สสจ.เตือนหยุดสังสรรค์วนแก้วเหล้า วอนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต หลังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มต่อเนื่อง 10 วันกว่า 200 ราย และหาที่มาของการติดเชื้อได้ยาก

 

นายแพทย์ประเสริฐ กิจสุวรรณรัตน์  สาธารณสุขจังหวัดลำปาง เปิดเผยถึงสถานการณ์โควิด-19 ของ จ.ลำปาง ว่า เวลานี้การติดเชื้อโควิด-19  ของ จ.ลำปาง  เป็นสถานการณ์ที่เรียกกว่าสะเก็ดไฟ  โดยพบว่าห้วง 10 วัน พบผู้ติดเชื้อเกือบ 200 ราย และกระจายไปทุกพื้นที่หลายอำเภอ  ประการแรก คือ พฤติกรรม ซึ่งมีประวัติการเดินทางไปพื้นที่เสี่ยง เมื่อกลับเข้ามาไม่ได้ควบคุมตามมาตรการที่ต้องทำ คือ การกักตัว สังเกตอาการ  แต่ยังคงกลับมาทำงานตามปกติเช่นเดิม จึงทำให้เกิดการระบาดติดเชื้อในสถานที่ทำงาน 

ประกาศที่สอง คือ การใช้ชีวิตที่ไม่มีการปรับเปลี่ยน สถานที่ทำงานบางแห่งยังมีในลักษณะของการทำอาหารและร่วมวงรับประทานร่วมกัน  ประการที่สามที่น่ากลัวมากคือ ตอนเย็นยังมีการสังสรรค์ ด้วยแก้วใบเดียว ส่วนใหญ่เป็นเหล้าป๊อกหรือเหล้าขาวเป็นแก้วเวียนกัน  การกระทำเช่นนี้ชัดเจนว่าเป็นปัจจัยหลักที่เกิดการแพร่ระบาด 

นายแพทย์ประเสริฐ กล่าวว่า จากการลองสุ่มสำรวจดูอัตราการใช้หน้ากากอนามัย ก็พบว่าไม่ได้ลดลงเลย คนลำปางยังคงใช้หน้ากากอนามัยป้องกันตนเองเป็นอย่างดีมาก แต่ปัญหาคือการพลั้งเผลอเรื่องพฤติกรรม  การกินอาหาร การสังสรรค์ หรือลักษณะของการทำงานใช้แรงงาน ก็ยังดื่มน้ำในกระติกเดียวกันอยู่  จึงไม่แปลกใจที่เกิดการระบาดของโรคแบบสะเก็ดไฟ  และกรณีเช่นนี้การสอบสวนหาต้นตอได้ยากมาก ว่าเกิดจากจุดใด เพราะฉะนั้นขอย้ำกับพี่น้องชาวลำปางว่า ถ้าต้องการเปิดเมือง ต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมให้ได้

         สำหรับยอดผู้ติดเชื้อในพื้นที่ จ.ลำปาง ณ วันที่ 6 ตุลาคม 2564 พบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น 26 รายด้วยกัน กระจายไปยัง อ.เมืองลำปาง 13 ราย อำเภองาว 10 ราย อ.เสริมงาม 1 ราย และต่างจังหวัด 1 ราย  ส่วนข้อมูลวันที่ 7 ตุลาคม  พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 18 ราย  แยกเป็น อ.เมืองลำปาง 11 ราย  และ อ.งาว 7 ราย

โดยมีผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษา 173 ราย  สำหรับผู้ป่วยทั้งจังหวัดสะสมอยู่ที่ 2,088 ราย และเสียชีวิตสะสม 15 ราย