนา
ขึ้นมารับตำแหน่งแทน
บรรยากาศลุ้นผลการเลือกตั้ง ปี 2556 |
กิตติภูมิ
ได้ทำหน้าที่จนครบวาระ และได้รักษาการในตำแหน่งช่วงที่มีคำสั่ง คสช. จนถึงปี
2563
และ กกต.ได้ประกาศให้มีการเลือกตั้ง 28 มี.ค.64 ครั้งนี้ นิมิตร
ก็ได้กลับมาทวงเก้าอี้คืนอีกครั้ง และยังมีผู้สมัครหน้าใหม่อีก 3 คน คือ ณรงค์ พินธิสืบ ปุณณสิน
มณีนันทน์ และอภิชัย สัชฌะไชย
ร่วมท้าชิงด้วย ผลการเลือกตั้งส่งให้
นิมิตร
ได้กลับเข้ามาครองเก้าอี้นายกเทศบาลนครลำปาง ตามที่คาดหวังไว้
หลังจากที่ต้องสละตำแหน่งไปนานถึง 8 ปี ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ยังนำทีม
สท.เข้าสภามาได้เกินครึ่ง
การต่อสู้ที่ไม่สิ้นสุดทำให้
นิมิตร กลับมาครองเก้าอี้นายกฯไก่ขาวได้อีกครั้ง ในขณะที่ นิมิตร มีทีม
สท.ที่เหนียวแน่น ไม่เคยทิ้งจากสภาเทศบาลนครลำปางไปแม้แต่สมัยเดียว
แม้จะถูกกลืนกินไปบ้าง แต่สุดท้ายกลุ่มนครลำปางก็ยังกลับมาผงาดเหมือนเดิม
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น