สถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ของไทยยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะพื้นที่ จ.กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล มีผู้ป่วยเพิ่มรายวัน วันละกว่า 1,000-1,300 คน จะเห็นได้ว่าช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา เป็นช่วงวันหยุดที่ผู้คนเดินทางกลับบ้านกันจำนวนมาก จึงมีผู้ติดเชื้อกระจายไปอยู่เกือบทุกจังหวัดทั่วประเทศ โดยมีคลัสเตอร์ใหญ่มาจากสถานบันเทิง จ.กรุงเทพมหานคร แต่หลังช่วงหยุดยาวสงกรานต์ ก็ยังมีคนเดินทางกลับบ้านที่ต่างจังหวัดอยู่ไม่น้อย ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อในต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่อาจจะไม่มากเท่าช่วงหยุดยาว
โดยการติดเชื้อที่เกิดขึ้นในพื้นที่
จ.ลำปางที่ผ่านมานั้น เกิดจากการเดินทางมาจากต่างจังหวัดทั้งสิ้น
และเกิดจากคลัสเตอร์สถานบันเทิงทองหล่อเช่นกัน หลังจากนั้นได้มีการแพร่เชื้อต่อกันในกลุ่มชาวบ้านในพื้นที่
ต.ทุ่งผึ้ง อ.แจ้ห่ม เนื่องจากผู้ป่วยยืนยันที่เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ไปร่วมงานบวชในหมู่บ้าน
มีการดื่มกินร่วมกันทำให้เชื้อติดต่อไปมากถึง 30 คน แต่สุดท้ายก็ควบคุมได้ในวงจำกัด ซึ่ง อ.แจ้ห่ม มีผู้หายป่วยแล้ว 28 คน ขณะเดียวกันก็มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นทุกวันจากการเดินทางมาจากต่างจังหวัด
จากการตรวจสอบไทม์ไลน์ผู้ป่วยของ
จ.ลำปาง ถึง 237 คน (ข้อมูลวันที่ 8 พฤษภาคม 2564) พบว่ามีประมาณ 20 คน เป็นบุคคลที่ทราบว่าตนเองเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ
บางคนมีอาการไข้สูง ปวดศีรษะ และไอ บางคนได้เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิดครั้ง 1 แล้วแต่ยังไม่ทราบผล แต่ตั้งใจได้เดินทางกลับมา จ.ลำปาง มาตรวจหาเชื้อที่ จ.ลำปาง และเข้ารักษาตัว
กลายเป็นผู้ป่วยยืนยันของ จ.ลำปาง
ไทม์ไลน์ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 192 |
ยกตัวอย่าง
ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 192 และ 217 หญิง
อายุ 24 ปี พักอยู่คอนโดที่ จ.กรุงเทพ
ตั้งแต่วันที่ 16-25 เม.ย.64 จนกระทั่งวันที่ 26-27 เม.ย.64 มีอาการไข้
ปวดศีรษะรุนแรง เดินทางไปขอรับการตรวจโควิดที่โรงพยาบาลเทพปัญญา
แต่ไม่มีน้ำยาจึงไม่ได้ตรวจ จากนั้นช่วงค่ำจึงเดินทางกลับ จ.ลำปาง
เข้าพักที่โรงแรม และไปตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ.ลำปาง
ได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อวันที่ 28 เม.ย. 64
ไทม์ไลน์ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 202 |
ผู้ป่วยยืนยันรายที่
202 ชาย อายุ 24 ปี พักอยู่บ้านกับครอบครัวที่ จ.กรุงเทพฯ
เดินทางไปทำงานตามปกติ วันที่ 28 เม.ย.64 ขับรถยนต์ส่วนตัวกลับ จ.ลำปางคนเดียว เมื่อมาถึงเข้าตรวจหาเชื้อที่
รพ.ลำปาง และทราบผลติดเชื้อวันที่ 29 เม.ย. 64
ไทม์ไลน์ผู้ป่วยยืนยัน รายที่ 222 |
ผู้ป่วยยืนยัน
รายที่ 222
ชาย อายุ 23 ปี
ทำงานอยู่คลินิกเสริมความงามที่ กรุงเทพฯ จนทราบว่าเพื่อนร่วมงานที่อยู่อีกแผนก ป่วยติดเชื้อจำนวน
2 คน จึงเดินทางไปตรวจที่ รพ.จุฬารัตน์ 9 แอร์พอร์ต ผลแจ้งว่าไม่พบเชื้อ วันที่ 30 เม.ย.64
ขับรถพาครอบครัวกลับ จ.ลำปาง พาแม่ตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ.เขลางค์นคร-ราม
วันที่ 2 พ.ค. 64 และแม่ได้รับการแจ้งผลว่าติดเชื้อ
ตนเองจึงเดินทางไปตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ที่ รพ.เกาะคา และ
รพ.แจ้งผลว่าติดเชื้อวันที่ 3 พ.ค. 64
ไทม์ไลน์ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 176 |
ผู้ป่วยยืนยันรายที่
176 ชาย อายุ
34 ปี
พักอยู่บ้านที่ จ.ลำปาง และวันที่ 16 เม.ย.64
เดินทางไปกรุงเทพฯ โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากนั้นได้ไปเที่ยวบางแสนกับหลานและเพื่อนๆ จนกระทั่งวันที่ 20 เม.ย. 64 ทราบว่าเพื่อนที่ไปบางแสนด้วยกันติดเชื้อโควิด วันที่ 24 เม.ย. 64
ทราบผลว่าเพื่อนติดโควิด
วันที่ 25 เม.ย. 64 จึงขับรถยนต์ส่วนตัวกลับ
จ.ลำปางคนเดียว ไปตรวจหาเชื้อที่ รพ.ลำปาง และนั่งผลการตรวจในรถ จนทาง
รพ.แจ้งว่าติดเชื้อ
ไทม์ไลน์ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 163 |
ผู้ป่วยยืนยันรายที่
163 ชาย อายุ 23 ปี พักอยู่คอนโดที่
กรุงเทพฯ กับเพื่อนรวม 3 คน เพื่อนกลับบ้านที่ จ.เชียงใหม่ 1 คน
โดยไปส่งเพื่อนอีก 1 คน ตรวจหาเชื้อโควิด
รพ.แจ้งผลไม่พบเชื้อ แต่ได้รับข่าวว่า เพื่อนที่กลับ จ.เชียงใหม่ ติดเชื้อโควิด วันที่
13 เม.ย.64 ระหว่างนั้นใช้ชีวิตปกติ
ไปเที่ยวหาเพื่อนและกินข้าวด้วนกัน
จากนั้นวันที่ 19 เม.ย.64 เดินทางไปสอบสัมภาษณ์ที่ศาลปกครองกลาง วันที่ 20 เม.ย.64 เดินทางกลับ จ.ลำปางโดยรถยนต์ส่วนตัว กลับบ้านที่ อ.สบปราบ และเริ่มมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น วันที่ 22 เม.ย.64 จึงไปตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ.ลำปาง
และพบว่าติดเชื้อ
ผู้ป่วยยืนยันรายที่
99 ชาย
อายุ 25 ปี
ทำงานอยู่ที่ จ.กรุงเทพฯ ทราบว่ามีโควิดระบาดจึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อ
แต่ยังไม่รู้ผลการตรวจ จากนั้นช่วงสงกรานต์ วันที่ 11 เม.ย.64
เดินทางกลับบ้านที่ จ.ลำปาง
ไปเที่ยวตามสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ กระทั่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจาก
กรุงเทพฯ แจ้งผลว่าติดเชื้อวันที่ 15 เม.ย. 64
ทั้งนี้
ที่ผ่านมา จ.ลำปาง ไม่ได้มีการห้ามเดินทางเข้าในพื้นที่
แต่ขอความร่วมให้ผู้ที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด จะต้องลงทะเบียนลำปางชนะ
และแจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อสม. ประเมินอาการว่าเป็นกลุ่มเสี่ยงหรือไม่ ขณะเดียวกันทางผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง
และสาธารณสุขจังหวัดลำปาง ได้ขอความร่วมมือมาโดยตลอดว่าถ้าไม่จำเป็นที่จะต้องเดินทางกลับมา
จ.ลำปาง ขอให้งดหรือชะลอการเดินทางไปก่อนเพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว
แต่ก็ยังมีผู้คนเดินทางกลับมาอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งล่าสุดได้เกิดคลัสเตอร์ใหญ่ขึ้นในพื้นที่อีกครั้ง
ที่ ต.บ้านแหง อ.งาว ซึ่งเป็นการติดเชื้อมาจาก จ.กรุงเทพฯเช่นกัน
โดยมีการดื่มกินสังสรรค์ช่วงสงกรานต์ รดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่
ทำให้ติดเชื้อต่อๆกันไปในกลุ่มเครือญาติ ตั้งแต่เด็กวัย 4 ปี ไปจนถึงผู้สูงอายุ 85
ปี ซึ่งมีคนติดเชื้อมากถึง 21 คน จังหวัดลำปางจึงมีคำสั่งยกระดับให้
ต.บ้านแหง เป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุด หรือพื้นที่สีแดง พร้อมปิดล็อกดาวน์หมู่บ้าน 2
หมู่บ้าน คือบ้านแหงเหนือ หมู่ 1 และบ้านแหงใต้ หมู่ 7 เป็นเวลา 14 วัน
ในส่วนของ จ.ลำปาง ตั้งแต่วันที่ 6 เม.ย.4 ถึงวันที่ 7 พ.ค. 64 มียอดผู้ติดเชื้อสะสมแล้วจำนวน 235 ราย ขณะที่รักษาตัวหายแล้วเกินครึ่งหนึ่ง คือจำนวน 161 ราย เหลือผู้ป่วยที่ยังรักษาตัวอยู่อีก
74 ราย
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น