จากกรณีที่เครือข่ายเกษตรกรจังหวัดลำปางรวมตัวกันประมาณ 50 คน เดินทางมายื่นหนังสือ เพื่อขับไล่หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดลำปาง โดยให้เหตุผลว่า มีพฤติกรรมก้าวร้าวไม่มีสัมมาคารวะ ต่อคณะอนุกรรมการกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรจังหวัดลำปาง ชอบข่มขู่และด่าเกษตรกร ไม่จัดให้มีประชุมอนุกรรมการระดับจังหวัด ฯลฯ
น.ส.อธิภัทร
ก้อวงค์
หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร สาขาจังหวัดลำปาง เปิดเผยว่า กรณีที่มีการรวมตัวมาร้องเรียนและขับไล่ตนเองที่ศาลากลางจังหวัดลำปาง
คาดว่าจะมาจากสาเหตุที่ทาง สำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ ได้อนุมัติโครงการที่ชาวบ้านขอเงินเข้ามา
เพื่อนำไปจัดซื้อหมู และวัว เมื่อโอนเงินให้กลุ่มชาวบ้านแล้ว
จะต้องมีการจัดตั้งกรรมการตรวจรับงาน เพื่อให้เป็นไปตามรายการขออนุมัติไว้ แต่มีชาวบ้านอยู่กลุ่มหนึ่ง
ซึ่งมีผู้เข้าร่วมโครงการ 10 คน ขอวงเงินไป 3 แสนบาท เมื่อตนลงพื้นที่ไปติดตามโครงการร่วมกับคณะกรรมการตรวจรับ
กลับพบว่าไม่เป็นไปตามที่ระบุไว้ในโครงการ
จึงแจ้งให้ไปแก้ไข ซึ่งการติดตามโครงการครั้งแรกจะเป็นการประชุม และให้คำแนะนำ
แต่ถ้ายังไม่แก้ไข ครั้งที่ 2 จะมีการทำหนังสือแจ้งเตือน และครั้งที่ 3
จะต้องสั่งให้ยกเลิกโครงการ คิดว่าสาเหตุของการร้องเรียนมาจากเรื่องนี้ ซึ่งได้ให้เจ้าหน้าที่ไปร่วมสังเกตการณ์
เมื่อเห็นภาพของผู้ยื่นหนังสือก็แปลกใจ
เพราะไม่รู้ว่าผู้ที่มาร้องเรียนเป็นใคร ไม่ใช่ผู้ที่เดือดร้อนจริง
หัวหน้าสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯ
กล่าวอีกว่า ส่วนการร้องเรียนเรื่องที่ไม่มีการจัดประชุมคณะอนุกรรมการระดับจังหวัด ตอนนี้คณะอนุกรรมการฯ อยู่ระหว่างรับสมัคร
และการสรรหา ตามจริงต้องมีการแต่งตั้งมาแล้ว
แต่ติดปัญหาภายในที่กำลังตรวจสอบกันอยู่ จึงยังไม่สามารถแต่งตั้งได้
ทำให้ไม่มีการประชุมเพราะยังไม่ชัดเจน เรื่องนี้ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับตนเองเลย
ส่วนเรื่องการพาเกษตรกรไปขายของ
และไม่มีค่าอาหาร ค่าที่พักให้นั้น อยู่ที่แต่ละโครงการว่ามีงบประมาณมาเท่าไร
อย่างไรบ้าง ซึ่งบางโครงการก็ไม่มีงบประมาณให้
ทางสำนักงานเพียงแต่จัดการหาสถานที่เพื่อให้เกษตรกรมีจุดจำหน่ายสินค้าเท่านั้น
แต่ก็ยังมีคนไม่พอใจอีก ซึ่งเรื่องนี้ตนคิดว่าไม่น่าจะเป็นประเด็นที่จะร้องเรียนกัน
ก่อนหน้านี้เคยโดนร้องเรียนมาแล้วหลายครั้ง
แต่ตนเองไม่ได้กังวล เพราะทำงานตามหน้าที่และผลงานเป็นที่ประจักษ์ เรามาทำงานก็อยากให้เงินงบประมาณของรัฐไปถึงประชาชนจริงๆ
สามารถสร้างอาชีพสร้างรายได้จริง
เป็นเจตนารมณ์ของสำนักงาน แต่ก็คิดว่าเรื่องนี้มีความไม่ชอบมาพากล
และไม่เป็นธรรมกับตนเอง ซึ่งก็รอการชี้แจงตามขั้นตอนต่อไป น.ส.อธิภัทร กล่าว.
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น