ปัจจุบันปัญหาสิ่งแวดล้อมของไทยและทั่วโลก
ไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมใหญ่หรือภัยแล้ง
ซึ่งสาเหตุหลักเกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Emergency) ที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นจนถึงขั้นวิกฤต และหากย้อนกลับไปที่ต้นตอ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่ากิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวันของ “มนุษย์”
ล้วนมีส่วนสร้างผลกระทบที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อมเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ผู้ที่จะช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้คือ “เราทุกคน” SCG ซึ่งมุ่งมั่นดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ให้เติบโตไปพร้อมกับการดำเนินธุรกิจ
สอดคล้องกับแนวทาง ESG (Environmental,
Social, Governance) เทรนด์ของโลก จึงเป็นภาคส่วนหนึ่งที่พยายามส่งเสริม
ช่วยวางรากฐาน สร้างความรู้ความเข้าใจ ไปจนถึงการเป็นเพื่อนคู่คิดให้ชุมชนเข้มแข็ง
ลุกขึ้นมาดูแลท้องถิ่นของตนเอง
เช่นที่ ชุมชนเมืองมาย จังหวัดลำปาง ซึ่งถือเป็นชุมชนที่มีความเข้มแข็งและคนในชุมชนตระหนักถึงการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างดี SCG จึงได้ชักชวนชุมชนทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ เพื่อการพัฒนาเมืองและชุมชนเชิงนิเวศ
สู่การจัดการสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัท เอสซีจี
ซิเมนต์ จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง เอสซีจี
และสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) ไปเมื่อปี 2562 เพื่อเป็นแนวทางการพัฒนาเมืองและชุมชนเมืองมาย จังหวัดลำปาง
ให้เป็นต้นแบบเมืองนิเวศ (ECO CITY)
“เราได้นำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)
ซึ่งเป็นแนวทางการดำเนินธุรกิจของ SCG มาปรับใช้
พัฒนาต่อยอด และผลักดันชุมชนเมืองมายให้เป็นชุมชนเศรษฐกิจหมุนเวียนต้นแบบ โดยร่วมมือกับองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองมาย” วรการ พงษ์ศิริกุล ผู้อำนวยการโรงงานปูนลำปาง บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย
(ลำปาง) จำกัด ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง SCG อธิบายถึงแนวคิดและวิธีการทำงานร่วมกับชุมชนพร้อมทั้งคณะทำงานยังได้รวบรวมข้อมูลและสำรวจสภาพพื้นที่ เพื่อจัดทำแผนการจัดการสิ่งแวดล้อมที่สอดคล้องกับระบบนิเวศ
สำหรับนำไปประยุกต์ใช้ในพื้นที่ 6 หมู่บ้านของตำบลเมืองมาย
เพื่อนำไปสู่การวางแผนพัฒนาเมืองและชุมชนอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน
ยังได้ส่งเสริมการใช้และบริหารจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างรู้คุณค่า
พร้อมยกระดับความเป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่นของชุมชนเมืองมาย เช่น หัตถกรรมจักสาน
ที่มีลวดลายเป็นเอกลักษณ์ และมีการสืบทอดกันแบบรุ่นสู่รุ่น
จากแนวคิดและแนวทางปฏิบัติของชุมชนเมืองมายตามแนวทางต้นแบบเมืองนิเวศ ส่งผลให้ในปี 2563 ชุมชนเมืองมาย
มีผลการประเมินทรัพยากรธรรมชาติและคุณภาพสิ่งแวดล้อมของชุมชนเชิงนิเวศครบทั้ง 19 ตัวชี้วัด ตามเกณฑ์การประเมินของกองสิ่งแวดล้อมชุมชนและพื้นที่เฉพาะ
ของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพิ่มขึ้นเป็น 70 เปอร์เซ็นต์ จาก 53 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2562 ซึ่งจัดอยู่ในระดับ ECO CITY โดยมีการปฏิบัติที่โดดเด่น
ทั้งในเรื่องของ ต้นทุนทรัพยากรธรรมชาติ เช่น การส่งเสริมการปลูกไผ่ ส่งเสริมการรักษาทรัพยากรป่าไม้ และการทำฝาย
เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ดิน และต่อยอดไปถึงการกักเก็บน้ำสำหรับเกษตรกรรม
รวมถึง การลดมลพิษ ด้วยการจัดการขยะครัวเรือนตั้งแต่ต้นทาง
พร้อมส่งเสริมให้มีธนาคารขยะในชุมชน
และต่อยอดการนำขยะไปหมุนเวียนสร้างคุณค่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เช่น นำถุงกาแฟหรือถุงนมมาทำความสะอาด
และแปรรูปเป็นกระเป๋า ผ้ากันเปื้อน นำฝากระป๋องน้ำอัดลมมาประดิษฐ์เป็นกิ๊บติดผม
นำเศษอะไหล่และเศษเหล็ก มาต่อเป็นหุ่นยนต์ รวมถึงการรับซื้อฟางข้าวและแกลบจากชุมชน
เพื่อนำมาเป็นพลังงานทดแทนในโรงงาน ซึ่งช่วยลดการเผาทิ้งได้กว่า 4,316 ตัน รวมถึง การส่งเสริมคุณภาพชีวิต เช่น การพัฒนาที่ดินทำกิน การส่งเสริมอาชีพกลุ่มวิสาหกิจชุมชนตะกร้าจักสานเมืองมาย
การส่งเสริมสาธารณสุขชุมชน ตลอดจนการเชื่อมโยงให้เป็นเส้นทางท่องเที่ยว
เป็นต้นนอกจากนี้ ยังมี การป้องกันภัยภิบัติ โดยชุมชนได้ร่วมร่างแผนป้องกันภัยพิบัติ
เช่น น้ำท่วมและดินถล่ม กับสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อเตรียมพร้อมรับมือ
ความสำเร็จของต้นแบบเมืองนิเวศ (ECO CITY) ที่ตำบลเมืองมาย
จ.ลำปาง ซึ่งคำนึงถึงการพัฒนาที่สอดคล้องกับระบบนิเวศ
การสร้างคุณค่าร่วมกันกับชุมชน
ควบคู่กับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุลและยั่งยืน SCG โดย บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย (ลำปาง) จำกัด
ในธุรกิจซีเมนต์และผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และองค์การบริหารส่วนตำบลเมืองมาย พร้อมด้วยหน่วยงานราชการท้องถิ่นในจังหวัดลำปาง
จึงได้ส่งมอบแผนผังชุมชนเชิงนิเวศเมืองมาย อำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง
ไปเมื่อเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมา
จากวิถีการดำเนินชีวิตและการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมของชุมชนเมืองมาย
รวมทั้งการดำเนินงานเหล่านี้
ถือเป็นการสร้างคุณค่าร่วมกันกับชุมชนให้พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน
ตามแนวทางดำเนินธุรกิจของ SCG ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับชุมชน
สังคม และสิ่งแวดล้อม มาอย่างต่อเนื่อง
โดยเชื่อว่าสังคมและชุมชนที่เข้มแข็งจะเป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาประเทศให้ก้าวหน้าต่อไป
กอบแก้ว
แผนสท้าน...เรื่อง
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น