วันศุกร์ที่ 12 สิงหาคม พ.ศ. 2565

เร่งระบายน้ำเขื่อนกิ่วลม-กิ่วคอหมารองรับฝนตกหนักช่วง 11-17 ส.ค.นี้ พร้อมหารือการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบท้ายเขื่อนกิ่วคอหมา ประมาณ 2 พันไร่

 



นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานประชุมการหารือแนวทางการระบายน้ำเขื่อนกิ่วลม-กิ่วคอหมาและการเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบ โดยมีองค์กรปกครอง ท้องถิ่น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้นำชุมชนที่ได้รับผลกระทบเข้าร่วมประชุม ที่หอประชุมโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลมคอหมา ต.บ้านแลง อ.เมืองลำปาง วันที่ 11 ส.ค. 2565 ที่่ผ่านมา 




นายพีระยุทธ เหมาะพิชัย  ผอ.โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษากิ่วลม-กิ่วคอหมา รายงานว่า ตั้งแต่ช่วงปลายเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา มีน้ำเข้าเขื่อนทั้ง 2 เขื่อนหลัก 10 ล้าน ลบ.ม.เกือบทุกวัน จึงจะเป็นต้องมีการระบายน้ำออกต่อเนื่อง โดยวันที่ 10 ส.ค.65 มีน้ำไหลเข้าเขื่อนสูงที่สุดถึง 12 ล้าน ลบ.ม.   ซึ่งเขื่อนกิ่วลมได้มีการระบายออกวันละประมาณ  9 ล้าน ลบ.ม.  ส่วนกิ่วคอหมาอยู่ที่ประมาณวันละ 6 ล้าน ลบ.ม.  แต่ในช่วงวันที่ 11-17 ส.ค.นี้ จะต้องเตรียมพร้อมรับฝนที่ตกลงมาอีก จึงมีการวางแผนร่วมกันหาทางออกในการระบายน้ำออกเพิ่มขึ้นให้กระทบกับผู้อาศัยอยู่ท้ายน้ำน้อยที่สุด 



          นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง กล่าวว่า จังหวัดได้รับการแจ้งเตือนจาก สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สนทช. ว่าน้ำเก็บกักของ 2 เขื่อนเกินเกณฑ์การเก็บกักสูงสุดแล้ว จึงต้องมีการระบายน้ำออกให้มีความสมดุล และประชาชนต้องได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด โดยเฉพาะประชาชนท้ายเขื่อนกิ่วคอหมา 4 ตำบลคือ ปงดอน แจ้ห่ม บ้านสา และวิเชตนคร ที่ได้รับผลกระทบ ผลการตกลงกันสรุปได้ว่า ชาวบ้านขอให้ปล่อยน้ำในระดับ 70 ลบ.ม. แต่ไม่เกิน 100 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือประมาณ 9 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน   แม้จะได้รับผลกระทบแต่ยังพอรับเงื่อนไขได้  ส่วนของเขื่อนกิ่วลมนั้นได้รับมวลน้ำจากเขื่อนกิ่วคอหมาเพิ่มขึ้น จึงต้องปล่อยออก 150 ลบ.ม.ต่อวินาที หรือประมาณ 12 ล้าน ลบ.ม.ต่อวัน  ระดับนี้พื้นที่ท้ายเขื่อนยังไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด




          ผู้ว่าราชการจังหวัด กล่าวอีกว่า  น้ำมักจะมาเร็วไปเร็ว มามากไปมาก ก็เกิดความเสียหายมาก แต่เราโชคดีที่มีเขื่อนเก็บกักไว้ก่อน และบริหารจัดการให้น้ำที่มาเร็วแต่ไปไม่เร็ว เพื่อให้เกิดความสูญเสียท้ายน้ำน้อยที่สุด  ถ้าไม่มีเขื่อนรองรับมวลน้ำวันละ 13 ล้าน ลบ.ม. ความเสียหายมากมายแน่นอน  ยังไงก็ต้องปล่อยน้ำออก แต่จะช่วยชะลอให้น้ำไปช้าลง จะไม่เกิดความสูญเสียเลยคงเป็นไปไม่ได้ แต่เราจะทำให้เกิดขึ้นน้อยที่สุด  


สำหรับการระบายน้ำที่ ส่งผลให้ประชาชนที่อยู่ท้ายเขื่อนกิ่วคอหมา ได้รับผลกระทบประมาณ 80 ไร่ ทำให้ได้รับความเสียหายด้านพืชผลทางการเกษตร ,ด้านประมง,ด้านปศุสัตว์  ซึ่งหากมีการปล่อยน้ำเพิ่มอาจจะกระทบไปถึง 2,000 ไร่  ในที่ประชุมได้ร่วมกันวางแผน การให้ความช่วยเหลือและเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบโดยชดเชยค่าความเสียหายต่อไป

โดยให้ติดตามพยากรณ์อากาศในพื้นที่จังหวัดลำปาง ระหว่างวันที่ 10 - 17 สิงหาคมประกอบด้วย  กรณีเกิดฝนตกหนักและมีน้ำเข้าเขื่อนมากกว่าเกณฑ์ อาจจะต้องการพิจารณาปล่อยเพิ่มขึ้นตามความเหมาะสม  ซึ่งทางผู้ว่าราชการฯ กำชับการติดตามและเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด 



Share:

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

18 ปี ลานนาโพสต์

โครงการปั้นดาว

โครงการปั้นดาว
ขับเคลื่อนโดย Blogger.

จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

สถิติการเข้าชมเว็บไซต์