พรรคภูมิใจไทย
โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นำเสนอนโยบายในการเลือกตั้ง 2566
ในรูปแบบ “พูดแล้วทำ”
1.นโยบายพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย
-รายได้ดี
4 ปี 6 ล้านล้านบาท เพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวสู่ 80 ล้านคน เพิ่มรายได้จากการท่องเที่ยว สู่ 6
ล้านล้านบาท ภายในปี 2570
-สร้างงานดี
งานดี 10 ล้านตําแหน่ง เพิ่มอัตราการจ้างงาน สร้างแรงจูงใจ พัฒนาศักยภาพแรงงาน
-กองทุนท่องเที่ยว
ชุมชนดี แหล่งท่องเที่ยวดี และผู้ประกอบการดี ด้วยกองทุน ท่องเที่ยว
-เพิ่มรายได้ในภาคการท่องเที่ยว
โดยการเพิ่มระยะเวลาการพํานัก จํานวนการใช้จ่ายต่อคน และ
เพิ่มจํานวนนักท่องเที่ยวกลุ่มใช้จ่ายสูง
-365 วัน เที่ยวทุกที่ เที่ยวทั้งปี รายได้ดี ไม่มีวันหยุด
-กําจัด
Low
Season แก้ปัญหาการกระจุกตัวของ นักท่องเที่ยว สร้างสมดุลของการ
ท่องเที่ยวทั้งในเชิงพื้นที่และเวลา ส่งเสริมกิจกรรมการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี
ครอบคลุมทั่วทุกภูมิภาคในประเทศไทย โดยใช้ Event รูปแบบต่าง
ๆ ทั้งระดับชาติ และระดับนานาชาติ
ดึงดูดการเดินทางท่องเที่ยวให้กระจายตัวไปยังเมืองต่าง ๆโดยเฉพาะในช่วง Low
Season จํานวนไม่น้อยกว่า 300 กิจกรรม
-Wellness
Resort of the World รักษา เมืองหลัก พักฟื้น เมืองรอง
จุดหมายแห่งการ "รักษา" "พักผ่อน" และ "ฟื้นฟู"
ร่างกายและจิตใจ ของประชากรโลก
2.พักหนี้ 3
ปี หยุดต้น ปลอดดอกคนละไม่เกิน 1 ล้านบาท
หยุดต้น
ปลอดดอก คือ ไม่ต้องจ่ายทั้งเงินต้น และ
ดอกเบี้ย เป็นเวลา 3ปี และดอกเบี้ยจะไม่มาทบต้น
ทบดอก เหมือนโครงการพักหนี้เกษตรกร และ พักหนี้อื่นๆ ที่เคยมีมา
หนี้แบบที่พักได้
หนี้ในระบบที่มีการทำสัญญาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย กับ
เจ้าหนี้ที่รัฐบาลรับรองให้ปล่อยเงินกู้ได้ ได้แก่ ธนาคาร / สถาบันการเงิน /
สหกรณ์ / กยศ. / กองทุนหมู่บ้าน / บัตรเครดิต / ไฟแนนซ์ / ลีซซิ่ง /
เมื่อประชาชน
ไม่ต้องชำระหนี้ ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย จะทำให้มีกำลังซื้อมากขึ้น ผู้ประกอบการ
ผู้จำหน่ายสินค้าจะมีรายได้ ธุรกิจเดินหน้าได้ และ
รัฐจะได้รับภาษีมูลค่าเพิ่มจากการใช้จ่ายของประชาชน ร้อยละ 7 ทุกๆ 100 บาท ที่มีการใช้จ่าย รัฐจะได้ 7 บาท หากมีเงินหมุน 3 รอบ ทุกๆ 100 บาท ที่ใช้จ่ายรัฐจะมีรายได้จากภาษีมูลค่าเพิ่ม 21
บาท เป็นรายได้ที่นำมาใช้ในโครงการพักหนี้ และพัฒนาประเทศ ได้อีกด้วย
คาดว่าจะเริ่มได้เมื่อไร ภายใน 3 เดือน
หลังจากหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะนายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เสร็จสิ้น
3.นโยบาย “เกษตรร่ำรวย”
“ เกษตรร่ำรวย” ด้วย Contract Farming รู้ราคาก่อนปลูก รับเงินก่อนขาย เสียหายมีประกัน นโยบาย “ เกษตรร่ำรวย”
ด้วย Contract Farming จะนำมาใช้กับ 4 ชนิด ที่มีการกำหนดราคารับซื้อล่วงหน้า ในตลาดโลก ได้แก่ ข้าว ยางพารา
มันสำปะหลัง และ ปาล์มน้ำมัน และจะขยายไปสู่พืช หรือ ผลผลิตการเกษตรชนิดอื่นๆ
ต่อไป เช่น ข้าวโพด มะพร้าว ลำไย ซึ่งเป็นพืชเศรษฐกิจ ของประเทศไทย
เกษตรร่ำรวย
ด้วย Contract
Farming ที่นำเสนอนี้ เป็นนโยบายที่ทำได้จริง หากพรรคภูมิใจไทย
ได้รับเลือกตั้งจากประชาชนให้ไปจัดตั้งรัฐบาล จะทำทันที ปัจจุบันนี้
เกษตรกรที่ทำเกษตรแบบ Contract farming กับภาคเอกชน
สามารถขายผลผลิตได้ราคาที่มีกำไร เพื่อให้เกษตรกรทุกรายมีโอกาสเข้าสู่ระบบนี้
เพื่อแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกร และมีกำไร อย่างยั่งยืน
4.นโยบายสาธารณสุข
เครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง
ฟรี ทุกจังหวัด ศูนย์ฟอกไตฟรีทุกอำเภอ 2 โรคร้าย
ที่เป็นสาเหตุแห่งความสูญเสียของคนไทย มากที่สุด ทั้ง สูญเสียสุขภาพ สูญเสียชีวิต
และ สูญเสียทางเศรษฐกิจ อย่างมากมายในแต่ละปี ได้แก่ โรคมะเร็ง และ โรคไต
5.นโยบายพลังงานสะอาด
ลดรายจ่ายประชาชน
ฟรีหลังคาโซล่าเซลล์
ลดค่าไฟฟ้า หลังคาเรือนละ 450 บาท ประชาชนทุกคน
ได้รับสิทธิเข้าร่วมโครงการใช้หลังคาบ้าน ติดตั้งโซล่าเซลล์ เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใช้ในบ้านเรือนของตนเอง
คิดเป็นค่ากระแสไฟฟ้า ไม่น้อยกว่า 450 บาท ต่อเดือน
และส่งกระแสไฟฟ้าส่วนเกินที่ผลิตได้ ขายให้แก่รัฐบาล ผ่านระบบของการไฟฟ้า
ซึ่งจะต้องปรับบทบาทหน้าที่ เป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้ของรัฐบาล
มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ผ่อน เดือนละ 100 บาท 60 งวด เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์
เต็มที่ ประชาชน ทุกคนที่นำบ้าน ที่พักอาศัย เข้าร่วมโครงการติดตั้งโซล่าเซลล์ ฟรี
จะได้รับสิทธิซื้อมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าบ้านละ 1คัน ในราคา 6,000 บาท ด้วยระบบผ่อนชำระ เดือนละ 100 บาท เป็นเวลา 60 เดือน และสามารถใช้เครดิตพลังงาน เติมกระแสไฟฟ้า ได้ โดยไม่ต้องจ่ายค่าพลังงานสำหรับรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
ซึ่งจะช่วยลดรายจ่ายให้แก่ประชาชน ทั้งการซื้อรถราคาถูก และ
ไม่ต้องเสียเงินค่าพลังงาน
อ่านเพิ่มเติมที่ https://bhumjaithai.com/policy
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น