วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2564

ทัศนศึกษาเสมือนจริง “ท่องป่าชมช้าง”

  

ไม่ยอมให้ไวรัสโควิด-19 มาปิดกั้นโอกาสและการเรียนรู้ของน้องๆ เยาวชน ล่าสดุ อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ แคมป์ช้าง แอนด์ รีสอร์ท จังหวัดเชียงราย ชวนโรงเรียนทั่วไทย ร่วมกิจกรรม “ทัศนศึกษาเสมือนจริง ท่องป่าชมช้าง” ซึ่งเป็นกิจกรรมทัศนศึกษาผ่านวิดีโอคอลล์ซึ่งผู้เชี่ยวชาญทางด้านช้าง จาก มูลนิธิโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์ ของทางรีสอร์ท จะพาเด็กๆ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมไปเดินเล่นชมโขลงช้างขณะใช้ชีวิตอยู่ในป่าอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความรู้เกี่ยวกับช้างเสมือนได้สัมผัสประสบการณ์ท่ามกลางธรรมชาติด้วยตัวเองในแบบเรียลไทม์ เป็นการสร้างความสนุกให้กับการเรียนรู้ โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่เด็กๆ ต้องเรียนออนไลน์จากที่บ้าน

 

           

กิจกรรม “ทัศนศึกษาเสมือนจริง ท่องป่าชมช้าง” เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากการไลฟ์สดพาชมชีวิตช้างโดย มูลนิธิโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์ (Golden Triangle Asian Elephant Foundation หรือ GTAEF) ซึ่งเป็นผู้ดูแลแคมป์ช้างอันมีชื่อเสียงในระดับโลกของ อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ ได้จัดไลฟ์สดพาผู้ชมจากทั่วโลกไปชมชีวิตของช้างเป็นประจำทุกวัน วันละสองครั้ง โดยตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผู้คนจากทั่วโลกเข้ามาร่วมชมความน่ารักของช้างขณะใช้ชีวิต เล่นน้ำ เล่นโคลน ริมแม่น้ำรวกบริเวณผืนป่าสามเหลี่ยมทองคำ รวมแล้วกว่า 5 ล้านวิว

           

เด็กๆ ที่เข้าร่วมทัศนศึกษาเสมือนจริงผ่านวีดีโอคอลล์ จะได้ทำความรู้จักกับช้างในโขลง พร้อมเพลิดเพลินไปกับการชมโขลงช้างใช้ชีวิตสนุกสนานตามธรรมชาติ โดยมีสัตวแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญคอยให้ความรู้เกี่ยวกับพฤติกรรมของช้างและตอบทุกข้อสงสัย เด็ก ๆ จะได้เห็นการปฏิสัมพันธ์ระหว่างช้างแต่ละเชือก พร้อมชมความสวยงามของเส้นทางธรรมชาติริมแม่น้ำไปพร้อมกับจังหวะการก้าวเดินอันเชื่องช้าแต่มั่นคงของช้าง โดยกิจกรรมการทัศนศึกษาเสมือนจริงนี้ สามารถปรับให้ตรงกับความสนใจและตารางเรียน

           

สพ.ญ.นิสา มุทุตานนท์ สัตวแพทย์ประจำมูลนิธิ มูลนิธิโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์ ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับกิจกรรม “ทัศนศึกษาเสมือนจริง ท่องป่าชมช้าง” นี้ว่า ตั้งแต่ที่มีการล็อคดาว์น ทางมูลนิธิฯ ได้จัดกิจกรรมนี้ให้กับโรงเรียนในประเทศไทย เมลเบิร์น ออสเตรเลีย และ โคโลรา สหรัฐอเมริกา โดยเด็กๆ ที่เข้าร่วมทัศนศึกษาผ่านทางวิดีโอคอลล์ต่างตื่นเต้นไปกับความน่ารักของโขลงช้างในผืนป่าธรรมชาติ หลายคนได้เตรียมกล้องส่องทางไกลกระดาษที่ทำขึ้นเอง กล้องถ่ายรูป มาใช้ชมและถ่ายภาพช้างระหว่างทัศนศึกษา

           

กิจกรรมเพื่อการเรียนรู้เสมือนจริงที่เต็มไปด้วยความสนุกนี้ นับเป็นกิจกรรมเสริมการเรียนการสอนตามปกติ ที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้พักชมธรรมชาติ ช่วยเปิดโลก และสร้างความกระตือรือร้น ซึ่งนอกจากความสนุกสนานแล้ว การเรียนรู้ทางไกลนี้อาจจะเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กๆ ที่เข้าร่วมกิจกรรมเติบโตเป็นสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับช้างคนใหม่ของป่าแห่งนี้ในอีก 10-15 ปีข้างหน้าก็เป็นได้สพ.ญ.นิสากล่าว

           

กลุ่มโรงแรมอนันตรา ก่อตั้ง มูลนิธิโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์ ขึ้นในปี 2446 ด้วยวัตถุประสงค์เพื่อให้ความช่วยเหลือ อุปถัมภ์ช้างและครอบครัวควาญช้างผู้เป็นเจ้าของช้าง รวมถึงดำเนินงานเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของช้างในประเทศไทย โดยทางมูลนิธิฯ ได้จัดที่พักอาศัยให้ช้างและครอบครัวควาญช้าง ณ แคมป์ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นที่ป่าอันกว้างขวางของโรงแรม อนันตรา สามเหลี่ยมทองคำ ทางมูลนิธิฯ ได้ให้การช่วยเหลือช้างมาแล้วกว่า 60 เชือก และมีช้างอยู่ในการอุปถัมภ์ ณ ปัจจุบัน จำนวน 20 เชือก

 

อนันตรา เป็นแบรนด์โรงแรมหรู ที่เชื่อมนักเดินทางรุ่นใหม่ เข้ากับสถานที่ ผู้คน และเรื่องราว ผ่านประสบการณ์ของแต่ละบุคคลด้วยการบริการจากใจ ณ หลากหลายจุดหมายสำคัญทั่วโลก โรงแรมและรีสอร์ทในเครืออนันตราทุกแห่งจึงเป็นประตูสู่การเดินทางเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในแบบของตนไม่ว่าจะเป็นในเมืองอันทันสมัย  ไปจนถึงกลางทะเลทราย หรือเกาะน้อยใหญ่ อนันตรา พร้อมพานักเดินทางไปสัมผัสกับมนต์เสน่ห์ของท้องถิ่นที่ยังคงซึ่งความหรูหราด้วยการบริการอันเป็นเลิศ โดยปัจจุบันโรงแรมและรีสอร์ทในเครืออนันตราได้เปิดให้บริการแล้วมากกว่า 40 แห่ง ทั้งในประเทศไทย มัลดีฟส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม จีน กัมพูชา ศรีลังกา โมซัมบิก แซมเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และกาตาร์ โดยมีโครงการจะขยายโรงแรมและรีสอร์ทเพิ่มทั้งในเอเชีย มหาสมุทรอินเดีย ตะวันออกกลาง และแอฟฟริกา

 

สำหรับโรงเรียนที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือติดต่อจัดกิจกรรมการทัศนศึกษาเสมือนจริงนี้ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายที่ ลัดดาวัลย์ ยลธรรธรรม ผู้จัดการแผนกแคมป์ช้าง มูลนิธิโกลเด้น ไทรแองเกิ้ล เอเชียน เอเลเฟนท์

 

อีเมล [email protected] หรือโทร 053-784-084

 

กอบแก้ว แผนสท้าน...เรื่อง

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์