หนุ่มแจ้ห่มโพสต์เฟซบุ๊กตัดพ้อแพ้วัคซีนแอสตร้าฯ ไม่มีใครรับผิดชอบ ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

 

          จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง เป็นชายชาว อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง ได้โพสเรื่องราวการฉีดวัคซีน AstraZeneca  และได้เกิดอาการแพ้จนต้องเข้าโรงพยาบาลหลายครั้ง ทำให้รู้สึกท้อและเครียด ต้องเสียการเสียงาน เป็นภาระของพ่อแม่

          จากการตรวจสอบพบว่า ชายคนดังกล่าวได้เข้ารับการฉีดวัคซีนยี่ห้อ AstraZeneca ช่วงเช้าของวันที่ 7 มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา ที่โรงพยาบาลแจ้ห่ม อ.แจ้ห่ม จ.ลำปาง โดยลงทะเบียนจองคิวผ่านแอพพลิเคชั่นหมอพร้อม  จากนั้น ได้มีอาการแพ้วัคซีน พบอาการไม่พึงประสงค์ คือ ปวดท้อง อาเจียน หายใจลำบาก ใจสั่น คันตามตัว จึงได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลแจ้ห่ม วันที่ 8 มิ.ย.64  ต่อมาวันที่ 10 มิ.ย.64 ได้ย้ายมารักษาตัวที่โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม อ.เมืองลำปาง  พร้อมกับได้โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ฉีดวัคซีนแล้วแพ้กลับไม่มีใครมาช่วยเหลืออะไร ค่ารักษาพยาบาลก็ต้องออกค่าใช้จ่ายเองทั้งหมด

          ล่าสุดวันที่ 15 มิ.ย.64 เจ้าตัวได้โพสระบายความในใจขึ้นเฟซบุ๊กอีกครั้งว่า

EP1 #อาการแพ้วัคซีนโควิด19 ขอระบายหน่อย  เอาจริงๆนะ ตั้งแต่วันที่รับวัคซีน มาจนถึงวันนี้ก็10วันแล้ว เกิดอาการแพ้วัคซีนอย่างรุนแรงมันทำให้เรา รู้สึกถึงตัวเรานั้นได้รับบาดเจ็บมาก บอบบาง บอบช้ำเหลือเกิน ต้องทนกับอาการแพ้ทุกวันๆ  โคตรทรมานเลยเว้ย เราเจ็บ เราปวด เราคัน หายใจลำบาก อยากแพ้ตอนไหนก็แพ้ ไม่มีใครเข้าใจเราเลย แล้วเราต้อง ทนกับการแพ้วัคซีนแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กัน ?? เราเหนื่อย เราท้อ  เราเครียด ตอนนี้เรารู้สึกเหมือนตัวเองต้องมาเป็น ภาระพ่อแม่ อีกต้องทำงาน ต้องมา เสียงานเสียการ ภาระหน้าที่การงานกูก็มีต้องทำปะวะ มาป่วยแบบนี้ทำงานให้หน่วยงานตัวเองไม่ได้ ถ้าเขาไล่กูออกก็คงจบเห่ละแบบนี้  ใครจะรับผิดชอบ ทั้งงานประจำ งานพิเศษ กระทบไปหมด คนก็ยิ่งขาดเรายิ่งเครียดไปใหญ่ เพราะมันกระทบกับงานประจำเป็นเต็มๆเลย

แล้วป่วยแบบนี้มา10วันละ อาการก็ทรงๆพอดีขึ้นไม่เท่าไหร่ เดียวก็ป่วยอีกๆ กลายเป็นเข้าๆออก รพ.เป็นว่าเล่น เงินสำรองฉุกเฉินก็หมดไปกับค่าเดินทางไปรักษาตัว ค่ายานอกอีก ค่าต่างๆจิปะถะ เราออกเองหมด เราไม่ได้มีเงินถุงเงินถังนะเว่ย  เราท้อ  เราไม่โอเคว่ะ  แพ้วัคซีน ไม่เห็นมีใครมาออกหน้ารับสักคน ตอนอยากให้เราฉีดบีบบังคับให้ฉีดกันถ้วนหน้าทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร ทุกภาคส่วนรายรอบตัวฉัน บีบบังคับให้ฉีด

แล้วฉันผิดหรอที่เป็น1ในร้อยที่แพ้วัคซีนทำไมแล้วฉันต้องมาประสบชะตากรรมแบบนี้ล่ะ ฉันต้องทนเจ็บปวดทรมานร่างกายของฉันแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่ และถามว่า ไม่ได้ทำประกันแพ้วัคซีนเหรอ? ตอบเลยว่า ทำ แต่แพทย์วินิฉัยว่าอาการแพ้ของเรา ไม่เข้าขั้นโคม่า เคลมจากการบาดเจ็บแบบนี้ไม่ได้ ซึ่งฉันก็ได้รับบาดเจ็บทุกวันเลยนะ โชคดีแค่ไหนที่ทำประกันแบบจ่ายค่ารักษาพยาบาล ทิพยประกันภัย กับ โรงพยาบาลแจ้ห่ม กับ โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม ที่รักษาได้ทัน (ขอบคุณที่ทิพยประกันภัยที่ยังยอมให้เคลมค่ารักษาพยาบาลให้)  แต่ที่ทำไว้ที่เหลือนั้นเคลม อะไรไม่ได้เลยไม่มีอะไรช่วยเหลือได้เลยนอกจากต้องรอลุ้นว่า เงินชดเชยเบื้องต้น นั้นจะได้กี่มากน้อยหลังจากอนุกรรมการจะพิจารณาความหนักของเคสเรา ตอนนี้ เราไม่โอเค มากๆๆ

ประกันแจกฟรี เราก็แห่แหนลงทะเบียนทุกเจ้า แต่.... #ประกันแจกฟรี ใช้ไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ในภาวะโคม่า (โคม่าสมองตายระบบประสาทพิการ) ประกันเลยไม่มีผลมันไม่ได้ช่วยอะไรเราเลย เป็นเป็นเพียงการตลาดเท่านั้น #PRการตลาด

หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาลมาอาการล่าสุดของวันนี้คือ ข้าวก็ทานได้น้อยมากลงปวดท้องเหมือนเดิม เหนื่อยหอบอ่อนเพลียแรแขนขาชาไม่มีเรี่ยวแรง ลิ้นชาไม่รับรส จมูกไม่ค่อยได้กลิ่น ใจสั่นๆหวิวๆ เป็นครั้งคราว

โพสต์นี่ไม่ได้มีเจตนาโจมตีการฉีดวัคซีนนะครับผมยังสนับสนุนให้ฉีดอยู่ครับพ่อกับแม่ผมยังยืนยันการฉีดครับตามที่ได้ลงทะเบียนกับหมอพร้อม แค่อยากให้พวกท่านๆคุณๆทั้งหลาย เห็นใจประชาชนบ้างนะครับ ผมไม่ได้อยากดราม่านะครับ ขอเป็นหนึ่งกระบอกเสียงเล็ก เข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชน แค่อยากให้พวกคุณลองมาเป็นผมแล้วคุณจะรู้สึกอย่างที่ผมรู้สึก

นอกจากนั้นยังได้มีการแท็กเรื่องราวของตัวเองไปยัง  สำนักนายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา Prayut Chan-o-cha  , สปสช กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข  ,สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน  , กระทรวงสาธารณสุข , คปภ. , ศูนย์บริการข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี  ด้วย