วันอังคารที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2564

ผู้สมัครนายกฯ เบอร์ 5 กลุ่มลำปางก้าวหน้า “ปุณณสิน มณีนันทน์” ชูผันงบสายไฟลงดิน แก้ปัญหาแม่น้ำวังก่อน ตามด้วยปัญหาการจราจร เพื่อขยายพื้นที่เศรษฐกิจ

จำนวนผู้เข้าชม เว็บเคาน์เตอร์


ลานนาโพสต์ติดตามการเลือกตั้งนายกฯ และสมาชิกสภาเทศบาลนครลำปาง พร้อมเปิดนโยบายแนวคิดของผู้สมัครนายกฯ แต่ละกลุ่มให้ประชาชนได้ตัดสินใจเลือกผู้ที่จะเข้ามาทำหน้าที่บริหารเทศบาลนครลำปาง ด้วยประเด็นคำถามกับการพัฒนาเทศบาลนครลำปาง

มาถึงกลุ่มลำปางก้าวหน้า นำทีมโดย “ปุณณสิน มณีนันทน์” หรือพี่คม ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครลำปาง เบอร์ 5 ได้มีนโยบายที่หลากหลาย 

ซึ่งนโยบายเร่งด่วนทำทันที ประกอบด้วย

-แก้ปัญหาแม่น้ำวังเน่าเสีย โดยผันงบอุดหนุนโครงการสายไฟลงดิน 100 ล้าน มาทำได้ทันที

-การติดตั้ง CCTV และไฟ LED สว่างปลอดภัยทั่วเมือง

-บำรุงรักษาสวนสาธารณะเขลางค์และเพิ่มใหม่ 2 แห่ง นาก่วมเหนือและนาก่วมใต้

-ปรับปรุงสนามกีฬาเทศบาล 7 ให้มีสนามฟุตบอล ลู่วิ่งยาง และอัฒจันทร์

-ถนนจามเทวี ปรับให้เป็น 4 ช่องจราจรพร้อมเกาะกลาง

-สังคมผู้สูงอายุเปี่ยมสุข พร้อมโรงพยาบาลผู้สูงอายุ

-เปลี่ยนจอ LED ประชาสัมพันธ์ริมถนนเป็นป้ายบอกทางอัจฉริยะ เพื่อแจ้งสภาพการจราจรแบบเรียลไทม์

-ปรับปรุงสนามหน้าโรงเรียนปงสนุกให้เป็นสวนสาธารณะและสนามกีฬา

-แก้ปัญหาจราจรติดขัด โดยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้มีสะพานแห่งใหม่เชื่อม 2 ฝั่งแม่น้ำ ต.สบตุ๋ย และต.เวียงเหนือ (บ้านดงไชย-บ้านดงม่อนกระทิง)


          ในเรื่องนี้ นายปุณณสิน มณีนันทน์ เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ลำปางเสียโอกาสในด้านความต้องการของประชาชนในแต่ละเขต ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองอย่างตรงไปตรงมา  จากที่ได้เข้าไปเดินในหลายชุมชน จึงได้รับรู้ปัญหาที่แท้จริงของชาวบ้าน และได้นำเรื่องราวเหล่านั้นนำมากลั่นกรองตั้งเป็นนโยบายของกลุ่มลำปางก้าวหน้า  เพื่อที่จะได้เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านให้ได้รับการดูแลตรงจุดมากที่สุด   

นโยบายหลักที่จะทำสิ่งแรกคืออะไร?  นายปุณณสิน กล่าวว่า  เรื่อง “แม่น้ำวัง” เป็นเรื่องที่คนให้ความสนใจอย่างมาก เพราะเกี่ยวข้องกับชุมชน 21 ชุมชน ตลอดเส้นทางผ่านเทศบาลในระยะ 6.3 กิโลเมตร  ซึ่งแม่น้ำวังไม่มีงบประมาณลงมากว่า 15 ปีแล้ว ทำให้เกิดสภาพความเสื่อมโทรม น้ำน้อย น้ำเน่า  ชาวบ้านคาดหวังว่าอยากให้เข้าไปพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่พักผ่อนหย่อนใจต่างๆ  ซึ่งจากการพูดคุยกับชาวบ้าน อยากให้มีกิจกรรมทางน้ำเช่น การแข่งเรือยาวที่หายไป เมื่อปี 2535

นายปุณณสิน กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขว่า  เมื่อปัญหาเริ่มมาจากน้ำน้อย ก็ต้องเพิ่มปริมาณน้ำโดยการทำฝายกั้นน้ำ ให้ระดับมีความสูงขึ้น  ปัญหาน้ำเสีย ก็ต้องบล็อกน้ำเสียไม่ให้ลงแม่น้ำวัง  ฟื้นฟูสภาพแม่น้ำให้สวยงาม ซึ่งค่าออกซิเจนที่ต่ำที่สุดจะอยู่ช่วงวัดเกาะจนถึงสะพานออเรนท์ ต้องแก้ไขตรงจุดนี้ให้ได้  เมื่อแม่น้ำวังกลับมาดีแล้ว คนที่อยู่อาศัยเดิมก็อยากอยู่  คนเที่ยวก็อยากจะเข้ามา และเริ่มมีการลงทุน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ยั่งยืน  ขณะเดียวกันริมฝั่งแม่น้ำวังจะมีบางพื้นที่ถูกปิดตาย มีแนวคิดจะทำถนนริมน้ำทั้งสองฝั่งเพื่อเชื่อมระบบ เป็นการลดปัญหาจราจร รวมทั้งเกิดพื้นที่เศรษฐกิจใหม่  ที่ดินต่างๆก็จะเพิ่มราคาขึ้น  ตามด้วยการเชื่อมระบบเศรษฐกิจโดยการทำสะพานเชื่อมสองฝั่งแม่น้ำวัง บริเวณบ้านดงม่อนกระทิงและบ้านดงไชย  ภาคธุรกิจจะเข้าหากันได้ง่าย เร่งความเจริญของเมืองทั้งสองฝั่ง  ส่วนฝายกั้นน้ำเพื่อให้น้ำสูงขึ้น โดยจะสร้างบริเวณชุมชนนาก่วมใต้  ฝายก็จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่งของชุมชน



ส่วนงบประมาณจะนำมาใช้แก้ปัญหามาจากไหนนั้น ทางกลุ่มลำปางก้าวหน้าได้มีการวางแผนไว้ทั้งหมดแล้ว โดยการผันงบอุดหนุนจากโครงการปรับปรุงระบบจำหน่ายไฟฟ้าเป็นเคเบิลใต้ดิน จากงบประมาณปี 2563 จำนวน 53   ล้านบาทเศษ และงบประมาณปี 2564 อีก 59 ล้านบาทเศษ นำมาแก้ปัญหานี้  เราไม่ได้มองว่าโครงการเคเบิลใต้ดินไม่ดี เพียงแต่จะต้องลำดับความสำคัญ นำงบมาใช้ในส่วนที่จำเป็นต้องแก้ไขก่อน  

ผู้สมัครนายกฯ เบอร์ 5  กล่าวต่อไปว่า จากการแก้ปัญหาแม่น้ำวังแล้ว การพัฒนาเศรษฐกิจก็จะตามมา  เมื่อแม่น้ำวังดี ระบบเศรษฐกิจจะกลับคืนมา รวมทั้งพัฒนาสนามกีฬาเทศบาล 7 เป็นสปอร์ตคอมเพล็กซ์  เดิมออกแบบไว้สำหรับเป็นศูนย์กีฬาขนาดใหญ่ เราจะทำให้สนามเป็นมาตรฐานสากลมากขึ้น สามารถแข่งขันฟุตบอลดิวิชั่น 1 ได้ หากมีการแข่งขันลำปางเอฟซีก็สามารถมาใช้สนามได้เลย และจะดึงคนดูเข้ามาได้ไม่ต่ำกว่า 2,000 คน มีการขยายธุรกิจในโซนนั้นเจริญมากขึ้น  ซึ่งโซนนั้นเคยเป็นเขตเศรษฐกิจใหม่ของลำปาง แต่ได้เงียบหายไปเพราะว่านักศึกษาลดลงไปมาก  ถ้าเสริมตรงนี้ได้จะต่อยอดระบบเศรษฐกิจจุดนี้ได้

ด้านการแก้ปัญหาผู้สูงอายุ มีแผนที่จะจัดตั้งโรงพยาบาลผู้สูงอายุไว้บริเวณเรือนจำกลาง ซึ่งมีแผนจะย้ายออกจากพื้นที่ รวมถึงการมีนาฬิกาสมาร์ทวอช สำหรับผู้สูงอายุ เพื่อลิ้งเข้าระบบแจ้งเตือนได้ทุกเมื่อ  หากเกิดปัญหากับผู้สูงอายุก็จะทราบได้ทันที นอกจากนั้นจะมีการสำรวจเก็บข้อมูล เก็บหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อให้ทราบว่าแต่ละชุมชนมีผู้ป่วยโรคอะไร อยู่บ้านไหน หากต้องการความช่วยเหลือสามารถจัดเตรียมยาและการรักษาได้ทันที



สถานการณ์โควิด มีนโยบายช่วยเหลืออย่างไร?  นายปุณณสิน กล่าวว่า ปัญหาโควิดทำให้เศรษฐกิจในทุกพื้นที่ชะงักตัวลง หากจะหวังพึ่งการท่องเที่ยวอย่างเดียวก็คงไม่ได้ จะต้องมีโครงการช่วยเหลือชุมชน ในการจัดกิจกรรมเปิดพื้นที่การค้าขาย จัดงานให้ชุมชน ผู้ประกอบการ หาบเร่แผงลอย ฟู้ดทรัคส์ ให้เข้ามาค้าขายได้ โดยมองสถานที่ไว้บริเวณตลาดเทศบาล 4 ตรงข้ามบิ๊กซีลำปาง   ส่วนมาตรการป้องกัน ก็คงจะต้องปรับตัวตามสถานการณ์ของโลก เพราะเรื่องนี้เกิดขึ้นทั่วประเทศ

ให้บอกถึงจุดเด่นที่ดึงดูดใจชาวบ้าน?   กลุ่มลำปางก้าวหน้าเน้นความต้องการของชุมชน ที่ไหนต้องการอะไร เราพยายามรับปัญหาและนำมาต่อยอดแก้ไข และปรับออกมาเป็นนโยบาย เป็นแผนการแก้ไขให้แต่ละชุมชนที่มีความต้องการแตกต่างกันไป  ทำให้ตรงกับความต้องการของประชาชนอย่างแท้จริง



ส่วนเรื่องแม่น้ำวัง แน่นอนว่าผู้สมัครทั้ง 5 คน พูดถึงการแก้ปัญหาเหมือนกันหมด แต่กลุ่มเราได้เคยเห็นแผนมาแล้ว รู้ว่าดำเนินการอย่างไร สามารถนำมาปรับให้ตรงกับยุคสมัยปัจจุบันได้ เราไม่อาจทราบได้ว่าทำไมงบประมาณไม่ลงมาในส่วนนี้ ถ้าดูงบย้อนหลัง 15   ปี มีการจ่ายเงินให้กับเจ้าหน้าที่ดูแลโครงการบำบัดน้ำเสียของเทศบาล ปีละ 5 ล้านบาท จนถึงปัจจุบันปีละ 7 ล้านบาท แต่ไม่ได้ทำงานอะไร แสดงให้เห็นว่าขาดการบริหารงบประมาณที่ดี  จนถึงขณะนี้แผนการก่อสร้างระบบบำบัดน้ำเสียก็ยังเป็นแผนเดิมที่ใช้งบ 200 ล้านบาท  แต่เมื่อไม่นานมานี้ได้มีการนำแผนนี้มาเพื่อต้องการทำใหม่ แต่ไม่สามารถทำได้ เพราะเวลาผ่านไปปัญหาก็มากขึ้น ซึ่งตามจริงแล้วต้องปรับแผนตามให้เป็นปัจจุบัน นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ สามารถแก้ปัญหาแม่น้ำวังได้โดยไม่กระทบกับเศรษฐกิจ จากเดิมที่จะต้องเปิดถนนทุกเส้นเพื่อนำท่อรับน้ำเสียลง แต่ตอนนี้สามารถฝังท่อลงแม่น้ำวังได้เลย น้ำเสียปล่อยลงท่อได้เลย สูบกลับมาส่งไปบ่อบำบัดได้ ซึ่งจะประหยัดงบไปอีกเยอะ และใช้งบประมาณของเทศบาลได้ 

และเราจะสร้างความสัมพันธ์กับทางเขื่อนกิ่วลมให้มีการผันน้ำมาตามคลองชลประทานเหมือนอดีตที่ผ่านมา ทุก 15 วันจะมีน้ำใหม่มาเปลี่ยน ระหว่างรอจะมีระบบเติมอากาศเข้าไป  สิ่งเหล่านี้อยู่ที่ความสนใจแก้ปัญหา และประสบการณ์ที่เคยทำงานมาก ไม่ใช่การแก้ปัญหาไปวันๆเหมือนที่ผ่านมา



การเลือกตั้งครั้งนี้มีอะไรน่าห่วงไหม?  นายปุณณสิน กล่าวว่า  ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง  เชื่อว่าการเลือกตั้งสมัยนี้ผู้สมัครหลายคนระมัดระวังตัวดี แต่ละคนมีความรู้ความสามารถ การใช้สิทธิของประชาชนก็น่าจะเกิน 60 เปอร์เซ็นต์ น่าจะคึกคักกว่าที่ผ่านมา เพราะชาวบ้านมีความคาดหวังสูง จะมีการเปรียบเทียบนโยบายและตัวผู้สมัครแต่ละคน การที่มีผู้สมัครหลายคนแสดงให้เห็นว่าที่ผ่านมากการทำงานของผู้บริหารยังไม่ตรงใจชาวบ้าน คนที่เข้ามาแข่งขันก็มีโอกาสจะชนะ  แต่อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะรักชอบใครทุกคนล้วนแต่มีความต้องการพัฒนาเทศบาล ส่วนนโยบายจะจับต้องได้หรือไม่ต้องอยู่ที่ประชาชนพิจารณา

ภาพ:เพจลำปางก้าวหน้า 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์