นายเฉลิมเกียรติ
คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีฝ่ายวิชาการ และสื่อมวลชนทุกแขนง
เข้าร่วมการกิจกรรมสื่อสัญจรผ่านระบบออนไลน์ (Zoom) โครงการศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงโครงการชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดลำปาง
เพื่อสรุปผลการศึกษาโครงการ ความเหมาะสมการปรับปรุงโครงการชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดลำปางขึ้น
โครงการชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดลำปาง
ดำเนินการก่อสร้างและบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ ตั้งแต่ปีพ.ศ. 2514 ทำให้อาคารหัวงานระบบชลประทาน และระบบระบายน้ำอยู่ในสภาพชำรุดทรุดโทรม
ประกอบกับความต้องการใช้น้ำเพื่อการเกษตรกรรมและภาคส่วนอื่น ๆ เปลี่ยนแปลงไป จึงจำเป็นต้องศึกษาความเหมาะสมเพื่อพิจารณาปรับปรุงโครงการชลประทานขนาดกลางให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น
วัตถุประสงค์ของโครงการดังกล่าว
รวบรวมข้อมูลพื้นฐานปัจจุบัน ตลอดจนความคิดเห็นที่มีต่อการพัฒนาโครงการ เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการจัดทำ
“แผนหลักการปรับปรุงโครงการชลประทานขนาดกลาง” และ “คัดเลือกโครงการ เพื่อนำมาศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการ”
รวมถึงศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมจากการพัฒนาและปรับปรุงโครงการ
รองอธิบดีฝ่ายวิชาการกล่าวต่อว่า การดำเนินงานได้แบ่งแผนงานเป็น
4 กลุ่มคือ 1. แผนงานซ่อมแซม เป็นแผนงานที่สามารถดำเนินการได้เลย ตามแบบเดิม 2. แผนงานปรับปรุง เป็นแผนงานที่ต้องวิเคราะห์ สำรวจและออกแบบ 3. แผนงานศึกษาความเหมาะสม เป็นแผนงานที่ต้องศึกษาความเหมาะสมของโครงการทั้งด้านวิศวกรรม
สิ่งแวดล้อม สังคมและเศรษฐศาสตร์ และออกแบบรายละเอียดโครงการก่อนการดำเนินการก่อสร้าง
และ 4. แผนงานบริหารจัดการน้ำ เป็นแผนงานที่จะทำให้เกิดการบริหารจัดการน้ำ
การใช้งานและบำรุงรักษาได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยโครงการชลประทานขนาดกลางมีทั้งสิ้น
30 โครงการ คัดเลือก 3 โครงการ เพื่อนำมาศึกษาความเหมาะสมปรับปรุงโครงการซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์โดยรวมในพื้นที่ลุ่มน้ำมากที่สุดดังนี้
1)โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ทะ บ้านผาลาด ต.พระบาท อ.เมือง อายุโครงการ
50 ปี ความจุเก็บกัก 2.54 ล้าน ลบ.ม. มีพื้นที่ชลประทาน 10,000
ไร่ แผนการปรับปรุงระบบชลประทาน คือ วางแนวท่อจากเขื่อนไปยังปากเหมืองของฝายทั้ง
7 แห่ง ส่วนการปรับปรุงเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ คือ ขุดลอกอ่างเก็บน้ำ
ก่อสร้างฝายดักตะกอนบริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำ ปรับปรุงลดการรั่วซึมเขื่อน เพิ่มระดับเก็บกักของอ่างเก็บน้ำ
ปรับปรุงอาคารและระบบควบคุมการเปิด-ปิดประตูน้ำ ปรับปรุงและติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อนพร้อมระบบรับ-ส่งข้อมูลอัตโนมัติ
รวมถึงติดตั้งระบบโทรมาตร และจัดทำคู่มือการบริหารจัดการน้ำ
2) โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ทาน บ้านแม่กัวะ ต.แม่กัวะ อ.สบปราบ อายุโครงการ
36 ปี ความจุเก็บกัก 14.90 ล้าน ลบ.ม. โครงการอ่างเก็บน้ำแม่ทานมีขนาดใหญ่ที่สุดในอำเภอสบปราบ
พื้นที่ชลประทาน 12,000 ไร่ ดำเนินการเสริมคันกำแพงสันเขื่อนแล้ว แต่มีปัญหาบริเวณพื้นที่ต้นน้ำทำให้ปริมาณน้ำท่าที่ไหลลงอ่างเก็บน้ำลดลง
จึงต้องดำเนินการศึกษาหาแหล่งน้ำต้นทุนเพิ่ม
การปรับปรุงเขื่อนและอ่างเก็บน้ำ
ประกอบด้วย การขุดลอกอ่างเก็บน้ำ ก่อสร้างฝายดักตะกอนบริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำ
ปรับปรุงรถการรั่วซึมเขื่อน ปรับปรุงสันเขื่อน ปรับปรุงอาคารและระบบควบคุมการเปิด-ปิดประตูน้ำ
ปรับปรุงและติดตั้งเครื่องมือวัดพฤติกรรมเขื่อนพร้อมระบบรับ-ส่งข้อมูลอัตโนมัติ รวมถึงติดตั้งระบบโทรมาตร
และจัดทำคู่มือการบริหารจัดการน้ำ
ส่วนการปรับปรุงระบบชลประทานและการเพิ่มน้ำต้นทุน อ่างเก็บน้ำแม่ทาน
จะปรับปรุงคลองส่งน้ำฝั่งซ้าย พร้อมอาคารประกอบ และเพิ่มน้ำต้นทุน โดยการสูบน้ำจาก
“แม่น้ำวัง” ไปเติมอ่างเก็บน้ำแม่ทาน ในช่วงเดือน ส.ค.-ต.ค.
3) โครงการอ่างเก็บน้ำแม่อาบ บ้านปากกอง ต.นาโป่ง อ.เถิน อายุโครงการ
36 ปี ความจุเก็บกัก 7.50 ล้าน ลบ.ม. เป็นโครงการอ่างเก็บน้ำขนาดกลางแห่งเดียวในอำเภอเถิน
ระบบส่งน้ำยังไม่ครอบคลุมพื้นที่รับประโยชน์โครงการ และระบบส่งน้ำรวมถึงฝายต่าง ๆ ชำรุด
ทำให้ไม่สามารถทำการเพาะปลูกได้เต็มพื้นที่
แผนการปรับปรุงโครงการอ่างเก็บน้ำแม่อาบ
ประกอบด้วย การขุดลอกอ่างเก็บน้ำ ก่อสร้างฝายดักตะกอนบริเวณพื้นที่เหนืออ่างเก็บน้ำ
ศึกษาการเพิ่มระดับเก็บกักของอ่างเก็บน้ำ ปรับปรุงอาคารและระบบควบคุมการเปิด-ปิดประตูน้ำ
ปรับปรุงและติดตั้งเครื่องมือตรวจวัดพฤติกรรมเขื่อน พร้อมระบบรับ-ส่งข้อมูลอัตโนมัติ
ติดตั้งระบบโทรมาตร และจัดทำคู่มือการบริหารจัดการน้ำ ส่วนการปรับปรุงระบบชลประทาน
คือ วางท่อส่งน้ำจากอ่างเก็บน้ำแม่อาบ ไปปากเหมืองของฝายทุกแห่ง
สำหรับโครงการศึกษาความเหมาะสมการปรับปรุงโครงการชลประทานขนาดกลางในเขตจังหวัดลำปาง
เริ่มดำเนินการเมื่อ 8 มิ.ย. 2563 – 31 ส.ค. 2564
ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับคือ เขื่อนมีความมั่นคงมากขึ้น อ่างเก็บน้ำเก็บกักน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่ม มีระบบตรวจสอบความมั่นคงของเขื่อนทำให้สามารถติดตามตรวจวัดและเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำและใช้ประกอบการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่โครงการให้มีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ทั้งอุทกภัยและภัยแล้ง
ขณะที่การปรับปรุงระบบส่งน้ำ ทำให้การส่งน้ำมีศักยภาพสูงขึ้น
ลดการสูญเสียน้ำและระยะเวลาการส่งน้ำไปยังพื้นที่เพาะปลูก ทำให้สามารถบริหารจัดการน้ำได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ติดต่อฝ่ายประชาสัมพันธ์ : คุณช่อผกา คุระแก้ว
066-141-7337
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น