วันอังคารที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2565

“อารมณ์ดิน ดินอารมณ์ดี ปั้นรอยยิ้มสู่สากล”

 

ดินเหนียวถูกปั้นเป็นรูปสัตว์ปีนักษัตย์ต่างๆ ตามความเชื่อของชาวภาคเหนือ ในพิธีกรรมทำสะตวงเรียกขวัญ ดินน้ำมันหลากสีถูกรังสรรค์เป็นรูปปั้นต่างๆ ตามจินตนาการของเด็กน้อยในคาบเรียนวิชาศิลปะ รูปปั้นอันวิจิตรโอบล้อมศาสนิกชนที่มาไหว้สักการะองค์พระพุทธรูปอันเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ บุคคลสำคัญแม้จากไป ยังหลงเหลือประติกรรมประกาศไว้ซึ่งเกียรติคุณ


หากพูดถึงงานปั้น เชื่อว่าเป็นสิ่งที่ทุกคนล้วนคุ้นชิน เพราะมันได้แทรกซึมอยู่ในทุกวิถีชีวิต เราเรียนรู้วิธีการปั้นมาตั้งแต่จำความได้ แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถสร้างสรรค์งานปั้นออกมาอย่างทรงคุณค่าได้ เพราะนอกจากความสามารถแล้ว ช่างปั้นจะต้องมีความเชื่อ จิตวิญญาณ ความคิดสร้างสรรค์ จิตใจที่สงบนิ่งและมีความพยายามเป็นที่ตั้งอีกด้วย ดังเช่น  โจ อรรถเทพ สมัครธัญกิจ ที่หลงใหลในงานปั้นมาตั้งแต่สมัยเรียน ซึ่งเขาได้เรียนศิลปกรรมเครื่องปั้นดินเผามาโดยตรง และได้เริ่มต้นเข้าสู่วงการธุรกิจงานปั้นในช่วงปี 2547 ที่อำเภอแม่เมาะ บ้านเกิดของเขา ด้วยความรู้ระดับมวยวัด แต่เพราะความที่เป็นคนเด็ดเดี่ยวไม่ย่อท้อต่ออุปสรรคขวางกั้น จึงทำให้วันนี้เขาได้เป็นที่รู้จักในนาม เจ้าของ อารมณ์ดิน ตุ๊กตาดินปั้นระดับอินเตอร์



ด้วยความที่คุณโจเรียนจบศิลปกรรมเครื่องปั้นดินเผามาโดยตรง และมีครูช่างคือองค์พระพิฆเนศ จึงเกิดเป็นแรงบันดาลใจ และทำโรงงานขึ้นมาในปี 2547 ที่ตอนนั้นเริ่มต้นด้วยศรัทธาล้วนๆ ประสบการณ์ด้านการตลาดต่างๆ ยังนับว่าเป็นศูนย์ องค์แรกที่ทำก็ขึ้นดินมา พอเอาเข้าเตาเผาก็แตกก็ระเบิดก็ร้าว ก็เจอเรื่องราวสารพัดที่จะทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จแต่ด้วยความมุ่งมั่นที่จะทำก็มีการศึกษาพัฒนามาเรื่อยๆ มีการลองผิดลองถูกทั้งอาศัยความเชื่อในเรื่องของการทำพิธีบวงสรวง และความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เป็นระยะเวลา 10 กว่าปีในค้นพบวิถีการออกแบบของตัวเอง ซึ่งหนึ่งในนั้นคือค้นพบว่าคนไทยชอบความเชื่อ  ก็เกิดเป็นองค์พระพิฆเนศดีไซน์ใหม่ 36 ปาง ที่ทุกคนรู้จักว่าเกิดขึ้นในประเทศไทยเราก็เริ่มแตกไลน์ออกไป มีการใส่ความสนุกความน่ารักเข้าไป ใส่สีสันเรื่องราวเข้าไป ก็เลยเกิดการพัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ

แรงสนับสนุนจาก กฟผ.แม่เมาะสู่งานพรีเมียม

คุณโจ เล่าให้ฟังว่า ช่วงแรกที่ทำงานปั้นออกมาใหม่ๆ  ได้ กฟผ.แม่เมาะ มาช่วยเหลือ โดยไปออกบูธตามงานต่างๆ เช่น งานเดิน-วิ่ง งานเทศกาลท่องเที่ยว  และไปขายงาน CSR ที่ กฟผ. บางกรวยด้วย ตอนนั้นยังจับจุดสินค้าของตัวเองไม่ได้  แรกๆปั้นได้วันละ 10-20 ตัวต่อมาเริ่มเอาระบบอุตสาหกรรมเข้ามาใช้ ทำให้ผลิตได้เร็วขึ้น จนได้จดทะเบียน เป็นสินค้า O-TOP และวิสาหกิจชุมชนของอำเภอแม่เมาะ ตั้งแต่ปี 2547 จากนั้น กฟผ.แม่เมาะเข้ามาให้การสนับสนุน เรื่อยมาตั้งแต่เสนอการอบรม ออกบูธต่างๆ

คุณโจ บอกอีกว่า  ถ้ามีโอกาสก็เข้าร่วมกับทุกหน่วยงาน และเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง เพื่อทำให้เราเป็นมืออาชีพมากขึ้น  และนำสิ่งเหล่านั้นมาต่อยอด ให้ยืนได้ด้วยตัวเอง  เพื่อให้คนอื่นเห็นว่าสิ่งที่เราไปเรียนรู้มาทำได้สำเร็จเห็นผลจริง  

กระทั่งปี 2564 อารมณ์ดิน มีโอกาสได้เข้าร่วมโครงการเพิ่มทักษะด้านการประกอบธุรกิจให้กับผู้ประกอบการรายย่อยในพื้นที่อำเภอแม่เมาะ จัดโดยอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (STeP) ร่วมกับ กฟผ.  ในการนำเสนอแบบจำลองธุรกิจ (Business Model Canvas)

คุณโจได้ฉายแววความสามารถ โดยการออกแบบพระพิฆเนศปางนักลงทุน ซึ่งมาจากการสังเกตกระแสของ bitcoin กับหุ้นกำลังมาแรง ในช่วงโควิด จึงทำให้เกิดไอเดียนี้ขึ้นมา ซึ่งครั้งนั้น พระพิฆเนศ ปางนักลงทุน  ก็ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้รับโล่ The Best Pitching  ไปตามคาด  


และด้วยการสนับสนุนจากหลายฝ่าย และด้วยความสามารถที่โดดเด่นนี้ ทำให้งานปั้นอารมณ์ดี ของ อารมณ์ดิน ได้รับการไว้วางใจจาก กฟผ. แม่เมาะ ยกให้เป็นงานพรีเมียม สำหรับแจกให้แก่แขกผู้หลักผู้ใหญ่อีกด้วย

 

รู้เขารู้เรา อ่านเกมส์ให้ออก รบร้อยครั้งชนะร้อยครั้ง

 คนไทยชอบอะไรแบบจัดเต็ม เรารู้เราก็กลับมาเปลี่ยนแนวทางการออกแบบ ถ้าเกิดเราจะไปจับตลาดต่างประเทศเขาชอบอะไรที่มันที่มันสนุกสนานมากกว่าที่จะเยอะๆ ก็เลยมีการดีไซน์แปลกๆ รูปลักษณ์แปลกๆ ออกมา ด้วยงานดี มีไอเดียเลิศ ทำให้อารมณ์ดิน ได้จับมือกับทางคิงพาวเวอร์ (King power) ได้สำเร็จในปี 2558 ด้วยความฝันปั้นดินสู่ดาว ปั้นรอยยิ้มลัดฟ้าสู่สากล จึงมีการศึกษาเกี่ยวกับการส่งออก การตลาดต่างๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากทางคิงพาวเวอร์ ซึ่งช่วงนั้นอารมณ์ดิน ถือเป็นเสือตัวใหญ่ของ คิงพาวเวอร์ เลยก็ว่าได้

 

รายได้ 6 ล้าน โควิดซัด พลิกวิกฤติเปิดตัวพระพิฆเนศปางปราบโควิด



 ตั้งแต่ปี 58 ถึงปี 62 ถือว่าเป็นช่วงขาขึ้นของ อารมณ์ดิน ที่เป็นที่รู้จักกันดีในภาพจำของตุ๊กตาปั้นดินอารมณ์ดี ที่ถูกปั้นเป็นตุ๊กตาพระพิฆเนศ สามเณร หมูยิ้ม ควายยิ้ม เป็นต้น แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อเจอกระแสโควิด แม้แต่ตุ๊กตาเปื้อนยิ้มก็ดูจะเศร้าไปพักใหญ่ เชื่อว่าใครที่เจอสถานการณ์นี้คงจะรู้สึกเหมือนกัน แต่ด้วยไหวพริบของคุณโจที่มองวิกฤตให้เป็นโอกาสเสมอ จึงตระหนักได้ว่าช่วงเวลาแบบนี้ผู้คนต้องการอะไร โดยเฉพาะคนไทย ซึ่งช่วงนี้คุณโจก็ถือโอกาสตีตลาดไทยให้มากขึ้นด้วย จากปกติที่มุ่งส่งออกอย่างเดียว และสิ่งที่คนไทยต้องการมากที่สุดในช่วงเวลาเสียขวัญคือสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เลยมีการดีไซน์ออกมาเป็นองค์พระพิฆเนศปราบโควิด ซึ่งได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก โดยมีการเปิดจองอย่างรวดเร็วในเวลาไม่นาน

 

วางแผนทวงแชมป์คืน


ยาวมาถึง 2 ปี พนักงานทุกคนแยกย้ายไปทำงานในเหมืองบ้าง ไปทำงานในโรงงานที่ลำพูนบ้าง ทำงานในเหมืองบ้าง แต่ตอนนี้ก็ได้พูดคุยกับคนเดิมๆ เก่าๆ ถ้าเกิดว่าโรงงานเปิด มีงานเข้ามา กลับมาทำไหม ทุกคนก็บอกว่า ทำ เพราะเขาอยากทำงานใกล้บ้าน เขาเองก็รออยู่เหมือนกัน”

ทาง อารมณ์ดินก็มีแผนตีตลาดออนไลน์เพิ่มขึ้นในหลายช่องทาง ทั้งทางเพจ Facebook และ Instagram นอกจากนี้ก็มีการเรียกกลุ่มลูกค้ากลับมาได้เกือบ 80% ด้วยการอัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อเป็นการเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ลูกค้า และตอนนี้ก็ได้มีการเปิดตัวคอลเลคชันใหม่ เป็นแมวสฟิงซ์ใส่ชุดไทย ชุดพื้นเมือง ที่มีการเปิดจองแล้วเรียบร้อย

Collection ฮัก ส่งอ้อมกอดปลอบขวัญโควิด



ด้วยความที่เป็นคนมองการณ์ไกล คุณโจตระหนักว่าแต่ละประเทศที่ประสบโควิคอยู่เขาต้องการอะไร ซึ่งก็คิดว่าน่าจะเป็นการให้กำลังใจความห่วงใยซึ่งกันและกัน จึงมีการคิด Collection ส่งให้กับคิงพาวเวอร์ เพื่อรอต้อนรับชาวต่างชาติ โดยเขาให้ชื่อ Collection ว่า ฮักที่มาจากคำว่า ‘Hug’ แปลว่า กอดจะเป็นคาแร็คเตอร์น่ารักของเด็กไทยที่มีการเอาวัฒนธรรมของภาคเหนือใส่เข้าไป ในการแต่งกายในชุดประจำภาค ซึ่งจะเป็นการขายความเป็นเอกลักษณ์ของไทย และแสดงถึงความห่วงใยที่มีต่อเพื่อนร่วมโลก โดยจะเป็นตุ๊กตาเด็กไทยกอดสถานที่สำคัญต่างๆ ของแต่ละชาติ เช่น กอดหอเอน เมืองปิซ่า เป็นต้น




2 ปีกับโควิด เป็นบาดแผลหรือร่องรอยของความแข็งแกร่ง?

ผมไม่ได้มองว่าเป็นบาดแผล ผมมองว่าเป็นประสบการณ์ของเรามากกว่า 3 คำที่ผมได้ยึดถือมาในช่วงโควิดก็คือ ทำใจ ยอมรับ และปรับตัว

แม้ว่าลูกค้าคิงพาวเวอร์ และเงินหลักล้านจะหายไปในชั่วพริบตา แต่ด้วยสปิริต คุณโจเล่าว่า เขาต้องยอมรับกับมัน และเริ่มปรับตัวใหม่ ถือเป็นโอกาสที่ได้กลับมามองตัวเอง และสร้างฐานลูกค้าให้มากขึ้นเพื่อรองรับวิกฤตในอนาคต อย่างสินค้าออกแบบไว้หลายเดือนแล้ว ถ้าเกิดเปิดประเทศปุ๊บ ทุกอย่างลงตัวปุ๊บ ก็สามารถนำสินค้าไปนำเสนอให้แก่คิงพาวเวอร์ และวางขายได้เลย และยังได้กล่าวปิดท้ายไว้อีกว่า ผมก็ยังมองว่าเป็นโอกาส ถ้าเราไม่มองว่าเป็นโอกาส เรามองว่าเป็นบาดแผล ก็เจ็บช้ำ ไม่มีประโยชน์ โควิดมันมาก็จริง มันรุนแรงก็จริง แต่วันหนึ่งมันก็คงต้องไป หลังจากนั้นวันที่ฟ้าเปิด ฟ้าใส เราก็จะกลายเป็นคนที่มีอะไรรองรับรออยู่แล้ว





ผลิตภัณฑ์ของอารมณ์ดิน

เว็บไซด์ https://arromdin.com/

เฟซบุ๊ค : อารมณ์ดิน

อารมณ์ดิน สตูดิโอ 153/1 ม.8 ต.สบป้าด อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง



Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์