วันพุธที่ 3 มีนาคม พ.ศ. 2564

เจ้าหน้าที่เอาจริงตามล่าตัวคนที่ลักลอบเผาป่าหญ้าแห้ง ช่วงประกาศห้ามเผาลงพื้นที่ที่เกิดเหตุทุกจุดตรวจเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด

 

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์ 


เจ้าหน้าที่เอาจริงเร่งติดตามตัวผู้ก่อเหตุเผาช่วงประกาศห้ามเผา มาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด มีโทษหนัก ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 4-20 ปี หรือ ปรับตั้งแต่ 4 แสนถึง 2 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท จังหวัดลำปาง พร้อมเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท ได้นำ พนักงานสอบสวนเวร สถานีตำรวจภูธรงาว จังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบ จุดที่เกิดไฟไหม้ป่า แล้วลุกลามทำพื้นที่ป่าเสียหายมากถึง 33 ไร่ เศษ สาเหตุมาจากการแผ้วถางป่ารุกป่า จุดไฟเผาป่าแล้วลุกลาม เหตุเกิดที่ บริเวณป่าห้วยเด่นแก ท้องที่บ้านใหม่ธานี หมู่ 6 ตำบลบ้านหวด อำเภองาว จังหวัดลำปาง เพื่อตรวจสอบพื้นที่ ตรวจเก็บวัตถุพยานหลักฐานต่างๆอย่างละเอียด เพื่อที่จะดำเนินการสืบสวน เพื่อหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด  โดยโทษในการเผาป่าค่อนข้างหนัก โดยหากใครทำให้เกิดไฟป่าหรือปล่อยให้ไฟลุกลามเข้าไปในพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ สี่ปี ถึงยี่สิบปี หรือ ปรับตั้งแต่สี่แสนถึงสองล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ



 เนื่องจากว่า ที่ผ่านมาทางเจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่รณรงค์ทำความเข้าใจ และร่วมกันปกป้องแก้ไขปัญหาไฟป่า มาอย่างต่อเนื่องแต่ก็มีคนที่ฝ่าผืนคำสั่งและกฎหมายเผาป่าจนเกิดการลุกลามขนาดใหญ่ เรื่องนี้เจ้าหน้าที่ อุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท รวมไปถึงผู้ใหญ่บ้านบ้านใหม่ธานี และฝ่ายปกครอง จึงยอมไม่ได้ เร่งรวบรวมพยานหลักฐานที่แน่นหนาล่าตัวคนเผาป่ามาดำเนินคดีให้ได้

นายพีระเมศร์ ตื้อตันสกุล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท กล่าวว่าทราบตัวคนที่ ก่อเหตุแล้วเบื้องต้นมีผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง 2 คน ซึ่งทั้งสองยังให้การซัดทอดกันไปมา แต่เนื่องจากไม่มีพยานบุคคลและไม่เห็นพฤติกรรมขณะเผาป่า จึงยังไม่สามารถที่จะควบคุมตัวมาดำเนินคดีได้ ดังนั้นจึงลงพื้นที่ที่เกิดเหตุเพื่อเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆส่งไปตรวจยืนยันทางทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้มั่นใจในหลักฐานที่แน่นหนามัดตัวผู้ก่อเหตุต่อไป



โดยจุดเกิดเหตุอยู่ในเขตเตรียมการประกาศอุทยานแห่งชาติถ้ำผาไท และอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่งาวฝั่งขวา เสียหายอีกว่า 33 ไร่เศษ เช่นเดียวกัน หลังจากที่มีประกาศจังหวัดลำปางห้ามเผา เมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2564 ถึง 30 เมษายน 2564 ปรากฏว่า ยังมีคนที่ลักลอบเผาป่าอยู่สร้างความเสียหายและผลกระทบอื่นๆตามมาโดยเหตุไฟไหม้ป่าเหตุนี้เกิดขึ้นที่ ป่าสงวนแห่งชาติป่าแม่เมาะ บ้านเมาะหลวงหมู่ 8 ตำบลแม่เมาะ อำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มีนาคม 2564 โดยไฟได้ลุกไหม้เชิงเขาและลุกลามจะเข้าบ้านเรือนชาวบ้านทำให้ ชาวบ้านที่อยู่ใกล้ที่เกิดเหตุ ต้องมาทำแนวกันไฟด้วยตัวเองเพื่อไม่ให้ไฟลุกลามเข้ามาพื้นที่บ้านเรือนของตนเอง

หลังเกิดเหตุ นายสมศักดิ์ สกุลวรรณรักษ์ ผู้อำนวยการสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 3 (ลำปาง) ได้สั่งการให้ หน่วยป้องกันและรักษาป่าที่ ลป.13(แม่เมาะ) ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่เมาะ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่เมาะ จังหวัดลำปาง เข้าตรวจสอบพื้นที่เกิดไฟไหม้ บริเวณป่าหลังบ้านเมาะหลวง แห่งนี้ทันที เบื้องต้นไม่พบผู้ก่อเหตุ พบเพียงร่องรอยความเสียหาย จึงแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ การกระทำผิดต่อ พ.ร.บ ป่าไม้ 2484  มาตรา 54,55 และ พ.ร.บ ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 และที่อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง



นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2564 นายธนารัฐ สายเทพ นายอำเภอเกาะคา พร้อมด้วย ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง นายวุฒิกร พิจอมบุตร ปลัดเทศบาลตำบลเกาะคา พร้อมส่วนที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ตรวจสอบภายหลังเกิดเหตุการณ์เพลิงไหม้บ่อขยะของ เทศบาลตำบลเกาะคา ตั้งอยู่ที่ บ้านศาลาไชย หมู่ 2 ตำบลศาลา อำเภอเกาะคา จังหวัดลำปาง โดยได้ควบคุมไฟได้สงบลงแล้ว โดยเยื้องต้นพบว่าไฟได้ลุกลามจากป่าด้านนอกบ่อขยะลามเข้ามาจึงทำให้เกิดไฟไหม้บ่อขยะ ทั้งนี้ นายอำเภอเกาะคา ได้มอบหมายให้เทศบาลตำบลเกาะคา ดำเนินการแจ้งความ ลงบันทึกประจำวัน ที่สถานีตำรวจภูธรเกาะคา เพื่อดำเนินการสืบสวน สอบสวน หาผู้กระทำผิดลักลอบจุดไฟเผาขยะต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าขณะนี้หากพื้นที่ไหนมีเหตุไฟไม้เกิดขึ้น จะมีเจ้าหน้าที่จากหลายฝ่ายลงพื้นที่ตรวจสอบทันที เพื่อเป็นอีกมาตรการแก้ไขป้องกันไฟป่าที่เกิดขึ้น

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์