วันพุธที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2564

เมื่อเวลานี้ทางเลือกที่ดีที่สุดคือการมุ่งหน้ากลับบ้านเกิด เพื่อรับการรักษาที่ดีกว่า และกลับมาอยู่ใกล้ครอบครัว แค่นี้ก็อุ่นใจแล้ว การเดินทางจึงมีอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย

 


          สถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ประเทศไทย พุ่งขึ้นเกือบแตะวันละ 2 หมื่นคนแล้ว ขณะที่ผู้เสียชีวิตก็มากขึ้นหลักร้อยคนต่อวัน  การล็อคดาวน์จังหวัดพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ทำให้หลายกิจการต้องปิดตัวลง คนเกิดการว่างงาน ซึ่งในสถานการณ์เช่นนี้การเดินทางกลับบ้านเกิดเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องการมากที่สุด เพราะถึงอย่างไรกลับบ้านเราก็สบายใจกว่า ทำให้มีการเดินทางกระจายไปในต่างจังหวัดเกือบทุกพื้นที่

          เช่นเดียวกับ จ.ลำปาง ซึ่งมีการเดินทางกลับภูมิลำเนากันอย่างต่อเนื่อง ทั้งผู้ป่วยที่ติดต่อศูนย์ประสานงานรับคนลำปางกลับบ้าน และผู้ที่มาจากพื้นที่เสี่ยงสูง โดยบุคคลเหล่านี้จะต้องได้รับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธี Antigen Test Kit  ที่ด่านตรวจ สภ.แม่พริก และเข้าสถานที่กักตัวตามที่หมู่บ้านและชุมชนในแต่ละอำเภอได้จัดเตรียมไว้ให้เป็น เวลา 14 วัน  แม้ว่าจะต้องกักตัวแต่หลายคนก็ยอมที่จะเดินทางมา ซึ่งมีหลายเคสที่ตั้งใจเดินทางมาด้วยตนเอง แม้จะไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อหรือไม่   บางคนมีความรับผิดชอบต่อสังคมก็เข้ากักตัวทันที แต่ก็ยังมีบางคนที่ยังคงเดินทางไปหลายสถานที่ใน จ.ลำปาง ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อบุคคลอื่นไม่น้อย

          ยกตัวอย่าง ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 413 ชายอายุ 38 ปี ชาว อ.แจ้ห่ม ทำงานอยู่ที่กรุงเทพฯ ได้ตรวจโควิดรอบแรกไม่พบเชื้อ แต่เพื่อนในโรงงานติดเชื้อ 5 คน  จากนั้นเริ่มมีอาการไข้ จึงตัดสินใจขึ้นรถทัวร์กลับมา จ.ลำปาง  และเหมารถสองแถวกลับบ้านที่ อ.แจ้ห่ม เดินทางเข้าตรวจหาเชื้อโควิดที่ รพ.แจ้ห่ม  และผลพบว่าติดเชื้อจึงเข้ารักษาตัว 




          ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 664 665 666  ครอบครัว พ่อ อายุ 56 ปี แม่อายุ 38 ปี และลูกวัย 7 เดือน  อาชีพทำงานก่อสร้างอยู่ที่ จ.นนทบุรี จากนั้นพ่อเริ่มมีอาการปวดเมื่อยเป็นไข้ จึงไปตรวจหาเชื้อโควิด และพบว่าติดเชื้อ จึงได้ตัดสินใจพาลูกเมียขับรถยนต์กลับมาที่ จ.ลำปาง  ทั้ง 3 คน เข้าทำการตรวจหาเชื้อ ที่โรงพยาบาลลำปาง ระหว่างรอกักตัวอยู่โรงเรียนแพะดอนตัน  กระทั่งได้รับแจ้งติดเชื้อทั้ง 3 คน 






          ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 698 หญิงอายุ 40 ปี และ รายที่ 711 ลูกสาวอายุ 5 ปี อยู่บ้านที่ จ.ปทุมธานี  ก่อนจะมีอาการไข้ จึงขับรถยนต์ส่วนตัวมา จ.ลำปาง พร้อมกับสามี และลูกสาว  ถึงด่านตรวจแม่พริก ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด ผลไม่พบเชื้อ แต่เนื่องจากมาจากพื้นที่เสี่ยงจึงได้ส่งผลตรวจซ้ำที่โรงพยาบาลลำปาง  เดินทางถึงบ้านที่ อ.งาว เข้าสถานที่กักตัวที่โรงเรียนบ้านโป่ง ก่อนที่โรงพยาบาลจะแจ้งผลว่าติดเชื้อทั้ง 3 คน




          ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 704 หญิงอายุ 32 ปี  และรายที่ 705 ลูกสาว อายุ 1 ปี ทำงานอยู่ จ.ชลบุรี ก่อนจะเดินทางกลับมา จ.ลำปาง พร้อมกับสามีและลูกสาว อายุ 1 ปี  โดยรถยนต์ส่วนตัว ถึงบ้านพักที่ ต.บ่อแฮ้ว อ.เมืองลำปาง อสม.ได้เข้าพบและให้กักตัว 14 วัน จนกระทั่งลูกสาวมีอาการถ่ายเหลว  ได้เข้าตรวจที่โรงพยาบาลลำปาง พบติดเชื้อโควิด ทั้งแม่และลูก



            ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 427 หญิงอายุ 26 ปี ทำงานอยู่ กรุงเทพฯ  และเริ่มมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ไปตรวจที่โรงพยาบาลแพทย์วินิจฉัยว่าเยื่อจมูกอักเสบ  จากนั้นเดินทางไปฉีดวัคซีนโควิดเข็มที่ 1 ผ่านไปหลายวันอาการไม่ดีขึ้น เริ่มเหนื่อยหายใจได้ไม่เต็มอิ่ม จึงตัดสินใจกลับ จ.ลำปาง โดยรถยนต์ส่วนตัวพร้อมเพื่อนชาย ระหว่างเดินทางประสานโรงพยาบาลเถิน ถึงแล้วเข้าตรวจหาเชื้อโควิด และผลพบติดเชื้อ


          ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 634   หญิง อายุ 19 ปี อยู่ จ.สุพรรณบุรี กับปู่และย่า ก่อนเดินทางมา จ.ลำปาง ได้ไปตรวจหาเชื้อโควิดเพื่อประกอบการเดินทาง ผลไม่พบเชื้อ เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัวมากับญาติ เข้าพักที่โรงแรมใน จ.ลำปาง  เดินทางไปห้างสรรพสินค้า และตลาดอีกหลายแห่ง กระทั่งจมูกเริ่มไม่ได้กลิ่น และมีอาการไอ จึงไปตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลเขลางค์นคร-ราม ผลพบติดเชื้อ




       ผู้ป่วยยืนยันรายที่ 334 ชายอายุ  52 ปี  ทำงานอยู่ จ.สมุทรปราการ อาชีพขับรถส่งเม็ดพลาสติกในหลายจังหวัด มีอาการไข้ อ่อนเพลียและเจ็บคอ หลายวัน จึงตัดสินใจเช่ารถรับจ้างเดินทางกลับบ้านเกิดที่ อ.งาว จ.ลำปาง โดยนั่งหลังรถมาคนเดียว  และเข้าตรวจหาเชื้อโควิดที่โรงพยาบาลงาว ระหว่างกักตัวอยู่บ้าน โรงพยาบาลแจ้งผลติดเชื้อ




      

          ทั้งนี้ ยังมีผู้ป่วยอีกหลายคน ซึ่งอยู่ในกลุ่มของผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างจังหวัดและตรวจพบติดเชื้อใน จ.ลำปาง มากกว่า 200 คน ที่ตั้งใจเดินทางกลับมายังบ้านเกิด เพื่อที่จะได้รับการรักษาที่ดีจากโรงพยาบาลทั้ง 13 อำเภอของ จ.ลำปาง  เพราะในเวลานี้การอยู่กรุงเทพฯ และจังหวัดพื้นที่เสี่ยงสูงอื่นๆ ไม่ใช่ทางเลือกที่ดีอีกต่อไป การตัดสินใจกลับมาบ้านเกิดเมืองนอกจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด

 

Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์