สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน
2.5 ไมครอน หรือ (PM 2.5)
ในพื้นที่จังหวัดลำปาง เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร
เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา
จนถึงปัจจุบัน ทั้งนี้ นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
ได้ออกประกาศงดเว้นการเผาป่า เผาวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เผาขยะ
และเผาวัชพืชข้างทาง เผาในพื้นที่โล่งแจ้งทุกกรณี ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม-30
เมษายน 2564 เด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนมีความผิดตามกฎหมาย ประกาศดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามมาตรา 15 มาตรา 21 และมาตรา 22 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ.2550
ซึ่งประกาศดังกล่าวกำหนดใช้พื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ ของจังหวัดลำปาง
ขณะเดียวกัน
ประกาศดังกล่าวยังระบุเพิ่มเติมด้วยว่า ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์-เมษายนของทุกปี
มักเกิดไฟป่าขึ้นเป็นประจำ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตพื้นที่ป่าอนุรักษ์และเขตป่าสงวนแห่งชาติ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพยากรป่าไม้และสัตว์ป่า
เป็นสาเหตุทำให้เกิดปัญหาหมอกควันไฟป่าปกคลุมพื้นที่ ทั้ง PM
2.5 ที่เกินค่ามาตรฐาน 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และ
ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 10 ไมครอน (PM10) ที่เกินค่ามาตรฐาน
120 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพของประชาชน
ทั้งยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม การคมนาคม
และการท่องเที่ยวทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ และสูญเสียงบประมาณ
ในการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ อุปกรณ์ และยานพาหนะ ในการดับไฟป่าเป็นจำนวนมาก
สาเหตุของการเกิดไฟป่าประการหนึ่งเกิดจากการเผากำจัดวัชพืชทางการเกษตร
เพื่อเตรียมพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรที่อยู่ใกล้พื้นที่ป่า โดยไม่มีการควบคุม
ทำให้เกิดไฟไหม้ลุกลามเข้าไปในพื้นที่ป่ากลายเป็นไฟป่า
ในส่วนของ
การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แม่เมาะ นายสุชาติ ตุ่นแก้ว
ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการผลิตเหมืองแม่เมาะ-1. (ช.อผม-1.) ในฐานะ
ประธานคณะกรรมการศูนย์ป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน กฟผ.แม่เมาะ เปิดเผยว่า
เหมืองแม่เมาะ ยังคงเดินหน้าปฏิบัติการป้องกันและระงับไฟป่าพื้นที่ในความรับผิดชอบ
ซึ่งครอบคลุมบริเวณที่ทิ้งดินทั้งหมด และภายในพื้นที่ที่ได้รับอนุญาตจากการขอประทานบัตร
อย่างต่อเนื่อง
รวมถึงประสานความร่วมมือให้การสนับสนุนตามการร้องขอกับหน่วยงานต่างๆ ในพื้นที่
อ.แม่เมาะ และพื้นที่อื่นภายในจังหวัดลำปาง รัศมีไม่เกิน 50 กิโลเมตรจาก
กฟผ.แม่เมาะ โดยได้มีการบันทึกเก็บข้อมูล ประกอบด้วย ค่าพิกัดละติจูด (Latitude)
, ลองจิจูด (Longitude),
วัน-เวลา เกิดเหตุ , วัน-เวลาเข้าปฏิบัติงาน
, รูปภาพพื้นที่ที่เข้าระงับเหตุ , ประเมินความเสียหาย
เป็นต้น โดยจะสรุปเป็นประจำทุกสัปดาห์
เพื่อรวบรวมเป็นสถิติแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายใน กฟผ.แม่เมาะ
และหน่วยงานภายนอกต่อไป
นอกจากนี้ ได้มอบหมายให้
แผนกรังวัดเหมือง (หรม-ช.) บันทึกภาพถ่ายทางอากาศสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
ทั้งแผนที่ภาพถ่ายทางอากาศแบบแยกส่วนรูปแบบภาพถ่ายความละเอียดสูง ,
ภาพถ่ายแบบมีพิกัดตรึง (GeoTIFF) เพื่อประเมินและติดตามสถานการณ์ไฟป่าอย่างใกล้ชิด
และมีการติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มอีกจำนวน 3 จุด
บริเวณทางเข้าพื้นที่มูลดินทรายด้านตะวันตกที่เชื่อมต่อป่าธรรมชาติ เพื่อป้องปราม
และตรวจสอบบุคคลที่ผ่านเข้าออกพื้นที่
“ทีมเฝ้าระวังลาดตระเวนและระงับไฟป่าของ
กฟผ.แม่เมาะ จำนวน 5 ทีม ยังคงออกตรวจตราลาดตระเวนครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 100,000 ไร่ ระยะทางราวๆ 250 กิโลเมตร ขณะเดียวกัน
ยังได้ประสานความร่วมมือและสนับสนุนหน่วยงานต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นชุดปฏิบัติการพิเศษควบคุมไฟป่า (เหยี่ยวไฟ) กรมป่าไม้ ,
ชุดปฏิบัติการพิเศษดับไฟป่า
(เสือไฟ) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้นำชุมชน รวมถึงป่าชุมชนรอบพื้นที่
ในการเฝ้าระวังและควบคุมไฟป่า
อีกทั้งยังได้จัดเตรียมที่พักฐานปฏิบัติการป้องกันไฟป่า (Base
Camp)
จำนวน 3 จุด
บริเวณเรือนเพาะชำ , สะพานปลา
และห้วยคิงตอนบน สำหรับอำนวยความสะดวกให้ทีมต่างๆ
ไว้พักอาศัยระหว่างปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย” นายสุชาติ กล่าว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น