จากกรณีที่มีหนังสือลงนามโดยผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง มีข้อความระบุว่า 'ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบภาค 5 ได้ประทับรับฟ้องในคดีที่พนักงานอัยการดำเนินการฟ้องคดีตามที่ คณะกรรมการ
ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด คดีหมายเลขดำที่ อท.93/2565 วันที่
5 ก.ค. 65 นายนิมิตร จิวะสันติการ ที่ถูกฟ้องเป็นจำเลยที่ 1 ในคดีดังกล่าว ซึ่งเป็นผู้บิหารท้องถิ่น
จึงต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่โดยผลของกฎหมายตามมาตรา 93 ประกอบมาตรา
81
แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561'
ลานนาโพสต์
สอบถาม นายสิธิชัย จินดาหลวง
ผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า
ในหนังสือผู้ว่าฯไม่ได้สั่งให้ทางนายกเทศมนตรีหยุดปฏิบัติหน้าที่
แต่เป็นการรับทราบและแจ้งให้ถือปฏิบัติตามกฎหมายของ ป.ป.ช.
ในเรื่องนี้เป็นการร้องเรียนโครงการของเทศบาล
เมื่อหลายปีมาแล้ว เกี่ยวกับกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างไม่ถูกต้องตามระเบียบ ทาง
ป.ป.ช.ก็ได้ลงมาสอบสวน ผลได้ข้อสรุปว่ามีมูล จึงดำเนินการตามระเบียบกฎหมาย
มีการส่งฟ้องศาลอาญาคดีทุจรติ และประพฤติมิชอบ ภาค 5 เมื่อศาลประทับรับฟ้อง ตามกฎหมายของ
ป.ป.ช. มาตรา 81 ระบุไว้ชัดเจนว่า
ผู้บริหารท้องถิ่นต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งทาง ป.ป.ช.ได้แจ้งไปยังเทศบาล และเทศบาลก็ได้รายงานมายังจังหวัด
ผู้ว่าฯได้รับทราบถึงข้อเท็จจริงนั้นและแจ้งไปยังเทศบาลนครลำปางให้ถือปฏิบัติตามข้อกฎหมาย นายกเทศมนตรีก็ต้องถือปฏิบัติ และรอคดีถึงที่สุดก่อน
ผู้ว่าราชการจังหวัด
กล่าวว่า ถึงแม้ว่านายกฯจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ ก็ยังมีทีมรองนายกฯ ข้าราชการประจำ
รักษาการอยู่ เทศบาลยังคงทำงานได้อย่างต่อเนื่อง
แต่การจะกลับมาทำงานได้เมื่อไรต้องรอผลการตัดสินของศาลจะออกมาแนวทางไหน
อาจจะใช้เวลาอีกสักระยะหนึ่ง
เมื่อเข้าสู่กระบวนการศาลรอบนี้คงจะไม่นาน เพราะสำนวนการสอบสวนชัดเจน
การรวบรวมหลักฐานต่างๆครบถ้วนอยู่แล้ว
ทั้งนี้
ศาลได้ประทับรับฟ้องเมื่อวันที่ 5 ก.ค.65 ที่ผ่านมา
โดยนายนิมิตร จิวะสันติการ
ได้เดินทางไปขึ้นศาลด้วยตัวเอง ต่อมาวันที่
9 ส.ค.65 นายสิธิชัย จินดาหลวง ผู้ว่าราชการจังหวัด
จึงได้ออกหนังสือรับทราบเรื่องและส่งกลับมายังเทศบาลให้ถือปฏิบัติตามระเบียบและกฎหมายของ
ป.ป.ช. ดังกล่าว
ผู้สื่อข่าวทราบว่าสัปดาห์นี้ นายนิมิตร ได้ลาพักผ่อนและเดินทางไปทำธุระที่ต่างจังหวัด จึงได้ติดต่อสอบถามไปทางโทรศัพท์ ซึ่งนายนิมิตรแจ้งว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ แต่ตอนนี้ติดภารกิจยังไม่สะดวกให้ข้อมูล และขอให้ติดต่อมาใหม่ภายหลัง
พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
พ.ศ. 2561
**มาตรา 81 ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองประทับฟ้อง
ตามมาตรา 77
ให้ผู้ถูกกล่าวหาหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคําพิพากษา
เว้นแต่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น
ในกรณีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองมีคําพิพากษาว่าผู้ถูกกล่าวหากระทําความผิดตามที่ถูกกล่าวหา
ให้ผู้ต้องคําพิพากษานั้นพ้นจากตําแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่
และให้เพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งของผู้นั้น และจะเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งมีกำหนดเวลาไม่เกินสิบปีด้วยหรือไม่ก็ได้
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น