สำหรับผู้ผ่านเกณฑ์ที่เป็นผู้พิการ
ผู้ป่วยติดเตียง
หรือผู้สูงอายุที่ไม่สามารถเดินทางมายืนยันตัวตนได้ด้วยตนเองสามารถมอบอำนาจให้ผู้อื่นดำเนินการตรวจสอบสิทธิ
และ/หรืออุทธรณ์ได้ โดยจะต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
1.บัตรประจำตัวประชาชนของผู้ลงทะเบียน
(ผู้ได้รับสิทธิ)
2.บัตรประจำตัวประชาชนของผู้รับมอบอำนาจ
3.หนังสือมอบอำนาจ
(สามารถดาวน์โหลดได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th)
4.บัตรประจำตัวคนพิการ
(ถ้ามี) หรือใบรับรองแพทย์ (ถ้ามี)
ทั้งนี้เมื่อผู้ผ่านเกณฑ์ยืนยันตัวตนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะสามารถตรวจสอบสถานะการยืนยันตัวตนของตนเองผ่านทางเว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th ในวันถัดไป หรือติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่หน่วยงานรับลงทะเบียนทั้ง 7
หน่วยงาน หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
นอกจากนี้ผู้ผ่านเกณฑ์ที่ยังไม่มีบัญชีธนาคารจะต้องเปิดบัญชีธนาคารและผูกบัญชีพร้อมเพย์กับหมายเลขประจำตัวประชาชน
โดยสามารถเปิด “บัญชีพื้นฐาน” ซึ่งเป็นบัญชีเงินฝากที่ไม่กำหนดจำนวนเงินขั้นต่ำในการเปิดบัญชี
ทั้งนี้
ประเภทบัญชีดังกล่าวเป็นการให้บริการเฉพาะผู้มีรายได้น้อยที่ลงทะเบียนภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
และผู้มีอายุ 65 ปีขึ้นไป
โดยผู้ที่ประสงค์จะเปิดบัญชีดังกล่าวสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อเปิดบัญชีได้จากธนาคารออมสิน
ธ.ก.ส. และธนาคารพาณิชย์ทั้ง 14 แห่งทุกสาขาทั่วประเทศ
ทั้งนี้หากผู้ผ่านเกณฑ์ดำเนินการยืนยันตัวตนภายในวันที่
1 – 26 มีนาคม
2566 และตรวจสอบพบว่า ผ่านการยืนยันตัวตน (e-KYC) จะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการผ่านบัตรประจำตัวประชาชนได้ตั้งแต่วันที่ 1
เมษายน 2566 แต่หากผู้ผ่านการพิจารณาคุณสมบัติยืนยันตัวตนหลังวันที่
26 มีนาคม 2566 จะได้ใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐได้ตามวันที่กระทรวงการคลังกำหนด
สำหรับผู้ได้รับสิทธิสวัสดิการแห่งรัฐปัจจุบันจะสามารถใช้สิทธิสวัสดิการแห่งรัฐผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้จนถึงวันที่
31 มีนาคม 2566 เท่านั้น
ทั้งนี้
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดโครงการฯ เพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ https://บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ.mof.go.th หรือ https://welfare.mof.go.th
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น