ไฟป่าลุกลามไหม้ที่พักสงฆ์ ดอยบ่อน้ำทิพย์ เสียหายกว่า 3 ไร่ พระพุทธรูปและโรงเก็บของถูกไฟไหม้ทั้งหมด คาดฝีมือคนจุดทำให้ลุกลามจากด้านล่างขึ้นบนดอย

 

วันที่ 8 ก.พ.66  ได้เกิดไฟป่าลุกไหม้ บนดอยบ่อน้ำทิพย์ เขตบ้านห้วยหลวงพัฒนา หมู่ 15 ต.บ้านเสด็จ อ.เมืองลำปาง  ซึ่งเป็นที่ตั้งของที่พักสงฆ์วัดจำค่าวนาราม ซึ่งพระครูบาปลัดสรยุทธ สรัญโญ เจ้าอาวาสวัดจำค่าวนาราม รวมทั้งศรัทธาชาวบ้านได้เข้ามาช่วยกันก่อสร้างที่พักสงฆ์แห่งนี้ ไว้เพื่อเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมนั่งสมาธิ

โดยพระครูบาปลัดสรยุทธ สรัญโญ  ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจสอบที่พักสงฆ์ดังกล่าว ซึ่งต้องเดินทางโดยรถยนต์ขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น และจะต้องเดินขึ้นดอยไปอีกประมาณ 500 เมตร  ตลอดเส้นทางพบว่าได้เกิดไฟลุกไหม้อยู่ตลอดเวลา  และมีร่องรอยไฟไหม้ตามเส้นทางเดินเข้าไปทางที่พักสงฆ์ เห็นเศษใบไม้เป็นขี้เถ้าดำจากการถูกไฟไหม้ชัดเจนไปตลอดเส้นทาง จนไปถึงด้านบนและยังพบร่องรอยการถูกไฟไหม้เป็นบริเวณกว้าง พื้นที่กว่า 3 ไร่  

จากการตรวจสอบพบว่า พระพุทธรูปได้รับความเสียหาย 1 องค์ และโรงเก็บของ โต๊ะ เก้าอี้ต่างๆ ที่ชาวบ้านช่วยขนกันขึ้นมาบนดอย ได้รับความเสียหายพังทั้งหลัง  ซึ่งถือว่าโชคดีที่ไฟไม่ลุกลามไหม้ยังกุฏิ หอพระ หอสวดมนต์ และจุดอื่นๆอีก   โดยชาวบ้านได้ช่วยกันเก็บกวาดเศษเถ้าใบไม้ และสิ่งของต่างๆที่ถูกไฟไหม้ออก

พระครูบาปลัดสรยุทธ เล่าว่า เมื่อ 30 ปีก่อนได้เดินธุดงค์เข้ามาพบสถานที่แห่งนี้และได้มาปักกลดนั่งสมาธิ  ด้านบนจะมีบ่อน้ำที่ไม่เคยแห้งเหือด  ชาวบ้านจึงเรียกกันว่าบ่อน้ำทิพย์ และใช้น้ำจากบ่อนี้ไปใช้ประโยชน์ สรงน้ำพระ ใช้ซักล้างต่างๆ  จากนั้นได้ช่วยกันขนของเข้ามาก่อสร้างที่พักสงฆ์ ได้ประมาณ 10 ปีแล้ว  คนที่ชอบความสงบก็จะเข้ามาสวดมนต์นั่งสมาธิอยู่ที่แห่งนี้เป็นประจำ แต่ช่วงกลางคืนจะไม่มีใครมานอนพักอยู่ จะมีเพียงสุนัขที่เลี้ยงไว้ 3-4 ตัวอยู่เฝ้าเท่านั้น

 

โดยช่วงคืนวันที่ 7 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้เกิดไฟป่าลุกลามเข้ามาไหม้ภายในที่พักสงฆ์ได้รับความเสียหาย กว่าจะรู้เรื่องกันก็ตอนเช้าแล้ว จึงไม่ได้มีใครเข้ามาดับ ไฟได้ลุกลามเป็นวงกว้างและดับไปเอง  แต่ก็ยังมีการปะทุขึ้นมารอบๆอยู่เรื่อยๆ   

“ไฟคงไม่สามารถเกิดขึ้นเองได้  คาดว่าจะมีคนเข้ามาหาของป่าใกล้เคียง และจุดไฟทำให้ลุกลาม”  พระครูบาปลัดสรยุทธ กล่าว

และขณะที่กำลังตรวจสอบพื้นที่อยู่นั้น ยังพบว่าได้เกิดไฟไหม้ตลอดทางเดินที่ขึ้นบนดอยอยู่ตลอด เนื่องจากในพื้นที่มีลมแรง ทำให้ได้พัดเศษใบหญ้าที่ติดไฟต่อๆกันไป  โดยชาวบ้านก็ไม่สามารถดับได้เพราะไม่มีอุปกรณ์จึงต้องปล่อยให้ไฟลุกไหม้ไปเรื่อยๆจนดับไปเอง   ทั้งนี้ ชาวบ้านได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าดำเนินการแล้ว