วันศุกร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2564

คุยเฟื่องเรื่องศาสตร์สัมพันธ์ วันที่ 20 - 27 สิงหาคม 2564

 


เมื่อได้พิจารณาตามหลักที่ได้กล่าวมาแล้วนี้ จึงไม่จำเป็นที่จะต้องท่องจำให้ได้ทั้งหมดให้จำเฉพาะเหตุและผลของความดีร้ายต่าง ๆ ที่สำคัญไว้เท่าที่จำเป็นและจำได้ก็พอ นั่นมิได้หมายความว่าถ้าสามารถจำได้ทั้งหมดแล้วไม่ดี เพราะถ้าการจำสิ่งใดได้ทั้งหมดนั่นถือเป็นสิ่งที่ดี เพียงแต่ที่พูดนี้มีมากมายหลายข้อด้วยกัน ไม่สามารถที่จะจดจำให้ครบถ้วนได้ เพียงจำแต่เหตุกับผลดังกล่าวแล้ว และใช้ดุลยพินิจเอาเองก็จะพยากรณ์ให้ถูกต้องใกล้เคียงแม่นยำได้อย่างไร จึงให้จำได้และมีความแน่นอนแม่นยำก็พอ

 

เส้นตัดขวางมือที่เป็นเส้นขนานยาวนั้น ยังซ่อนข้อเร้นลับไว้ในตัวอีก กล่าวคือตำบลเริ่มต้นมิได้จากที่เดียวกัน ความหมายของเส้นก็จะแตกต่างกัน ความหมายของเส้นก็จะแตกต่างกัน ความยาวและสั้นซึ่งผิดกันเล็กน้อย แต่ความร้อนแรงของเส้นจะผิดกันมาก เหล่านี้เป็นเคล็ดแห่งการพยากรณ์ เช่นเส้นตัดขวางมือที่มาจากเนินอังคารก็ดี จากเนินศุกร์ก็ดี เมื่อแล่นตัดเส้นชีวิตออกมาถึงเส้นโชคหรือเส้นความคิด ผู้ไม่ทราบข้อเร้นลับด้วยเหตุผลของต้นเส้นกับปลายเส้น ก็อาจจะคิดเหมือนกันหรือเป็นการถูกต้องสมเหมือนกัน แต่ยังไม่ถูกถึงแก่นความลึกซึ้งที่แท้จริง ซึ่งควรจะต้องรู้เพิ่มไว้อีก เพื่อความชัดเจน

 

เส้นอันตราย เป็นเส้นที่เริ่มต้นออกจากเนินอังคารต่ำ แล่นตัดเส้นชีวิตเลยมาจนถึงเส้นโชคหรือเส้นความคิด แต่ไม่ยาวจนสุดฝ่ามือ เรียกว่าเส้นอันตราย เส้นนี้แสดงอันตรายเกี่ยวร่างกายหรือทรัพย์สินที่เป็นตัวตน ตามความหมายของเส้นที่ถูกตัด เช่นตัดเส้นชีวิตแสดงว่าจะเจ็บไข้หรือถูกบาดเจ็บ ตัดเส้นโชคจะเสียหายทางการงานอาชีพหรือเสียทรัพย์สินเงินทอง เป็นต้น

 

เส้นวิบาก เป็นเส้นที่เริ่มต้นออกจากเนินศุกร์ แล่นตักเส้นชีวิตออกมาถึงเส้นโชคหรือเส้นความคิด แต่ไม่ยาวจนสุดฝ่ามือ เรียกว่าเส้นวิบากหรือเส้นยากใจ เป็นเส้นแสดงอันตรายในสิ่งที่เกี่ยวแก่อารมณ์ เช่นตัดเส้นชีวิตแสดงว่าจะถูกกระทบกระเทือนจากเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความทุกข์ระทมใจ ถ้าเป็นเส้นที่มีอยู่เดิมก็แสดงว่าเจ้าของมือ เป็นคนมีอารมณ์รุนแรงหงุดหงิดชอบคำนึงถึงเรื่องอันไร้สาระต่าง ๆ ทำให้ยุ่งใจตนเอง ถ้าตัดถึงเส้นโชคก็เดือดร้อนจากการงานทางอาชีพหรือทำให้เกิดความยุ่งยากใจเรื่องทรัพย์สินเงินทองเป็นต้น

 

เส้นอุบาทว์หรือเส้นจัณฑาล เส้นนี้เริ่มต้นเกิดจากเส้นคาดข้อนิ้วหัวแม่มือทั้งปล้อง 2 ตอนเนินศุกร์แล่นตัดเส้นชีวิตออกมาจนสุดริมฝ่ามือ ซึ่งจะสิ้นสุดในบริเวณเนินจันทร์ เนินอังคารสูงหรือเนินพุธก็ได้เรียกว่าเส้นอุบาทว์หรือเส้นจัณฑาลเป็นเส้นที่ร้ายแรงขึ้นอีก บุคคลใดหรือผู้ที่มีเส้นชนิดนี้เกิดขึ้นในฝ่ามือจะให้เป็นคนไม่มีความมั่นคงในชีวิตจนตลอดรอดฝั่ง แม้ว่าจะร่ำรวยสักเท่าใดก็ตาม จักต้องมีเวลาล้มลงคราวหนึ่งแน่นอน

 

เส้นประหาร เป็นเส้นที่เริ่มต้นเกิดจากเส้นคาดข้อนิ้วหัวแม่มือปล้องที่ 2 เช่นกันกับเส้นอุบาทว์ แต่อยู่ในเนินอังคารและต้องอยู่ตรงง่ามมือด้วย ถ้าแล่นตัดเส้นชีวิตออกมาแล้วแล่นเลยขึ้นไปจนเนินพุธเรียกว่าเส้นประหาร หากไม่แล่นผ่านไปจนสุดริมฝ่ามือก็นับว่าร้ายแรงเหมือนกัน แสดงว่าเจ้าของมือจะตายโดยถูกประหารชีวิตหรือถูกฆ่าตาย ข้อนี้ได้เห็นประจักษ์มาแล้ว บุคคลใดหรือหรือผู้ไม่มีเส้นนี้ ในฝ่ามือและไม่มีเครื่องหมายอย่างอื่นที่แสดงว่าจะถูกฆ่าตาย ถึงแม้ว่าจะมีโทษหนักถึงตายก็ไม่ตาย ผู้ร้ายคนสำคัญฆ่าคนตายมามาก ศาลคงพิพากษาให้ประหารแต่ผลสุดท้ายเป็นเพียงถูกจำคุกตลอดชีวิต

 

เส้นแขนงแยกขึ้น คือเป็นเส้นเล็ก ที่แตกออกจากเส้นใหญ่และพุ่งขึ้นไปทางส่วนบนของมือ ไม่ว่าจะแยกขึ้นจากเส้นใดนับว่าเป็นเส้นที่ดีโดยมาก จงสังเกตดูว่าปลายของเส้นนั้นพุ่งไปหาเนินใดหรือไปเกี่ยวของกับเส้นใด ก็จะได้รับคุณภาพทางดีตามความหมายของเนินนั้นหรือเส้นนั้นมีข้อพึงเว้นอยู่ว่า เส้นที่แยกนั้นไปบรรจบสุดสิ้นอยู่เพียงเส้นความคิดหรือเส้นหัวใจนั้นไม่สู้ดีเท่าใด รายละเอียดของเส้นแยกขึ้นจะว่าต่อในสัปดาห์หน้า


Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์