ยอดฉีดวัคซีนลำปางแตะ 38,000 เข็ม แต่ยังไม่ถึง 5 เปอร์เซ็นต์ของเป้าหมาย ขณะที่แผนการเดินทางเข้าลำปาง พื้นที่สีแดงเข้มยังต้องกักตัว หากฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มเข้าได้ปกติ

          วันที่ 21 มิ.ย. 64 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง รายงานข้อมูลการฉีดวัคซีนโควิด-19 จังหวัดลำปาง มีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนไปทั้งหมด 37,459 เข็ม แยกเป็นเข็มที่ 1 จำนวน 24,572 เข็ม และเข็มที่ 2 จำนวน 12,887 เข็ม ส่วนอาการไม่พึงประสงค์หลังได้รับวัคซีน 30 นาที มีเพียงร้อยละ 3.30  อีกร้อยละ 96.70 ไม่พบอาการ   ส่วนใหญ่อาการข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น ได้แก่ ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศีรษะอ่อนเพลียไม่มีแรง  ปวดบวมบริเวณที่ฉีด  มีไข้ อาเจียน ท้องเสีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง และมีผื่นขึ้น

สำหรับจังหวัดลำปางได้ตั้งเป้าว่าจะฉีดวัคซีนให้ได้ 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากร 7 แสนคน  คือประมาณ 5 แสนคน  เท่ากับต้องฉีดวัคซีนทั้งหมด 1 ล้านเข็ม ตั้งแต่เริ่มฉีดช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันรวม 37,459 เข็ม  คาดว่ามีประชาชนได้รับวัคซีนแล้วประมาณ 15,000-18,000 คน  โดยจังหวัดลำปางยังคงเดินหน้าให้บริการวัคซีนแก่ประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่องตามที่จังหวัดได้รับการจัดสรรวัคซีน

ทั้งนี้ ได้มีการฉีดวัคซีนให้กับกลุ่มภาคธุรกิจท่องเที่ยว ได้แก่ พนักงานโรงแรม ร้านอาหาร สถานบันเทิง พนักงานขับรถสาธารณะ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดนัดและตลาดกลางคืน เป็นต้น เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดจังหวัดในช่วงฤดูการท่องเที่ยว ที่คาดว่าจะสามารถเปิดได้ในช่วงปลายปี ซึ่งจะสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจภาพรวมของจังหวัดลำปางให้เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น

สำหรับมาตรการเดินทางเข้า จ.ลำปาง นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวว่า  ได้มีการอนุโลมมาร่วม 2 เดือนแล้ว  โดยผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้ว 2 เข็ม สามารถเข้ามาได้โดยไม่ต้องกักตัว  14 วัน   และผู้ที่ไม่ได้อยู่ในจังหวัดพื้นที่เสี่ยงสีแดงเข้ม สามารถเดินทางมาได้ แต่ให้รายงานตัวกับ อสม.  และดูแลตัวเอง   และขณะนี้คณะกรรมการควบคุมโรคได้มีการพิจารณากันว่าหากใครที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯแล้ว 1 เข็ม นาน 3 สัปดาห์ จะสร้างภูมิคุ้มกันได้มากถึง 70%  อาจจะให้เข้าจังหวัดได้โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน ซึ่งให้ทีมแพทย์ทำการศึกษาอยู่ว่ามีความเป็นไปได้มากน้อยเพียงใด   แต่หากใครเข้ามาด้วยความจำเป็น เช่น มีประชุมวันเดียว โดยมีการตรวจ PCR จากโรงพยาบาลของรัฐ ภายใน 72 ชั่วโมง ก็มาได้โดยไม่ต้องกักตัว  แต่สำหรับผู้ที่มาจากจังหวัดพื้นที่เสี่ยงสีแดงเข้ม คือ กทม. นนทบุรี ปทุมธานี และสมุทรปราการ ยังต้องกักตัวเป็นเวลา 14 วัน เพื่อความปลอดภัยต่อตัวเองและครอบครัว