เต้ มงคลกิตต์ ลั่นขอปักธง ส.ส.ลำปาง 2 เขต แบ่งเบาภาระ2ตระกูลใหญ่ที่ผูกขาดมานาน มั่นใจได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล พร้อมสอนงานลุงตู่ให้อภิปรายได้และเป็นฝ่ายค้านที่ดี

          วันที่ 18 ก.พ.66  นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์  หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  พร้อมด้วย  นางสาวภคอร จันทรคณา-พลโท อัศวิน รัชฎานนท์-นายวิวัฒน์  เจริญพาณิชย์ศิริ  รองหัวหน้าพรรค นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรค นายสรกฤช  จันทรคณา  โฆษกพรรค, นางสาว อรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์ โฆษกประจำตัว ส.ส.มงคลกิตติ์ฯ,นางสาวอริญรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค,นางสาวณัฐปภัสร์  วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค ,นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ รองโฆษกพรรค ฯลฯ  ร่วมกันลงพื้นที่ จ.ลำปาง เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครเลือกตั้ง ส.ส.ลำปาง ในนามพรรคไทยศรีวิไลย์  พร้อมกับพบปะชาวบ้านในพื้นที่

          โดยในช่วงเช้าได้ลงพื้นที่ตลาดรัตน์เก๊าจาว ต.สบตุ๋ย อ.เมืองลำปาง แนะนำตัวและเยี่ยมเยือนบรรดาพ่อค้าแม่ค้า เพื่อติดตามรับทราบปัญหาต่างๆ  จากนั้นได้นั่งรถม้าแห่รอบเมืองลำปาง

          นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์  หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์  เปิดเผยว่า จากที่ลงพื้นที่ตลาดพบว่ามีพ่อค้าแม่ค้าเยอะ แต่ลูกค้าน้อย กำลังซื้อของชาวลำปางน้อย เนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจต่างๆ  นโยบายเร่งด่วนคือการอัดฉีดในระบบเศรษฐกิจ นโยบาย  1.5 แสนบาทต่อครอบครัว ให้กู้ ดอกเบี้ย 0.01%  ผ่อนเดือนละ 3,000 กว่าบาท  ซึ่งเงินส่วนนี้จะนำไปใช้หนี้นอกระบบ  ปรับโครงสร้างหนี้อยู่ในภาวะปกติ  และนำเงินมาหมุนเวียนทางธุรกิจครอบครัวได้   โดยใช้แนวทางเดียวกับที่รัฐบาลเคยใช้คือการออกเงินกู้ให้ sme ต่างๆ  เป็นต้น

          

          การเมือง จ.ลำปาง มี 2 ตระกูลในพื้นที่ คือ โล่ห์สุนทร และจันทรสุรินทร์   ที่ผูกขาดมานาน  ท่านสองคนก็อาวุโสมากแล้ว ทำงานมานานดูแล้วก็ไม่ค่อยมีอะไรดีขึ้น เลยมาขอแบ่งเบาภาระงานของท่านคนละเขต โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขต 4 ซึ่งคาดหวังว่าจะได้เก้าอี้ ส.ส.มาครอง

โดย จ.ลำปาง ทางพรรคได้มีการส่งผู้สมัครลงครบทุกเขต ประกอบด้วย เขต 1  นายสายันต์ ใหม่ทา  อาชีพทนายความ  เขต 2 นายจรัสรัตน์ ทัศนา  เขต 3 นางปทิตตา อารักษ์  และเขต 4 นายสะอาด สำเรืองจิตร์ อดีตนายก อบต.ลำปางหลวง

ลำปางต้องลองเปลี่ยนดู แต่ถ้าเปลี่ยนแล้วไม่ดีก็กลับมาเปลี่ยนได้อีกครั้งในปี 2570  แต่ที่ผ่านมา 20 ปีลำปางยังไม่เคยเปลี่ยน ลองสักครั้งเชื่อว่า จ.ลำปางจะพลิกโฉมทันที

 

นายมงคลกิตติ์ กล่าวอีกว่า ตนจะบริหารงานแบบม้าลำปาง ม้าที่เปิดตา และเดินไปข้างหน้าแบบมองซ้ายของขวา ไม่ใช่เหมือนกับพลเอกประยุทธ์ที่บริหารประเทศมา 8 ปี ยังไม่เปิดตา เดินหน้าชนกำแพงไปเรื่อย ทำให้ประเทศเป็นหนี้สินเพิ่มขึ้นมหาศาล ไม่ได้บอกว่าลุงไม่ดี แต่ไร้ความสามารถเท่านั้นเอง

และตนมั่นใจว่าจะได้ก้าวเข้าเป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพราะได้พูดคุยกับหลายพรรคการเมืองไว้แล้ว ส่วนพลเอกประยุทธ์ ขอเรียกว่าน้อง ส.ส. คงต้องเสียเวลาไปสอนให้เป็นฝ่ายค้านสักหน่อย ดูแล้วคงจะอภิปรายไม่ค่อยเป็น ต้องฝึกอีกเยอะพอสมควรกับการเป็นฝ่ายค้านที่ดี