รถบรรทุกตู้คอนแทนเนอร์ ที่บรรทุกส่งห้างดัง ประสบอุบัติเหตุพุ่งชนต้นไม้ขนาดใหญ่ร่องกลางถนนก่อนที่รถจะเสียหลักพาดขวางถนน สภาพหน้ารถพังยับเยิน คนขับติดคาซากรถอาหารสาหัสเป็นตายเท่ากันส่วนคนที่นั่งมาด้วยกระเด็นทะลุกระจกหน้ารถตกไปในร่องกลางถนนบาดเจ็บเช่นกัน สาเหตุเบื้องต้นคาดคนขับหลับใน
เมื่อเวลา 16.00 น.วันที่ 10 มี.ค.64 สภ.เกาะคารับแจ้งมีรถบรรทุกพลิกคว่ำ มีคนติดในรถอาการสาหัส บริเวณถนนพหลโยธิน ช่วงหลักกิโลเมตรที่ 667-668 ต.นาแส่ง อ.เกาะคา จ.ลำปาง จึงประสานสมาคมกู้ภัยลำปาง กู้ภัยเกาะคา กู้ภัยสว่างนครลำปาง ให้การช่วยเหลือเร่งด่วน จากนั้น ร.ต.อ.ไกรสิงห์ วังนัยกูล รอง สว.สอบสวน สภ.เกาะคาได้เข้าตรวจสอบ
ในที่เกิดเหตุ พบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ 22 ล้อ หมายเลข ทะเบียน 65-6412 กทม. พ่วงท้ายทะเบียน 51-1185 กมม. บรรทุกสินค้าเบ็ดเตล็ด มาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ เสียหลักพุ่งชนต้นจามจุรี ที่ร่องกลางถนนก่อนที่จะตะแคงซ้ายค้างคาร่องกลางถนนดังกล่าว ในสภาพหน้ารถพังยับเยิน สินค้าภายในรถอัดกระทุ้งออกมาจากตู้คอนเทนเนอร์จำนวนหนึ่งกระจายเต็มถนน
มีผู้บาดเจ็บ 2 คน คนแรกเป็นชายซึ่งเป็นคนขับบาดเจ็บสาหัสติดภายในรถ กระดูกหักหลายแห่ง ศีรษะ ร่างกายมีแผล ฉกรรจ์ เลือดไหลนองไม่รู้สึกตัว เจ้าหน้าที่ใช้เครื่องตัดถ่างช่วยงัดนำตัวออกมา ทำCPR และส่งโรงพยาบาลเร่งด่วน ทราบชื่อคือ นายไปล์ นันเขียว อีกคนเป็นหญิงที่นั่งมาด้วยคาดว่าจะเป็นภรรยาชายคนขับ ชื่อนางสำเนา นันเขียว กระเด็นทะลุกระจกหน้ารถนอนร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดตรงร่องกลางถนน โดยมีแพทย์และทีมกู้ชีพโรงพยาบาลเกาะคา เจ้าหน้าที่กู้ภัย เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงลำปาง ตำรวจประจำตู้ยามหลังเทิน สภ.เกาะคา พลเมืองดี กว่า 30 นาย เร่งให้การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ
โดยขณะเกิดเหตุรถขาเข้าเมืองลำปาง วิ่งได้ช่องทางเดียวเพราะตัวตู้คอนแทนเนอร์ขวางถนนไป 1 ช่องทาง เจ้าหน้าที่เตือนให้ใช้ความระมัดระวังในการสัญจรผ่านเส้นทางดังกล่าว
จากการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่า รถคันที่เกิดเหตุ ได้บรรทุกสินค้ามาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ เพื่อที่จะส่งห้างสรรพสินค้าในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุขณะวิ่งลงเนินรถได้พุ่งออกไปทางขวามือแล้วพุ่งชนต้นไม้ขนาดใหญ่อย่างรุนแรงจนรถไถลตะแคงแน่นิ่ง จากนั้นพลเมืองจึงรุดเข้าไปดูและรีบแจ้งเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยเหลือ เบื้องต้นคาดว่าคนขับน่าจะหลับในเพราะถนนสายนี้มักมีอุบัติเหตุเป็นประจำเพราะเป็นเส้นทางที่ตรงยาวและขึ้นลงเนินเขาจึงแจ้งเตือนให้สัญจรเส้นทางดังกล่าวอย่างระมัดระวัง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น